เราได้เรียนรู้อะไรจากบอลโลก 2 นัด บทสรุปทีมชาติไทยเกมจีน - สิงคโปร์
ฟุตบอลโลกอันน่าตื่นเต้นของทีมชาติไทยที่ 4 ปีมีครั้ง ปิดฉากลงแล้วใน 2 เกมแรก จากนี้ไปทีมชาติจะเบรกกันยาวๆ ไปว่ากันใหม่ในเดือนมกราคมปีหน้าครับ
เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง จาก 2 เกมนี้ จีนและสิงคโปร์ ผมสรุปด้วยสายตาของผม จากคนที่เข้าไปดูในสนามทั้ง 2 เกมนะครับ
1) ทีมชาติไทย เหนือกว่าระดับอาเซียนอย่างชัดเจน เกมเจอสิงคโปร์ เราแกร่งกว่า เทคนิคดีกว่า การได้แชมป์ AFF มาสองสมัยซ้อน บอกให้รู้ว่า ถ้าเป็นชาติในอาเซียนด้วยกัน ไม่มีอะไรต้องกลัวเกรง แท็กติกอาจสูสี แต่คุณภาพนักเตะเมื่อมาวางชนกัน จะเห็นถึงความต่างทันที
2) แต่เกมในระดับเอเชีย เมื่อคุณภาพนักเตะใกล้เคียงกัน หรือเราเป็นรอง สิ่งที่ต้องมาทดแทน คือแท็กติกที่เฉียบคมของผู้จัดการทีม จุดนี้ มาโน่ โพลกิ้ง สอบไม่ผ่านในเกมเจอจีน
3) ไม่มีใครเกลียดมาโน่ มาโน่เป็นคน Nice พูดจาดีๆ กับสื่อมวลชนเสมอ นักเตะเองก็ชอบเขา เป็นคนใจดี ทีมงานของมาโน่ก็น่ารักทุกคน โค้ชเอ็กซ์ ผู้ช่วยมาโน่ อาจจะหน้าตึงใส่คู่แข่ง แต่กับคนไทยด้วยกัน เขาก็ Nice ถามอะไรก็ตอบ ก็อธิบาย
แต่มาโน่ต้องเข้าใจว่า "เดิมพัน" ของการเข้ารอบฟุตบอลโลกที่มี 4 ปีครั้งของทีมชาติ มันสูงมากจริงๆ ในเมื่อมีโอกาส เราก็ต้องใช้โค้ชที่ดูชำนาญในเลเวลเอเชียมากกว่า
แต่ผมขอยืนยันว่า ถ้าเราจะเปลี่ยนโค้ช แล้วไม่ได้มาซาทาดะ อิชิอิ ถ้าต้องไปเอาโค้ชคนไทยแทน เช่น สะสม พบประเสริฐ หรือ จเด็จ มีลาภ ใช้งานมาโน่ต่อไปดีกว่า ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นครับ
4) ธีรศิลป์ แดงดา เป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทยในรอบ 10 ปีมานี้ การที่คนอย่างมุ้ย เคยเล่นในลาลีกา และ เจลีก ย่อมพิสูจน์ตัวเองได้อยู่แล้ว
30 นาที ของธีรศิลป์ในเกมกับสิงคโปร์คือความแตกต่างที่เกิดขึ้นในสนาม การพักบอล การโยกหลบ การแอสซิสต์ นี่คือเซนส์ล้วนๆ เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของมาโน่ ที่เอามุ้ยไปด้วย แม้จะเล่นได้แค่ 30 นาทีก็ตาม
คำถามของเราต่อจากนี้คือ จะไม่มีใครมาแทนที่ธีรศิลป์ได้เลยหรือ ปัจจุบันมุ้ยอายุ 35 ปีแล้ว จะเล่นทีมชาติได้นานแค่ไหน อนาคตเราจะปั้นสไตรเกอร์ระดับนี้ขึ้นมาได้อีกไหมนะ?
