“เข้าใจเรื่องGEN” Trend 2024 จาก TCDC
วันนี้จะนำเสนอเฉพาะ “GENERATION FOCUS”
“มองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ในความคุ้นเคยเดิม”
ในขณะที่โลกกำลังรับมือกับอาฟเตอร์แมตช์ของวิกฤตเก่า อีกทางหนึ่งก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับโจทย์วิกฤตใหม่ที่เข้ามาปะทะอย่างไม่มีหยุดพัก ตั้งแต่การล่มสลายของห่วงโซ่อุปทาน บริษัทที่ขาดแคลนพนักงาน การอพยพครั้งใหญ่ การพัฒนาความสามารถอย่างรวดเร็วของ AI ภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ สงครามและความขัดแย้ง ไปจนถึงจิตใจที่บรรจุไว้ด้วยความไม่แน่นอนของผู้คน
ฝุ่นควันแห่งความยุ่งเหยิงอุตลุดเหล่านี้ เมื่อพิจารณาดูดี ๆ จะเห็น ”แสงสว่างในนามของการตระหนักรู้ของผู้คนจำนวนมาก”
ว่าแท้จริงแล้วเรานั้นต่างก็มีผล กระทบที่เชื่อมโยงในชีวิตของกันและกัน ผ่านความสัมพันธ์ที่เปราะบางของการต้องพึ่งพาอาศัยกัน
ระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติ และรูปแบบสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
ดังสุนทรพจน์ปี 2021 ของ ติช นัท ฮันห์ (Thich Nhat Hanh) พระภิกษและผู้นำทางจิตวิญญาณระดับโลกชาวเวียดนาม ที่ได้เสนอแนวคิดในการแทนที่วลี "เป็น (to be)" ด้วยคำใหม่ว่า "เป็น ระหว่างกัน (to-inter be)" เพื่อแสดงให้เห็นว่าบุคคล สัตว์ ธรรมชาติ ธุรกิจ และการออกแบบนั้น ล้วนแต่อยู่ในระบบนิเวศเดียวกันทั้งสิ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องพึ่งพากัน เพื่อนำไปสู่ความอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้
เวอร์จิเนีย เฮฟเฟอร์นาน (Virginia Heffernan) นักข่าวและนักวิจารณ์วัฒนธรรมชาวอเมริกันได้เคยอธิบายไว้ว่า "แฟนตาซีของชีวิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพอร์ฟอร์แมนช์ดีเลิศ สุดยอดแห่งความโปรดักทีฟ และความมีประสิทธิผลได้เป็นการสร้างความเป็นไปได้สู่ชีวิตที่ทีมเทาที่สุด แต่ทำให้ฟังดูว่าชีวิตติดโปรดักทีฟนั้นช่างเป็นเรื่องที่น่ายกย่องเสียเหลือเกิน"
ในปี 2024 REMADE ANEW จึงมีความหมายถึง”การเปิดกว้างต่อทุกความรู้สึก ด้วยความมุ่งหวังที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น”
“พร้อมกับการที่เราทุกคนจะรู้สึกกลัวหวาดระแวง วิตกกังวล สงสัย สนุก ตื่นเต้น ยินดีกับสิ่งใหม่ไปพร้อมกันได้ โดยฝากความหวังไว้กับภาคธุรกิจในการมีบทบาทร่วมด้วยช่วยกันเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้น ผนึกกำลังกันแก้ปัญหาทุกความท้าทายทางสังคม”
เนื้อหาในหนังสืออีบุ๊ก เจาะเทรนด์โลก 2024 พร้อมทำหน้าที่รวบรวม ”ข้อมูลและเสนอแนะความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น” “พฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละอุตสาหกรรม ผ่านการ”
“เจาะลึก 4 มิติสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสร้างสรรค์ ได้แก่ ผู้คน (Population) สังคมและวัฒนธรรม (Social & Culture) นวัตกรรมและเทคโนโลยี (Technology) รวมถึงนิเวศและสิ่งแวดล้อม (Environment)”
เราเดินทางกลับมาสู่เรื่องพื้นฐานที่สุด นั่นคือ
”การลงทุนกับสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด อย่างการมีคอมมิวนิตี้ที่ดี”
การแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง และความคิดสร้างสรรค์ นักเขียนเวนดี้ ไซเฟรต (Wendy Syfret) ผู้เขียนหนังสือชื่อดัง The Sunny Nihilist อธิบายไว้ว่า "ในตอนนี้ความหมายได้เปลี่ยนจากเรื่องเก็บคะแนนรางวัลชีวิตมาเป็นตัวชี้วัดที่มีความหมาย "ทัศนคติของผู้คนเกี่ยวกับโลกกำลังเปลี่ยนไป อารมณ์เชิงลบ
