4 ธ.ค. 2023 เวลา 03:13 • นิยาย เรื่องสั้น

#เรื่องจากเมล #TheGhostRadio

เรื่องของน้า โดย คุณออฟฟี่
คลิกลิงก์ https://youtu.be/pAiKrzhxxrg
เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน น้าทินเป็นน้าชายของผม เขาเป็นหนุ่มบ้านนาที่ได้เดินทางเข้ากรุงเทพ ฯ เพื่อไปหางานทำ แต่ด้วยความที่เขาเรียนมาน้อย ก็หางานทำค่อนข้างยาก น้าทินหางานอยู่หลายวันในที่สุดเขาก็เจองานที่เหมาะกับเขา ก็คือคนขับแท็กซี่ แกเริ่มขับรถอยู่ได้ไม่นาน ก็มีเงินก้อนหนึ่งไปเช่าห้องอยู่แถว ๆ อู่รถแท็กซี่
น้าทินเป็นคนที่อัธยาศัยดี พูดจานอบน้อม ยิ้มเก่ง อยู่ได้ไม่นานก็รู้จักและสนิทสนมกับคนที่อยู่หอพักนั้น คนในหอพักเอ็นดูแก เวลามีอะไรก็จะคอยให้ความช่วยเหลือน้าทินมาโดยตลอด
เมื่อเวลาผ่านไปน้าทินก็มีแฟน คบหาดูใจกันได้สักพักใหญ่ ๆ แฟนของน้าทินก็ตั้งท้องและคลอดลูก น้าทินจึงมีกำลังใจในการขับรถหาเงิน ซื้อนมซื้อข้าวของให้ลูก และด้วยความที่เป็นหัวหน้าครอบครัวน้าทินก็ให้แฟนอยู่ห้องเลี้ยงลูกเพียงอย่างเดียว พอเวลาผ่านไปลูกของน้าทินก็เริ่มโต แฟนของน้าที่มีหน้าที่ดูแลลูกกลับมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป คือชอบแต่งตัวสวย ๆ งานบ้านไม่ทำ ไม่ค่อยอยู่ห้องเลี้ยงลูก และมักเอาลูกไปฝากคนนู้นที คนนี้ที
จนถึงจุดนึงที่น้าทินเริ่มสงสัยกับพฤติกรรมนี้ เลยหยุดขับรถและแอบตามแฟนไป สุดท้ายเขาก็พบว่า แฟนของเขาไปอยู่กับชายอื่น น้าทินจึงกลับมารอที่ห้อง เมื่อแฟนกลับมาน้าทินจึงถามไปว่า “ทำไมทำแบบนี้ ? เอาลูกไปฝากคนอื่นแล้วตัวเองออกมาเที่ยวกับผู้ชาย เธอมีครอบครัวมีลูกแล้วนะ ไม่สงสารลูกบ้างหรอ ?” แต่พูดไปก็เท่านั้น เพราะแฟนของน้าทินไม่สนใจและยังคงเมินเฉยต่อไป หลังจากนั้นมาทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันบ่อยขึ้น อีกทั้งผู้หญิงก็ยังคงทำพฤติกรรมแบบเดิม ๆ จนสุดท้ายก็ต้องเลิกกัน เพราะผู้หญิงทิ้งลูกหนีไปกับผู้ชายคนนั้น
ต่อมาน้าทินก็เอาลูกกลับไปฝากเลี้ยงไว้กับตายายของผมที่บ้านต่างจังหวัด น้าผมจากที่เป็นคนร่าเริงกลับมีใบหน้าที่อมทุกข์เศร้าหมองตลอดเวลา บางที่ก็มีอาการนั่งเหม่อลอย ผมก็พยายามชวนน้าไปเที่ยวไปทำกิจกรรมเพื่อให้น้าไม่ฟุ้งซ่าน แต่เขาก็ไม่ไป น้าทินอยู่ต่างจังหวัดได้ 2 - 3 วัน ก็ขอตัวกลับกรุงเทพ ฯ เพื่อที่จะไปหาเงินต่อ ผมสังเกตว่าก่อนกลับน้ายืนดูรูปครอบครัวของเขาและก็ทิ้งเอาไว้โดยไม่เอากลับไปด้วย