5) การที่ธีรศิลป์เล่นดี ไม่อยากให้ไปต่อว่าศุภชัย ใจเด็ด ที่อยู่ในสนามชั่วโมงแรก ส่วนตัวผมว่าศุภชัยทำหน้าที่ได้โอเคประมาณหนึ่งแล้ว มีโอกาสยิงตรงกรอบไป 2 ที และบดจนคู่แข่งเหนื่อยล้า
ผมมองว่า ศุภชัยจะเล่นได้ดีที่สุด ถ้าเล่นตำแหน่งหน้าต่ำ อย่างปีที่เขาเป็นดาวซัลโวไทยลีก ศุภชัยได้เล่นอยู่ข้างหลัง ลอสซาน่า ดุมบูย่า และเล่นได้สุดยอดมากๆ
ถ้าใช้งานเขาเป็นกองหน้าตัวเป้า ก็จะได้ผลงานระดับนี้ แต่ถ้าอยากให้เล่นดีสุดๆ ก็ต้องเปลี่ยนแผน ใช้ระบบที่มีหน้าต่ำ ซึ่งไม่ใช่แผนที่มาโน่ใช้
เมื่อพูดถึง "หน้าเป้าขนานแท้" ตอนนี้เราก็ต้องฝากความหวังที่กองหน้าใน Gen ใหม่ๆ คนอื่นๆ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, ยศกร บูรพา หรือแม้แต่การปรับตำแหน่งของศุภณัฏฐ์ เหมือนตาในอนาคต ถ้าคิดจะเล่น Striker จริงๆ
6) อีกคนที่ผมชื่นชมมากๆ และไม่อยากให้ไปต่อว่าเขาเลย คือบดินทร์ ผาลา คำพูดจา เช่น "ลูกแม่แป้ง" อะไรแบบนี้ ผมว่ามันไม่แฟร์กับบดินทร์ที่โดนว่าแบบนั้น เขามีผลงานที่ดีในไทยลีก แถมแอสซิสต์ในเกมเจอเอสโตเนีย ดังนั้นก็มีสิทธิ์เช่นกัน ที่จะได้ลงเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายก่อน คือแม้ผลลัพธ์ในเกมกับจีนจะออกมาไม่ดี แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะไปต่อว่านักเตะ
ในเมื่อโค้ชมาโน่ชอบ ก็จึงส่งบดินทร์ลงสนาม โค้ชทุกคนย่อมมีไอเดียของตัวเอง ดังนั้นถ้าไม่พอใจผลการแข่งขันไปว่าโค้ช แต่ไม่ต้องเอามาลงกับบดินทร์แบบนั้นครับ
บดินทร์ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี เกมแรกเล่นตัวจริงปีกซ้าย เกมสองเล่นสำรองในตำแหน่งวิงแบ็กซ้าย เขาทำทุกอย่างเพื่อทีมชาติ ให้เล่นตรงไหนก็เล่น ให้ลงตอนไหนก็ลง เป็นผู้เล่นที่มีสปิริตน่ายกย่อง ผมมีแต่คำดีๆ ที่มอบให้บดินทร์ครับ และเป็นกำลังใจให้เขาสู้ต่อไปด้วย
7) ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ สิ่งที่ผมเห็นคือ บางครั้งเมื่อนักเตะดีๆ ทับกัน ในตำแหน่งเดียวกัน คุณก็ต้อง "ตัดใจเลือก" เอาใครสักคน เหมือนเคสของสุภโชค สารชาติ กับ บดินทร์ ผาลา มาโน่รักพี่เสียดายน้อง จับทั้งคู่ลงพร้อมกัน แต่โยกสุภโชคไปยืนอีกด้านแทน
ทีมชาติอังกฤษมีแบ็กขวาเก่งๆ เต็มไปหมด แต่แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ต้องตัดใจ ว่าจะเอาไคล์ วอล์กเกอร์ หรือ คีแรน ทริปเปียร์ ลงเล่น นี่ก็เป็นอีกบทเรียนสำคัญที่เราได้รู้ ว่าอย่ายัดๆ นักเตะลงไปให้ครบ จนเขาได้เล่นในตำแหน่งที่ตัวเองไม่ถนัด แบบนี้ไม่มีประโยชน์กับใครเลย