และการยังไม่รู้ถึงเป้าหมายของชีวิต จะไม่เป็นเรื่องที่ถูกปฏิเสธอีกต่อไป
แต่เราต่างยอมรับว่านี่คือส่วนหนึ่งของกระบวนการชีวิต การเปิดรับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ “ถือเป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและพฤติกรรมของผู้บริโภคในปีนี้” อนาคตของโลกที่ทั้งใหม่และดีขึ้นกำลังค้นหาเส้นทางในการมีอยู่ขึ้นอีกครั้ง ด้วยความหวังจากเราทุกคนและภาพอนาคตที่ดีกว่าในปลายทางที่ปรากฎขึ้น แม้เพียงแวบหนึ่งก็ตาม
แค่ได้อ่านบทนำ ก็รู้สึกเหมือนวิกฤตหลายอย่างที่เกิดขึ้นนี้ กำลังขับเคลื่อนลึกเข้าไปถึงจิตใจผู้คนทั่วโลก และส่งผลให้ คนทั่วโลกจะกลับมาเปิดใจกว้างอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ช่างเป็นการปลอบประโลมที่งดงามมากของผู้เขียน”
วันนี้ขอนำมาแชร์แค่ในส่วน “GENERATION FOCUS”เท่านั้น
สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการที่ต้องการศักยภาพต่อธุรกิจ
• “เบบี้บูมเมอร์” ที่รุ่มรวยด้านเวลาได้บ่มเพาะไลฟ์สไตล์ดิจิทัลมาตลอดระยะเวลาหลังเกษียณ จนมี Facebook เป็นสื่อโซเชียลที่ครองใจอันดับหนึ่งทั่วโลก บูมเมอร์ยังกลายเป็นลูกค้าผู้ทดลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแบบทดลองใช้ฟรีและแบบจ่ายเงินมากกว่า1.2พันล้านครั้งต่อเดือนจึงทำให้หลายแบรนด์
หันมาลงทุนด้านโฆษณาผ่านแอปพลิเคชันหรือคัดสรรคอนเทนต์เอาใจวัยเก๋ามาไว้บนสื่อโซเชียลอย่าง Facebook หรือ TikTokเพื่อจูงใจบูมเมอร์ให้ตามไปดาวน์โหลดต่อบนแอปพลิเคชัน
* หลายคนต้องการที่อยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมแบบบ้านมากกว่าในสถานพยาบาลหากจำเป็นต้องอยู่ในสถานพยาบาล ก็ต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้รู้สึกถึงชีวิตที่มีอิสระได้รับการดูแลช่วยเหลือโดยไม่รู้สึกเหมือนถูกควบคุม รวมทั้งมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และWiFi เพื่อให้ติดต่อกับเพื่อนฝูงบนโลกโซเชียลได้อย่างอิสระ
* รายงานจาก AARP ระบุว่าบูมเมอร์ 40% วางแผนที่จะ "ทำงานจนกว่าจะตกงาน" ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านการเงินหรือการที่พวกเขาไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้ในวัยเกษียณ จึงทำให้หลายคนเลือกทำงานจนถึงอายุ 70 ปีปลาย ๆ โดยงานที่เลือกทำจะต้องเห็นคุณค่าของพนักงาน โดยไม่แบ่งแยกผู้สูงวัยจากคนรุ่นใหม่ และให้เวลาสำหรับการดูแลสุขภาพหรือวันลาสำหรับตรวจสุขภาพเฉพาะบุคคล
* Senior Opinion Leader หรือ SOL หมายถึงผู้นำความคิดเห็นอาวุโส ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างกว้างขวางและเป็นที่ยอมรับในสาขาอาชีพมายาวนาน เป็นสถานะทางอาชีพที่ทำให้เหล่าบูมเมอร์รู้สึกถึงคุณค่าและได้รับการยอมรับจากสังคม แม้จะไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่การมีตำแหน่งที่ปรึกษาเพื่อเกื้อหนุนกิจการ หรือส่งเสริมองค์กรให้ยั่งยืน ถือเป็นความสำเร็จสำหรับคนวัยนี้
* หลังจากต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัดมาหลายปีด้วยความวิตกกังวลเรื่องโรคระบาด บูมเมอร์อาจไม่ใช่กลุ่มคนที่ออกไปใช้ชีวิตแบบสุดโต่งเป็นคนแรก แต่เป็นกลุ่มคนที่พร้อมจะสลัดวิถีชีวิตแบบมัธยัสถ์ และพร้อมจ่ายเงินแบบสุดโต่งมากที่สุดเพื่อใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในบั้นปลายชีวิต
ได้แก่ การลงทุนเพื่อสุขภาพ การลงทุนด้านประสบการณ์การรับประทานอาหารนอกบ้าน การท่องเที่ยว และกิจกรรมเข้าสังคมโดยผู้สูงอายุส่วนใหญ่เริ่มเปิดใจกับการใช้บริการสั่งอาหารดิลิเวอรี ตู้กดอาหาร และหุ่นยนต์สาธารณะมากขึ้น เพราะสิ่งนี้คือการใช้จ่ายที่ทำให้รู้สึกถึงการเท่าทันโลก