พอน้าทินกลับมาที่กรุงเทพ เพื่อน ๆ ในหอพักก็รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างก็ให้กำลังใจน้า และเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงปีใหม่ เพื่อน ๆ รวมถึงเจ้าของหอก็ชวนน้าทินมานั่งร่วมวงสังสรรค์ด้วยกันเพราะเห็นว่าน้าไม่ได้กลับต่างจังหวัด พอนั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ ทุกคนก็รับรู้ถึงภาระและสถานการณ์ของน้าทินว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเงินส่งกลับไปให้ลูก เพราะช่วงนั้นโชคไม่ค่อยเข้าข้างดวงไม่ค่อยจะดี ผู้โดยสารน้อย รถก็เสียบ่อย มีปัญหารุมเร้ามากมาย แต่เจ้าของหอเขาก็ใจดีให้ยืมเงินและก็พักการจ่ายค่าห้องเพื่อช่วยเหลือ
เมื่อเวลาผ่านไป คนในหอเริ่มเห็นน้าทินน้อยลง หรือบางทีก็เจอหน้าแต่ไม่ได้คุยกัน ได้แค่พยักหน้าทักทาย หลังจากนั้นน้าทินก็หายไปหลายวัน หลายคนก็เริ่มเป็นห่วงจึงนั่งคุยกันเรื่องของน้าทิน พี่คนนึงก็บอกว่า “มันไม่ได้ไปไหนหรอก มันก็อยู่ในห้องนั่นแหละเมื่อคืนยังเอากุญแจไปฝากกับมันไว้อยู่เลย” พี่คนนี้เป็นสาวสอง เป็นคนที่ชอบเที่ยวกลางคืน เขามักจะแวะเวียนเอากุญแจมาฝากที่น้าผมอยู่บ่อย ๆ เพราะน้าผมจะออกขับรถตอนช่วงตีสี่ของทุกวัน เวลาเขากลับมาก็จะมาเคาะขอกุญแจคืน
2 วันต่อมา พี่คนนี้ก็ทำเหมือนเดิม เขามาเคาะห้องเพื่อที่จะเอากุญแจมาฝาก แต่ที่แปลกคือครั้งนี้น้าทินแค่แง้มประตูและยื่นมือออกมารับกุญแจโดยไม่พูดอะไร แล้วก็ปิดประตูไป ช่วงตี 3 พี่เขาก็กลับมาเคาะห้องเพื่อขอกุญแจ ก็เหมือนเดิมน้าทินแค่แง้มประตูและยื่นกุญแจออกมาให้ ด้วยความที่พี่เขาเมาก็เลยพูดไปว่า “มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ กลัวกูบุกเข้าไปปล้ำหรือไง ? ” แต่สิ่งที่ตอบกลับมาคือความเงียบ พี่เขาเลยคว้ากุญแจและก็กลับห้องนอน
เหตุการณ์ต่อมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ป้าแม่บ้านที่ดูแลหอพักได้บ่นกับเจ้าของหอว่าได้กลิ่นเหมือนมีอะไรตาย มีกลิ่นเหม็นเน่ามาจากชั้น 4 เมื่อเจ้าของตึกรับรู้และเริ่มเอะใจแปลก ๆ เลยไปถามลูกบ้านที่นั่งตั้งวงกันอยู่ประจำที่หน้าตึกว่า “มีใครเห็นไอ้ทินไหม ช่วงนี้มันหายไปไหน ไม่ค่อยเจอมันเลย ? ” คนในวงนั้นก็บอกว่า “ช่วงนี้ไม่เห็นมันเลยนะพี่ เห็นล่าสุดก็เมื่อ 4 - 5 วันก่อน มันหิ้วถุงเบียร์เดินก้มหน้าก้มตาดุ่ม ๆ กลับขึ้นห้อง ถามอะไรก็ไม่ตอบได้แต่ยิ้มพยักหน้าให้”