8 ) ยกเว้นกรณี นักเตะที่แทนที่ไม่ได้ อย่างธีรศิลป์ ในตำแหน่งอื่นๆ การพิจารณาว่าจะส่งลงเล่นหรือไม่ ควรพิจารณาจากฟอร์มปัจจุบันเป็นสำคัญ เคสของมานูเอล ทอม เบียร์ ที่ได้ลงเล่นในเกมเจอจีน ทั้งๆ ที่ในฤดูกาลนี้ ได้เล่นตัวจริงแค่ 2 นัดในไทยลีก ก็ทำให้เห็นแล้วว่าไม่เวิร์ก ถ้าเราไม่อิงจากฟอร์มในลีก นักเตะบางคนก็จะรู้สึกลอยตัว ว่าจะเล่นดีหรือไม่ดี ก็ได้ลงเล่นทีมชาติอยู่แล้ว
9) ในฟุตบอลระดับเอเชีย มิดฟิลด์ตัวรับ มีความสำคัญมากจริงๆ เกมแรกที่ไทยโดนจีนเจาะง่ายๆ เพราะเราขาด DMC การใช้สารัช กับ ปกเกล้า ที่เป็น Attacking Mind ทำให้เกมรับมีปัญหา กองหลังก็เหนื่อยมาก วันนี้เราเข้าใจคุณค่าของมิดฟิลด์ตัวรับ ท้้งพิธิวัตต์, วีรเทพ รวมถึงกฤษฎามากขึ้น ว่ามีความสำคัญต่อเกมของทีมชาติ
สารัช อยู่เย็นเล่นได้ เขามีประโยชน์กับทีม แต่สารัชต้องมีตัวช่วยด้วย ถ้ามี DMC คอยซัพพอร์ท เขาจะเล่นง่ายขึ้น และมีเวลาให้สร้างสรรค์เกมเพิ่ม
10) นักเตะที่ไปเล่นต่างแดน เราเข้าใจแล้ว ว่าทำไมพวกเขาถึงได้ไป สุภโชค, เอกนิษฐ์, ศุภณัฏฐ์ เมื่อลงเล่นด้วยกัน เซนส์บอลทันกัน การต่อบอลสั้น การเข้าทำ มันเข้าใจกันไปหมด ในอนาคตก็หวังว่านักเตะไทย จะถูกส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ
11) ใน 2 เกมที่ลงเล่นกับจีน และสิงคโปร์ ทีมชาติไทยใช้แบ็กขวาทั้ง 3 คน ทริสตอง โด, นิติพงษ์ เสลานนท์ และศุภนันท์ บุรีรัตน์ แต่ละคนก็เล่นดีในบางจังหวะ แต่ไม่มีใครเด่นกว่ากัน ดังนั้นเมื่อนิโคลัส มิคเคลสัน หายบาดเจ็บเขาจะกลับมาแย่งตำแหน่งคืนทันที
12) ดีใจกับกัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ที่ได้ลงตัวจริงทีมชาติ นี่เป็นฟุตบอลโลก เกมแรกของเขาด้วย และประเดิมด้วยชัยชนะทันที คือส่วนตัวชื่นชมกัมพลเสมอมา เขาพิสูจน์ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่าดีพอ จะเป็นมือหนึ่งทีมชาติ
ที่ผ่านมา กัมพลเฝ้ารอโอกาสเสมอ ตอน AFF ก็ต้องรอกิตติพงษ์ ภูแถวเชือกพลาด เขาถึงได้โอกาส คราวนี้ก็ต้องรอไทยแพ้จีน เขาถึงจะได้โอกาสบ้าง แต่กัมพลก็อดทน ตั้งใจซ้อมไป และในวันนี้เขาก็ได้ลงสนามในเกมชนะสิงคโปร์ ส่วนประตูที่เสียจ่อขนาดนั้น ใครมันจะไปเซฟได้ สรุปคือฟอร์มกัมพลเจอสิงคโปร์ผมให้ผ่านสบายๆ ครับ
13) สำหรับศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ในเกมกับสิงคโปร์ เล่นถึง 3 ตำแหน่งในเกมเดียว คือปีกขวา, วิงแบ็กขวา และกองหน้าตัวเป้า โค้ชเอ็กซ์ อธิบายว่า นี่ไม่ใช่แผนที่ซ้อมมา แต่เป็นการแก้ปัญหาหน้างาน ศุภณัฏฐ์ มีพลังความฟิตมากพอ ที่จะยืนตำแหน่งไหนก็ได้ที่โค้ชสั่ง