* การตลาดแบบไม่จำกัดอายุ หรือ Ageless Marketing คือความสบายใจสำหรับบูมเมอร์ ที่จะสานฝันกิจกรรม หรือประสบการณ์ที่ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน เช่น อิสระในการใช้บริการ ออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ ในฟิตเนส การสวมใส่เสื้อผ้าแฟชั่นที่ไม่จำกัดอายุหรือมีสีสันที่ฉูดฉาด การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับสรีระคนทุกช่วงวัยแม้จะเป็นผู้สูงอายุก็ตาม โดยต้องคำนึงถึงหลักอายุศาสตร์ การทำความสะอาด และการเคลื่อนย้ายที่สะดวกเป็นอันดับแรก
การสานฝันนี้อาจรวมถึงการมีตัวตนบนสื่อออนไลน์ อย่างการเป็นครีเอเตอร์ที่ผลิตคอนเทนต์ หรือไอดอลผู้สร้างสรรค์งานบันเทิงแม้จะมีอายุอยู่ในวัยเกษียณแล้วก็ตาม
* แม้บูมเมอร์จะชื่นชอบไลฟ์สไตล์ดิจิทัลเพื่อเท่าทันกระแสบนสื่อโซเชียล แต่ในทางกลับกันก็เป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาวะทางจิต และอารมณ์เป็นอันดับต้น ๆ โดยกิจกรรมที่สามารถปลีกชีวิตออกจากโลกดิจิทัลให้กลายเป็นช่วงเวลาของการพักผ่อนอย่างแท้จริง
กิจกรรมที่เหล่าบูมเมอร์ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างให้ความสนใจ นั่นคือการทำสวน ผลผลิตจากธรรมชาติที่มีคุณค่ามากกว่าราคา นำไปสู่ความภาคภูมิใจและสามารถประหยัดต้นทุนการใช้ทรัพยากรได้ คนกลุ่มนี้จะเข้าใจกระบวนการได้มาซึ่งผลผลิตดีกว่าผู้บริโภคกลุ่มอื่น ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกสรรสินค้ามารับประทาน โดยคำนึงถึงความโปร่งใส ไร้สารพิษ และดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง
* ช่วงเวลาของการชะลอวัยในบูมเมอร์ มักจะลงทุนให้กับไลฟ์สไตล์ที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง งานวิจัยจาก Global State of Mind Index โดย ASICS พบว่าผู้ที่มีอายุ 57-70 ปี จะมีความกระตือรือร้นในการออกกำลังกายโดยเฉลี่ย 215 นาทีต่อสัปดาห์ เมื่อเทียบกับเจนซีที่ใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 111 นาทีต่อสัปดาห์เท่านั้น ความกระตือรือร้นนี้ยังส่งผลถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ อย่างผลิตภัณฑ์เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวให้ชุ่มขึ้น บำรุงกระดูก เสริมการนอนหลับและบำรุงสมอง เพื่อป้องกันอาการของโรคอัลไซเมอร์
สิ่งอำนวยความสะดวก
และบริการที่ต้องการศักยภาพต่อธุรกิจ
* งานวิจัยของไมเคิล เอส. นอร์ท (Michael S. North) จากสถาบันธุรกิจสเทิร์นมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ระบุว่าวัยกลางคนมีความกดดันมากขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย ทั้งเรื่องการสร้างรายได้ การจัดหาประกันสำหรับครอบครัว ทั้งยังมีความเครียดทางด้านการเงิน เช่น การวางแผนเกษียณอายุที่มั่นคง นอกจากนี้ข้อมูลบางส่วนยังแสดงให้เห็นว่าเจนเอ็กซ์มีภาระหนี้สินมากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ และส่วนหนึ่งเกี่ยวเนื่องจากการที่ต้องดูแลทั้งพ่อแม่และลูกไปพร้อม ๆ กัน
* ประสบการณ์จากการอยู่ในกลุ่มแรงงานช่วงเศรษฐกิจตกต่ำต้นทศวรรษ 1990 ภาวะฟองสบู่แตก และวิกฤตตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2008 ทำให้เหล่าเจนเอ็กซ์ตระหนักถึงความสำคัญของการจ้างงานเป็นอย่างดี
