21 พ.ย. 2023 เวลา 20:47 • ศิลปะ & ออกแบบ

เดอะไนท์วอทช์ (The Night Watch) โดย แร็มบรันต์

The Night Watch, 1642, Rembrandt Harmenszoon van Rijn
7
ภาพ เดอะไนท์วอทช์ (The Night Watch) หรือ การเฝ้ายามเวลากลางคืน เป็นภาพกลุ่มของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทำหน้าที่ปกป้องเมือง พวกเขาได้รับมอบหมายให้เฝ้าประตู ตรวจตราถนน ดับไฟ และรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วเมือง รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในงานเฉลิมฉลองอื่นๆ แร็มบรันต์ได้รับว่าจ้างให้วาพภาพนี้ให้กับสมาคมวิชาชีพ Kloveniersdoelen เพื่อติดตั้งในกองทหารรักษาการณ์พลเมืองอัมสเตอร์ดัม หรือทหารเสือเพื่อสร้างความภาคภูมิใจในหน้าที่ให้กับสมาชิก
1
The Night Watch, 1642, Rembrandt Harmenszoon van Rijn
บุคคลในภาพประกอบไปด้วยกัปตัน Frans Banning Cocq ผู้บังคับบัญชา เขาอยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุดของภาพ สวมชุดสีดำอย่างเป็นทางการกับเสื้อปกลูกไม้สีขาวของชนชั้นสูง คาดสายสะพายสีแดงที่หน้าอก ที่เอวมีดาบ และกระบอง เขากำลังพูดกับผู้หมวด Willem van Ruytenburgh ที่แม้จะมีตำแหน่งต่ำกว่า แต่ผู้หมวด Willem ก็แต่งตัวอย่างหรูหราในชุดสีเหลืองสดใส
ในภาพเราสามารถนับคนได้ 34 คน แต่มีเพียง 18 คนเท่านั้นที่สามารถระบุตัวตนของพวกเขาได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะธรรมเนียมที่ว่าหากต้องการอยู่ในรูปภาพจะต้องเสียเงินให้กับศิลปิน ดังนั้นคนที่มีฐานะต่ำกว่า มีเงินน้อยกว่าจึงถูกวาดเพียงแค่บางส่วนของร่างกายเท่านั้น
ไม่ใช่เวลากลางคืน!
แม้ชื่อของภาพจะเป็น “ Night Watch” แต่ภาพนี้ไม่ใช่ฉากในเวลากลางคืนแต่อย่างใด ความเข้าใจผิดนี้เกิดจากฝุ่น และสารเคลือบเงาหลายชั้นบนภาพที่อยู่มานานหลายร้อยปี ทำให้ผู้เชียวชาญคาดเดาได้ยากว่าเป็นแสงของพระอาทิตย์ หรือแสงของพระจันทร์ พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าภาพนี้เป็นภาพทิวทัศน์เวลากลางคืน และตั้งชื่อตามความเข้าใจขณะนั้น
1
จนกระทั่งในปี 1911 ภาพได้ชำรุดจากการถูกมีดกรีด แต่สารเคลือบภาพที่แร็มบรันต์ได้ทาทับไว้อย่างหนานั้นช่วยให้ภาพไม่เสียหายมาก หลังจากนั้นภาพก็ได้ถูกบูรณะในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สารเคลือบถูกลอกออกเพื่อซ่อมแซมภาพ และทำให้เราได้ทราบว่าภาพนี้เป็นภาพทิวทัศน์เวลากลางวัน!