ศุภณัฏฐ์ โดนแฟนบอลบางส่วนตำหนิ ที่ไม่ยอมยิงเอง ในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย แต่เลือกจ่ายให้บดินทร์ ผาลา นี่อยู่ด้านซ้าย จนโดนคู่แข่งสกัดบอลได้ พลาดโอกาสแฮตทริก แต่ผมว่า จะไปตำหนิน้องมันทำไม เขาอุตส่าห์ยิง 2 ลูกให้เราได้แล้วนะ จังหวะพลาดท้ายเกม ใช่มันน่าเสียดาย แต่มันไม่ได้ลดทอน 2 ประตูที่เขาทำได้ อย่าไปตำหนิเขานักเลย
ถ้าอยู่ในสนามจะเห็นว่าเจ้าแบงค์คือวิ่งสุดๆ จนหมดพลังแล้ว เล่นทั้งกองหน้า กองหลัง ถ้าเห็นปริมาณการวิ่งขนาดนั้น คุณจะแปลกใจที่นาทีสุดท้าย ยังอุตส่าห์มีพลังวิ่งหลุดเดี่ยวได้อีก
14) แต่ในมุมความเสียดายของแฟนบอล ผมก็เข้าใจเหมือนกัน เพราะในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก จะวัดที่ลูกได้เสียก่อน ถ้าหาก 2 ทีมมีคะแนนเท่ากัน จะนับแบบนี้ครับ
- ลูกได้เสีย
- ประตูได้
- Head to Head
ดังนั้น 1 ลูก ก็อาจมีความหมายต่อการเข้ารอบ ในกรณีที่เรากับจีนมีแต้มเท่ากันทุกอย่าง ก็วัดกันตรงๆ ที่ลูกได้เสียนี่แหละ แต่ก็นะ ประตูที่ 4 มันไม่มา จะทำไงได้ เราก็ต้องมูฟออนกันไป
15) อีกเรื่องที่รู้สึกว่าทีมชาติเราใช้ประโยชน์ได้น้อยเกินไป คือลูกเซ็ตพีซ โดยเฉพาะเตะมุม ในเกมกับจีน เราได้เตะมุม 7 ครั้ง ในเกมกับสิงคโปร์เราได้ 10 ครั้ง แต่ทั้ง 17 ครั้งที่ว่า ไม่สามารถเปลี่ยนมาเป็นโอกาสใกล้เคียงทำประตูได้เลย
ถ้าเราอยากบุกชนะจีน หรือ มีลุ้นสักแต้มกับเกาหลีใต้ ทีเด็ดคอร์เนอร์ เป็นสิ่งที่เราต้องไปค้นหามา ทำอย่างไร จะได้ลุ้นมากกว่านี้
16) ผมอยากขอบคุณนักเตะ และทีมงาน "หลังบ้าน" ของทีมชาติไทยทุกคน ที่ต้องเจอแรงกดดันหนักมากแน่ๆ หลังจากแพ้จีน แต่ยังตั้งสติ และทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ถ้าพวกคุณเตลิดตามไปด้วย เราคงไม่สามารถเอาชนะสิงคโปร์ได้ในเกมนี้ครับ ทุกคนเก่งมากเลย
17) ก่อนที่นักเตะจะกลับบ้าน ผมได้คุยกับ โค้ชเอ็กซ์ วสพล แก้วผลึก ผู้ช่วยของมาโน่ เขาบอกว่าในแคมป์ทีมชาติครั้งนี้ สองคนที่ซ้อมได้ดีมากๆ มากจนน่าเซอร์ไพรส์ คือศุภนันท์ บุรีรัตน์ และชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว
ศุภนันท์ ซ้อมได้ดี จนเบียดทริสตอง โดลงเป็นสำรองในช่วงท้ายเกมกับสิงคโปร์ ส่วนชาญณรงค์ โค้ชเอ็กซ์บอกว่า โอกาสยังไม่ใช่วันนี้ แต่โอกาสของชาญณรงค์จะมาถึงในระยะเวลาอันใกล้แน่นอน จับตาดูได้เลย