เจ้าของตึกเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีเลยเอากุญแจสำรองขึ้นไปที่ห้องน้าทิน พอเดินขึ้นไปถึงหน้าห้องก็ถึงกับต้องผงะ เพราะกลิ่นเน่ามันมาจากในห้อง เขาเลยตัดสินใจไขประตูเปิดเข้าไป ภาพที่เห็นคือน้าทินผูกคอตายในท่านั่งอยู่บนเตียงสภาพขึ้นอืดจนจำไม่ได้ น่าจะตายมาแล้วอย่างน้อย 3 - 4 วัน ลักษณะของการผูกคอตายคือเขาผูกเชือกไว้กับพัดลมเพดานแล้วแขวนคอด้วยถ้านั่งขัดสมาธิ
หลังจากนั้นเจ้าของหอจึงโทรแจ้งตำรวจ และเมื่อเจ้าหน้าที่มาเก็บศพไป เจ้าของหอก็แจ้งให้ญาติมาเก็บข้าวของใส่กล่องเพื่อจะเคลียร์ห้อง จากนั้นผมก็รับศพน้าทินกลับมาบำเพ็ญกุศลต่อที่บ้านต่างจังหวัด วันแรกก็เฮี้ยนเลย... คืนนั้นญาติที่นั่งเฝ้าศพกำลังนับเลขกันอยู่ อยู่ ๆ ประตูหน้าต่างก็เปิดเองดังปัง ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่มีลมเลย แต่ทุกคนก็ยังคงใจแข็งนั่งนับเลขกันต่อจนถึงเวลาตีสี่ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
คนหนึ่งในวงก็ลุกไปตามเสียงนาฬิกา ปรากฏว่ามันดังมาจากในกล่องที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ของน้าทิน ซึ่งที่มันดังน่าจะเป็นเพราะน้าทินตั้งปลุกไว้เพื่อจะออกไปขับรถ ตอนเขาก็หยิบขึ้นมาจะกดให้มันหยุด แต่ก็ต้องตกใจเพราะว่า นาฬิกามันไม่มีถ่าน
ตาของผมซึ่งเป็นพ่อของน้าเห็นแบบนั้น ก็เลยพูดว่า “ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วทินเอ้ย ไปสู่ภูมิภพที่ดีเถอะ เดี๋ยวลูกเอ็งทางนี้จะดูแลเองนะ ไม่ต้องห่วง...” พูดจบเสียงนาฬิกาก็ดับลง อันนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่คนในครอบครัวเจอกัน แต่ยังมีเหตุการณ์จากเพื่อน ๆ ที่หอพักของน้าทินอีกด้วย
ตอนที่ผมไปเก็บของในห้องน้าทิน เพื่อนของน้าคนนึงเล่าให้ฟังว่า ปกติน้าทินจะเป็นคนขี้เล่น ชอบหลอกชอบทำให้ตกใจ เขาบอกว่าน้าทินไปตามเขาถึงห้องเลย ตอนที่เขานอนอยู่รู้สึกว่ามีอะไรเย็น ๆ มาสัมผัสที่ข้อเท้า พอเขาลืมตาก็เห็นว่าน้าทินดึงขาเขาอยู่ที่ปลายเตียงและพูดว่า “มึงอย่าลืมไปงานศพกูด้วยนะ” ส่วนห้องอื่นที่ชั้น 4 ก็พากันย้ายออกเกือบหมดเพราะเขาโดนน้าทินมาเคาะห้องทุกคืน…
เล่าวันที่ 5 สิงหาคม 2566
โฆษณา