แม้ทุกวันนี้เจนเอ็กซ์หลายคนจะดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงขึ้น แต่การเลิกจ้างครั้งใหญ่รอบล่าสุดกลับส่งผลกระทบต่อตำแหน่งผู้บริหารอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นหลายคนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ ด้วยการฝึกฝนทักษะใหม่เพื่อเป็นผู้นำคนสำคัญในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การแก้ปัญหาความขัดแย้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสริมสร้างความไว้วางใจในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนไป
* แม้ว่าผู้สูงอายุจะมีจำนวนถึง 1 ใน 3 ของแรงงานสหรัฐ แต่พวกเขากลับไม่ได้แสดงตัวตนที่แท้จริงบนสื่อ การศึกษาและติดตามผลของ AARP พบว่า 62% ของกลุ่มผู้สูงวัยรู้สึกว่าโฆษณาไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี
และ 47% กล่าวว่า "โฆษณาของคนในวัยเดียวกันกับตนเองกลับส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ล้าสมัย" เช่นเดียวกับเนื้อหาบนวัฒนธรรมกระแสหลัก อย่างภาพยนตร์และโทรทัศน์ ที่นักแสดงหญิงเมื่ออายุ 40 ปีมักถูกผลักให้ได้รับบทเสริมในฐานะแม่หรือภรรยามากกว่าจะเป็นตัวละครหลัก แบรนด์สินค้าหลายแบรนด์และเอเจนชียุคนี้จึงต่างพยายามมองหาวิธีการสื่อสารภาพและข้อความที่สื่อถึงเจนเอ็กซ์อย่างเหมาะสม รวมทั้งสะท้อนมิติที่หลากหลาย และเน้นย้ำความแอ็กทีฟตามไลฟ์สไตล์ในชีวิตจริงมากที่สุด
* แบรนด์สุขภาพของผู้หญิงกำลังขยายไปสู่ความงาม โดยมุ่งเน้นแก้ปัญหาผิว เส้นผม และหนังศีรษะ
โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผู้หญิงมากกว่า 1 ล้านคนในสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับภาวะหมดประจำเดือนในทุกปี ภายในปี 2025 คาดว่าตัวเลขของสตรีในกลุ่มดังกล่าวจะแตะ 1.1 พันล้านคนทั่วโลก ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนพร้อมสำหรับการขยายตัว สถิติที่เกิดขึ้นกำลังช่วยอธิบายถึงแนวโน้มเชิงบวกของผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความสะดวกสบาย สุขภาวะทางเพศ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนของเหล่าเจนเอ็กซ์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่อีกช่วงวัย
* 49% ของเจนเอ็กซ์นิยมซื้อสินค้าในร้านค้าเพื่อทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จริง ในขณะที่ 51% นิยมซื้อผ่านออนไลน์ ส่วนใหญ่เพื่อความสะดวกสบาย แม้ตัวเลขค่าเฉลี่ยในการซื้อจะใกล้เคียงกัน
แต่พบรายงานความถี่ในการจับจ่ายของผู้บริโภคในร้านค้าและออนไลน์ที่แตกต่างกัน โดยผู้บริโภคในร้านค้ามักจะจับจ่ายสินค้าความงามทุกเดือน เมื่อเทียบกับการช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้บริโภคที่เฉลี่ยเพียงไตรมาสละ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่ใช้จ่ายราว 60 ดอลลาร์สหรัฐในสินค้าประเภทเครื่องสำอางโดย 1ใน 4 จะใช้จ่ายมากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยได้อย่างชัดเจน
* เอเชียได้แชมปัภูมิภาคที่มีประชากรมิลเลนเนียลมากที่สุดในโลกโดย World Economic Forum ระบุว่าขณะนี้ประชากรมิลเลนเนียลทั่วโลกมรจำนวนราว 1.8 พันล้านคน อยู่ในภูมิภาคเอเชียเป็นจำนวน 1.1 พันล้านคน
ซึ่งในจำนวนนี้ยังไม่นับจำนวนชาวเอเชียที่ถือพาสปอร์ต 2 สัญชาติ ที่ย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศนอกภูมิภาค ประชากรมิลเลนเนียลเหล่านี้จะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับอัตราการจ้างงาน การลงทุนในสินทรัพย์ และการจับจ่ายภายในครัวเรือน เพราะเป็นวัยที่กำลังสร้างรากฐานความมั่นคงทางครอบครัวและลงทุนด้านคุณภาพชีวิตให้แก่ลูกน้อย อย่างในสหรัฐอเมริกาที่เริ่มปรับทิศทางตลาดของชาวมิลเลนเนียล โดยคาดว่าการใช้จ่ายของชาวมิลเลนเนียลจะเพิ่มขึ้นราว 10% ต่อคน ภายในปี 2025