18) อีกเรื่องที่ผมอยากชี้ให้เห็นคือ คำว่า "โค้ชโซเชียล" หรือแฟนบอลที่ออกความเห็นในโลกออนไลน์ ว่าน่าจะจัดตัวแบบนั้น แบบนี้ เฮ้ย เสียงจากทุกคน สุดท้ายมันเข้าหูทีมชาติได้จริงๆ
- สุพรรณได้ลงตัวจริง
- ทอม เบียร์ โดนตัดทิ้งจาก squad 23 คน
- สุภโชคได้ยืนปีกซ้าย
- ศุภณัฏฐ์ได้ยืนปีกขวา
- ใส่กองกลางตัวรับลงมา
- กัมพลได้สตาร์ตตัวจริง
เสียงจากแฟนบอลหลังเกมแพ้จีน มันดังมากพอ และสุดท้ายโค้ชก็ใช้คำแนะนำเหล่านั้นในสนามด้วย ดังนั้นการที่เราวิเคราะห์กัน คอมเมนต์กัน มันมีประโยชน์ทางอ้อมอยู่เหมือนกันนะครับ สรุปคือ ถ้าเราคิดอย่างไร วิจารณ์ออกมาเลยด้วยความสุภาพ เสียงของเรา มันอาจดังไปถึง คนที่มีอำนาจได้ครับ
ทีมชาติไทย คือทีมของเราทุกคน ทำไมเราจะไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นของตัวเองล่ะครับ ถูกไหม
------------------------
นี่คือบทสรุป 2 นัดจากฟุตบอลโลก แน่นอนว่า มันก็น่าเสียดาย ที่เราได้แค่ 3 แต้ม แต่เราก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ได้แต่ต้องเดินหน้ากันไป
จากนี้ไป มีสิ่งที่เราต้องรอดูที่สุดคือเรื่องโค้ช ว่ามาโน่จะอยู่หรือไป ถ้าไป ก็อยากให้ตัดสินใจเร็วที่สุด โค้ชใหม่จะได้มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนที่ไทยจะเจอญี่ปุ่น วันที่ 1 มกราคม 2024 ตามด้วยเอเชียนคัพ ที่จะแข่งต่อเนื่องทันที
และอีกเรื่องคือ ถ้าทีมชาติเราแบบฟูลทีมสุดๆ จริงๆ จะจัดทัพแบบไหน ถ้าชนาธิปกลับมา แล้วใครจะยืนมิดฟิลด์ตัวรุก จะเป็นเจ หรือเอกนิษฐ์ นี่คือคำถาม
ฟุตบอลโลก จะกลับมาอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2024 กับ 2 แมตช์ที่ใหญ่มากๆ คือการไปเยือนเกาหลีใต้ที่โซล และ รับมือที่กรุงเทพ
สิงคโปร์ที่เราชนะอย่างลำบาก โดนเกาหลีตบนิ่ม 5-0 ส่วนจีนที่เราแพ้มา โดนเกาหลีอัดคาบ้าน 3-0
เกาหลีใต้อยู่คนละเลเวลกับเราแล้ว แต่ถ้าเกิดเราเปลี่ยนโค้ชใหม่ มีการวางแผนที่ดีมากๆ ใครจะรู้ เราอาจเก็บได้สัก 1 แต้ม จาก 2 เกมนี้ก็เป็นได้ ฟุตบอลยังไงก็เล่น 11 ต่อ 11 ครับ
1 สัปดาห์แห่งการลุ้นระทึกเรื่องฟุตบอลโลก ตอนนี้ก็จะพักเบรกชั่วคราว กลับสู่โหมดของสโมสร
สามแต้มจากสองนัด อาจจะน้อยเกินไป แต่ข่าวดีคือ เรายังอยู่ในเส้นทาง เรายังไม่ตกรอบจากฟุตบอลโลก ความหวังของเราแม้จะมีน้อย แต่มันก็ยังมีอยู่ครับ อย่าเพิ่งถอดใจกันนะครับทุกคน6
- 18
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