อย่างไรก็ตามยังคงมีการเรียกชื่อภาพตามความคุ้นเคยในชื่อเดิม แม้จะมีนักข่าวบางสำนักตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "Day Watch" ก็ตาม The Night Watch ยังมีชื่อที่เป็นทางการที่ยาว และซับซ้อนกว่ามาก คือ Militia Company of District II under the Command of Captain Frans Banninck Cocq (กองทหารรักษาการณ์เขตที่สองภายใต้บังคับบัญชาของร้อยเอกฟรันส์ บันนิง โกก)
การบูรณะภาพปี 1946-47. ที่มาภาพ: https://www.dailyartmagazine.com/15-things-you-may-not-know-about-the-night-watch-by-rembrandt/
สาวน้อยผมบลอนด์
นอกจากเหล่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว สาวน้อยผมบลอนด์คนนี้ยังเป็นส่วนสำคัญของภาพ เธอสวมชุดสีเหลืองดูเปล่งประกาย ที่เอวของเธอมีไก่สีขาวที่ตายแล้ว ถุงดินปืน และอาวุธปืน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงกองทหารรักษาการณ์ทั้งสิ้น
สาวน้อยผมบลอนด์ ที่มาภาพ: https://www.dailyartmagazine.com/15-things-you-may-not-know-about-the-night-watch-by-rembrandt/
นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าแร็มบรันต์วาดตัวเองลงไปในภาพบริเวณด้านหลังชายชุดเขียว และยามที่สวมหมวกโลหะ แต่เราสามารถมองเห็นได้เพียงดวงตา และหมวกเบเร่ต์ของเขาเท่านั้น
ชายใส่หมวกเบเรต์ตรงกลางคาดว่าเป็นภาพศิลปินเอง. ที่มาภาพ: https://www.dailyartmagazine.com/15-things-you-may-not-know-about-the-night-watch-by-rembrandt/
ภาพวาดนี้มีขนาดใหญ่มากจึงถูกตัดออกทั้งสามด้านเพื่อให้พอดีกับห้องใหม่ เมื่อย้ายจากกองบัญชาการทหารอาสาไปยังศาลากลางของเมืองอัมสเตอร์ดัม ในปี 1715
ต่อมานโปเลียนได้เข้ามายึดครองเนเธอร์แลนด์ในปี 1810 ภาพจึงถูกย้ายไปที่คฤหาสน์ Trippenhuis ซึ่งนโปเลียนมีรับสั่งให้นำกลับมาไว้ที่ศาลากลางเช่นเดิม แต่เมื่อการยึดครองสิ้นสุดลงในปี 1813 ภาพก็ได้ถูกนำกลับไปไว้ที่คฤหาสน์ Trippenhuis อีกครั้ง ซึ่งต่อมาคฤหาสน์ Trippenhuis นี้ได้กลายเป็นที่ตั้งของสถาบันศิลปะ และวิทยาศาสตร์เนเธอร์แลนด์
ส่วนของภาพที่ถูกตัดออก, ที่มาภาพ: https://www.dailyartmagazine.com/15-things-you-may-not-know-about-the-night-watch-by-rembrandt/
ถูกทำลายหลายครั้ง
ภาพนี้ได้รับความเสียหายจากผู้ไม่ประสงค์ดี และได้รับการซ่อมแซมหลายครั้ง เช่น ในปี 1975 ได้รับความเสียหายจากการฟันของชายคนหนึ่งประมาณสิบครั้ง ทำให้ตัวกัปตัน Frans Banninck Cocq และร้อยโท Willem van Ruytenburch เกิดรอยแผลที่มีขนาดกว้างหลายมิลลิเมตร และยาวประมาณ 50 เซนติเมตร
ร่องรอยของมีดบนภาพ, ที่มาภาพ: https://www.dailyartmagazine.com/15-things-you-may-not-know-about-the-night-watch-by-rembrandt/
ในปี 1990 ภาพได้ถูกคนที่มาชมภาพฉีดสเปรย์กรดใส่บริเวณร่างของทหารถือปืนคาบศิลาสีแดง แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้พ่นน้ำลงบนภาพวาดอย่างรวดเร็วเพื่อลดฤทธิ์กรด นักอนุรักษ์ในขณะนั้นได้ตรวจสอบแล้วพบว่ากรดได้ทำลายเพียงสารเคลือบเงาเท่านั้น ไม่ใช่สีที่อยู่ด้านล่าง
ภาพ The Night Watch ได้รับการยกย่องจากหลาย ๆ คนให้เป็นตัวอย่างภาพวาดของชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 แร็มบรันต์สร้างผลงานชิ้นนี้ในช่วง "ยุคทองของดัตช์" ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศเนเธอร์แลนด์
แร็มบรันต์ร่ำรวยได้จากผลงานของเขา เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังใหญ่ที่ Jodenbreestraat และมีคอลเล็กชั่นงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ และมีราคาแพงมาก อย่างไรก็ตามเขาเริ่มใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือยจนเป็นหนี้ และล้มละลายในที่สุด ยุคทองของเขาได้จบลง บุตรชาย และภรรยาของเขาเสียชีวิตก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 63 ปีในปี 1669 เหลือเพียงลูกสาวของเขาเท่านั้น
1
ด้วยสถานะล้มละลายเขาจึงถูกฝังอยู่ในหลุมศพที่ไม่มีเครื่องหมายใดๆที่บ่งชี้ถึงตัวเขาเลยในสุสานที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองอัมสเตอร์ดัม และศพของเขาได้ถูกขุดทิ้งไปหลังจากเวลาผ่านเลยไปกว่า 20 ปี
1
แม้จะไม่เหลือหลุมศพให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง แต่แรมบรันต์ก็ได้ทิ้งผลงานทั้งภาพเขียน และภาพพิมพ์กว่า 2,000 ภาพ จากการทำงานเป็นเวลา 45 ปี เขาเป็นที่ยอมรับ เป็นตำนาน และเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นต่อมานับไม่ถ้วน
-ซับศิลป์-
ที่มา
โฆษณา