* จำนวน 36% ของคนโสดรุ่นมิลเลนเนียลยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยมองว่าการออกเดตเป็นเรื่องท้าทาย และการเดตผ่านแอปฯ หาคู่อาจเป็นตัวช่วยหนึ่งที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์
แต่กลับมีเพียง 5% เท่านั้นที่สามารถสานสัมพันธ์จากแอปฯ หาคู่ได้อย่างมั่นคง การเข้าสังคมคนโสดที่สามารถเชื่อมความสัมพันธ์ได้โดยไม่เขินอายสำหรับมิลเลนเนียล อาจมาในรูปแบบของการให้บริการลูกค้าสำหรับท่านเดียว หรือที่เรียกว่า "Solo Service" เช่น ร้านอาหารที่บริการพื้นที่สำหรับคนโสดหรือลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการคนเดียว หรือการออกแบบคอมมิวนิตี้สำหรับคนโสด ทั้งรูปแบบ Pubilc Space, Co-Working Space หรืออพาร์ตเมนต์สำหรับคนโสด ที่ออกแบบพื้นที่สำหรับอาศัยคนเดียวภายใต้บรรยากาศคลายเหงาจากพื้นที่ส่วนกลาง
* "Finding happiness in a rented home." คือคำค้นหามาแรงในปีที่ผ่านมา บนแพลตฟอร์มสัญชาติจีน Xiaohongshu
วัฒนธรรมเช่าบ้านนี้ไม่ได้มีเพิ่มขึ้นแค่ในจีน แต่ยังพบในประเทศฝั่งเอเชียและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา โดยมีผู้เช่าเป็นรุ่นมิลเลนเนียลรายใหม่จำนวน 18% แต่การเดิมพันด้วยคุณภาพชีวิตที่ดีจำเป็นต้องลงทุนด้วยค่าเช่าราคาแพง
จึงมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่หันมาทำตลาด Build-to-Rent (BTR) โดยสร้างบ้านให้ครอบครัวคนโสดมารวมตัวกัน เป็นทั้งลักษณะของการแชร์บ้านกับคนแปลกหน้า และการรวมเงินในกลุ่มเพื่อนคนโสด ซึ่งปัจจุบันเป็นที่นิยมในมิลเลนเนียลชาวจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา
* การมีลูกน้อยท่ามกลางค่าครองชีพสูงเกินเพดาน อาจเป็นความเสี่ยงสำหรับคู่รักที่มีรายได้ไม่มั่นคง ผลสำรวจจาก WGSN พบว่าในสหรัฐอเมริกามีคู่รักที่กังวลเกี่ยวกับการให้กำเนิดบุตรในช่วงเวลา 2-3 ปีนี้มากถึง 96%
บางคนยังกังวลเรื่องวัคซีนโควิด-19 บางคนก็ยังกังวลเรื่องสถานะงาน Gig Worker หรือคนทำงานอิสระต้องการความมั่นคงด้านสภาพคล่องทางการเงินก่อนมีบุตร ในทางกลับกัน มิลเลนเนียลจำนวนหนึ่งกลับรู้สึกถึงความเป็นอิสระ ซึ่ง 60% บอกว่าการไม่มีลูกทำให้พวกเขาสามารถมีเงินเก็บเพื่อท่องเที่ยวและ 74% บอกว่าการมีสัตว์เลี้ยงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มสมาชิกในครอบครัวได้
* แม้เศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่ตลาดท่องเที่ยวสไตล์หรูหรายังคงทำรายได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงาน Cost of Living Crisis ของ WGSN คาดว่าภายในปี 2032 การท่องเที่ยวทุกประเภทจะสามารถเติบโตทะลุ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
เจนชีและมิลเลนเนียลจะกลายเป็นลูกค้าผู้ภักดีลำดับต้นๆ ที่ใช้บริการการท่องเที่ยวแบบหรูหราหรือเอ็กซ์คลูซีฟ โดยเฉพาะมิลเลนเนียลคู่รักหรือมิลเลนเนียลสายโสดที่มักใช้สโลแกน Paycheque-to-Paycheque ซึ่งหมายถึงการทำงานหาเงินเพื่อนำเงินไปใช้ชีวิต การแสวงหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครจึงอาจมาในรูปแบบความหรูหราเฉพาะกลุ่ม
* แม้ว่าวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวมิลเลนเนียล จะยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่มีจำนวนผู้บริโภคกาแฟชาวมิลเลนเนียลจำนวน 44% แต่ปัจจุบันพวกเขาเริ่มกังวลเรื่องผลกระทบของกาแฟที่มีต่อสุขภาพ และตระหนักถึงอาการเมาค้างจากฤทธิ์กาแฟ โดยมีอาการนอนไม่หลับและระดับความวิตกกังวลสูงกว่าปกติ ผู้ที่อายุ 25-39 ปีกล่าวว่าหากดื่มกาแฟมากเกินไป พวกเขามักจะเมาค้างในวันถัดมาจนไม่สามารถมีแรงทำงานได้
ปัจจุบันจึงมีนักดื่มจำนวนมากหันมาดื่ม”กาแฟไร้คาเฟอีน” หรือเครื่องดื่มคาเฟอีน”ที่ระบุจำนวนคาเฟอีน” เพื่อจะได้คำนวณปริมาณคาเฟอีนที่พวกเขาสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย หรือเลือกดื่มเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพทดแทนคาเฟอีน เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวโดยมีทั้งรูปแบบช็อตเดียวหรือแบบขวดเพื่อพกดื่มระหว่างวัน
* เจนซีรุ่นที่เติบโตเป็นวัยรุ่นและก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ด้วยแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เมื่อเดินมาถึงวัยที่บรรลุนิติภาวะ จึงได้ตระหนักถึงผลกระทบของสี่อ ดิจิทัลและเข้าใจการใช้ชีวิตที่แขวนไว้บนโลกออนไลน์ว่าอาจเป็นภัยร้ายของการถูกบูลลี่หรือโจมตีโดยผู้ที่มีทัศนคติทางสังคมและการเมืองที่ต่างกัน เหล่านี้ส่งผลกระทบทางจิตใจมากกว่าที่คาดคิด
จึงเกิดพฤติกรรมต่อต้านสื่อดิจิทัลและหันไปให้ความสนใจ กับสื่อหรือกิจกรรมแอนาล็อกมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากไลฟ์สไตล์การใส่เสื้อผ้าแนว Y2K การเลือกใช้โทรศัพท์ที่มีฝาพับ หรือเลือกแก็ดเจ็ตหูฟังที่ให้ความรู้สึกถึงการหวนกลับสู่อดีต หรือจะเป็นการใช้สื่อภาพ เสียง และกิจกรรม เวิร์กช็อป เพื่อสร้างบรรยากาศที่ให้ความผ่อนคลาย ลดความทันสมัย พร้อมดื่มด่ำกับจังหวะของการใช้ชีวิต
* แม้เจนซีจะเชี่ยวชาญด้านการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ แต่เมื่อเทียบกับการจับจ่ายซื้อของกับคนรุ่นอื่น เจนซีถือเป็นลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งสินค้าตามช็อปมากกว่าซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยเฉพาะการเลือกชื้อสินค้ามือสองหรือสินค้าตามร้านป๊อปอัปที่อาจไม่ได้มีหน้าร้านถาวร ประสบการณ์ที่ได้จับสินค้าจริงในช่วงระยะเวลาที่กำหนด บวกกับการโฆษณาผ่านครีเอเตอร์ที่ตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) จะทำให้สินค้ามีคุณค่า และสามารถเข้าถึงเจนซีได้
* ปีที่ผ่านมาเกิดคำที่เป็นกระแสในหมู่เจนซี นั่นคือ IYKYK คำสแลงที่ย่อมาจาก If you know, you know. หมายถึง "เมื่อคุณรู้ว่าคุณรู้" เพื่อตั้งใจบอกเป็นนัยว่า "มีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้เรื่องนี้" ซึ่งอาจหมายถึงเพื่อนสนิท แฟนคลับ คนที่อยู่ในวงการเดียวกัน หรือแม้แต่ลูกค้าในระดับ VIP
เหล่านี้ล้วนต้องการสื่อว่า”เจนซีให้ความสำคัญกับสังคมกลุ่มเล็ก”ทั้งยังพยายามสร้างตัวตนอยู่ในวัฒนธรรมตลาดย่อย เพื่อแสดงตัวตนผ่านสิ่งที่ชื่นชอบออกมาได้อย่างชัดเจน
ในปีนี้ IYKYK จะกลายเป็นโอกาสการสร้างฐานตลาดเฉพาะกลุ่มจากสื่อสังคมออนไลน์ใหม่ ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของคนที่มีทัศนคติเดียวกัน หรือเกิดขึ้นจากวัฒนธรรมย่อยที่ขยายตัวเป็นอีเวนต์หรือสร้างสรรค์เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม
* สำหรับการเลือกใช้สินค้ารักษ์โลก เจนซีจำนวน 62% กล่าวว่าจำเป็นต้องเป็นแบรนด์ที่ไม่โด่งดังจนเกิดเป็นสินค้าในตลาดมวลชน (Mass Market) หรือการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นก็ไม่จำเป็นต้องมีราคาสูง หากเลือกสินค้าในราคาสูง จำเป็นต้องเป็นสินค้าที่แตกต่างจากคนหมู่มาก บอกความเป็นตัวตนได้ และไม่สามารถหาซื้อได้โดยง่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์
….ต้องตระหนักความคิดเหล่านี้ไว้ดีๆ
อ่านมาถึงตรง เกิดความคิด2ทาง ….ทางหนึ่งบอกว่า”จริงรึวันี่” อีกทางหนึ่ง ถึงกับดีใจที่ได้อ่าน ได้พอรู้ความเป็นไปได้ที่เราไม่เคย ย้ำว่าไม่เคยคิดมุมแบบนี้เลย
* IOT สำหรับเจนซีไม่ได้หมายถึง Internet of Things แต่หมายถึง "Internet of Trends" ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นจากกระแสที่เกิดขึ้นบน TikTok ที่ส่งผลต่อการตลาดบนชีวิตจริงในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าเป็นอาหาร ขนม เครื่องดื่ม หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์การทำกิจกรรม หรือการรวมกลุ่มถ่ายรูปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ ยังคงปรากฎให้เห็นในทุกวันนี้
* Microsoft เผยว่าพนักงานเจนซีชื่นชอบ การโพสต์ชีวิตการทำงานลงบนสื่อโซเชียล และมองหางานที่ถูกระบุเงื่อนไขบนเว็บไซต์ LinkedIn ว่า "Flexibility" มากที่สุดถึง 77%
ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของ talentLMS ที่ชี้ว่าแรงงานเจนซีชอบการทำงานแบบยึดหยุ่นมากถึง 88% โดยส่วนใหญ่ตอบรับการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work) หรือการทำงานแบบผสมผสาน วางแผนการเข้างานที่บริษัท และทำงานจากทางไกลได้อย่างสมดุล
ปัจจัยถัดมาที่จะช่วยดึงพนักงานไว้ให้นานที่สุด หรือรักษาความมั่นคงในองค์กร คือคำว่า "Mental Health" หรือการมีสุขภาวะจิตที่ดี ซึ่งเริ่มต้นจากการเข้าสังคมแบบพบปะเจอหน้า สร้างระบบความเท่าเทียม และลดอคติระหว่างพนักงานต่างระดับ ต่างเพศต่างศาสนา ต่างขั้วการเมือง หรือต่างสถาบันที่จบการศึกษามา
* แบรนด์ที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพสำหรับเพศที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์เจนซีได้ เนื่องจากเจนซีเป็นกลุ่มคนที่ขึ้นชื่อเรื่องการเปิดกว้างด้านเพศ ยินดีใช้แอปพลิเคชันที่เสริมสร้างความรู้ และสามารถจัดลำดับความสำคัญ ในกิจกรรมทางเพศได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เคอะเขิน หากเทียบกับคนรุ่นอื่นในอายุคราวเดียวกัน นอกจากนี้เจนซียังยินดีที่จะทดลองสานสัมพันธ์กับเพศที่หลากหลาย เพื่อเรียนรู้ด้านความรัก ทดลองเดต และค้นหาตัวตน
* ในปี 2024 เจนอัลฟาจะเป็นประชากรที่มีจำนวนครบ 2.2 พันล้านคนทั่วโลก โดยมีอัตราการเกิดมากกว่า 2.7 ล้านคนในแต่ละสัปดาห์ ช่วงอายุที่มากที่สุดของเจนนี้คือ 14 ปี พวกเขากำลังเติบโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นและจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ในปี 2030
สหพันธ์การค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Federation) รายงานว่า 80-90% ของครอบครัวในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีคือสมาชิกครอบครัวหลักที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขา ในสหราชอาณาจักร สถาบันการเงินต่างสังเกตเห็นความต้องการนี้ จนเกิดบริการอย่างแอปพลิเคชัน GoHenry ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบการใช้จ่ายของสมาชิกเด็กเจนอัลฟาหรือเจนซีในบ้านได้
* เจนอัลฟาเติบโตขึ้นพร้อมกับลักษณะพิเศษเฉพาะตัว โดย”เป็นเจเนอเรชันที่มีความหลากหลายและมีวิธีคิดแบบนับรวมคนทุกกลุ่ม (Inclusive) มากที่สุด”
การมีพ่อแม่เป็นเจนมิลเลนเนียลทำให้เจน อัลฟาได้อิทธิพลด้านค่านิยมเหล่านี้มาจากพ่อแม่อย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าจะเป็นชาวดิจิทัลโดยกำเนิด และทุกมิติของการใช้ชีวิตขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแต่เจนอัลฟาก็มองหาการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี ไม่มีทัศนคติแบ่งแยก มีความคิดสร้างสรรค์ และสนับสนุนการแสดงออกถึงตัวตน
* โลกที่เจนอัลฟาเติบโตขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้คนที่มีความสามารถหลากหลายมีความสนใจเฉพาะเจาะลึก มีเพื่อนต่างศาสนา เชื้อชาติ และเพศ รวมถึงเข้าอกเข้าใจเรื่องละเอียดอ่อนอย่างคนที่มีปัญหาสุขภาพจิต ธุรกิจต่าง ๆ ควรวางบทบาทเป็นตัวแทนและสะท้อนถึงโลกอันหลากหลายนี้ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเจนนี้
* รายงาน A/phas: Wellness Strategies เผยว่าพ่อแม่ชาวมิลเลนเนียลมีแนวคิดเรื่องการให้ความสำคัญกับสุขภาพรอบด้าน ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมถึงอารมณ์ที่ดี รายงานของThe Sport Journal พบว่าระดับกิจกรรมทางกายของเด็กปฐมวัยมีความสัมพันธ์เชิงบวกที่เกี่ยวโยงไปถึงช่วงวัยรุ่น ดังนั้นสิ่งสำคัญคือเด็ก ๆ จะเริ่มแอ็กที่ฟตั้งแต่อายุยังน้อย การเล่นแบบ Active Play หรือเด็กเป็นผู้ร่วมเล่นด้วยตนเอง จะช่วยลดอาการวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้าที่อาจเกิดขึ้นในเด็กได้
* เจนอัลฟาจะเป็นคนกลุ่มแรกที่เติบโตในยุคฟิจิตทัล (Phygital) ช่วงเวลาที่โลกเสมือนและโลกแห่งความจริงผสมผสานเข้าหากัน พวกเขาอาศัยอยู่ในโลกเสมือนจริง แต่ก็ยังมีเวลาออกไปเล่นนอกบ้าน เติบโตขึ้นมาในโลกแห่งสังคมหลังความจริง (Post-Truth Society) ที่ขับเคลื่อนด้วย Al เจน อัลฟาสร้างกลุ่มเพื่อนหลาย ๆ คนได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังมีความอุตสาหะและมีไหวพริบ หากเจนอัลฟาไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการจากผลิตภัณฑ์หนึ่ง ๆ พวกเขาจะค้นหาวิธีสร้างผลิตภัณฑ์นั้นใน YouTube ด้วยตนเอง
* 65% ของเจนอัลฟาจะทำงานในตำแหน่ง ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเจนก่อนหน้า เช่น ผู้จัดการด้านความเป็นอยู่ที่ดีของชีวิต (Wellbeing Manager) ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ ผู้ที่ทำให้การใช้ชีวิตง่ายยิ่งขึ้น (Life Simplifier) ชาวนาในเมือง (Urban Farmer) หรือเอเจนต์นำเที่ยวในอวกาศ
* "ไม่สั่งสอน เรียนรู้ไปด้วยกัน พูดคุยกันตรง ๆ" คือวิธีการที่จะสื่อสารกับเจนอัลฟาได้อย่างตรงใจ เจนอัลฟา คิดว่าความเคารพนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นผู้ใหญ่กว่าหรืออายุน้อยกว่า ธุรกิจจะต้องไม่ดูถูกหรือตัดสินใจแทนเพราะคิดว่าเจนนี้นั้น "เด็กเกินไป" การรับฟังอย่างตั้งใจ ไม่สื่อสารด้วยน้ำเสียงสั่งสอน เรียนรู้สินค้าและบริการนั้น ๆ ไปพร้อม ๆ กันจะทำให้เจน อัลฟาเปิดใจรับได้มากกว่า
* บริษัทที่ปรึกษา Beano for Brands พบว่า 86% ของเจนอัลฟาหลงใหลทักษะการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ และมีวิธีคิดแบบผู้ประกอบการโดยธรรมชาติ ทั้งยังชอบเล่นเกมอีกด้วย GWI พบว่าเด็ก 1 ใน 4 ที่มีอายุระหว่าง 8-15 ปี กล่าวว่าการเล่นวิดีโอเกมเป็นกิจกรรมที่พวกเขาเลือกใช้เวลาในช่วงวันหยุด มากกว่าการดูโทรทัศน์หรือภาพยนตร์หรือเล่นโซเชียลมีเดีย แบรนด์ต่าง ๆ จึงควรมีแพลตฟอร์มหรือทำการตลาดแบบเกมให้เจน อัลฟาได้สร้างตัวตนเสมือนจริงของตนเองผ่านการออกแบบและการปรับแต่งเฉพาะตัว
ผมเองเมื่ออ่านจบในแต่ละช่วง รู้สึกขอบคุณข้อมูลที่ทาง TCDC ได้ทำขึ้น หลายอย่างไม่เคยไม่รับรู้ หรือแม้แต่จะคิดถึงเลย
“อยากให้ทุกท่าน มีเวลาไปอ่านฉบับเต็ม แล้วเลือกเฉพาะหัว่อที่สนใจอ่านก่อนก็ไม่ผิดกติกา”
#TREND2024
#RemadeAnew
#TCDC
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
