ลุ้นหุ้นไทยรีบาวด์ !
โบรกมองหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ แม้ว่าบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ดีดปรับตัวขึ้น -ตัวเลขการจ้างงานแกร่ง คาดราคาสินค้าพลังงานจะเป็นแรงผลักดันตลาดทุน เน้นกลุ่มที่เชื่อมการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน เคาะ 6 หุ้นเด่น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index วันนี้มีแนวโน้มรีบาวด์ขึ้นในกรอบ 1,410-1,430 จุด แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะเกิดการรีบาวด์ ทั้งรุ่นที่มีอายุสั้นไปจนถึงยาวจากการรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่งผนวกกับการเผยผลสำรวจความคาดหวังเงินเฟ้อสหรัฐฯ 1 ปีข้างหน้าจะปรับตัวขึ้นเป็น 4.5%
แต่เราประเมินราคาสินค้าพลังงานมีน้ำหนักมากกว่าและจะเป็นแรงผลักดันตลาดทุนในวันนี้ แนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity และกลุ่มที่มีความสัมพันธ์กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน เช่น ส่งออกอาหารและเครื่องดื่ม และ Soft commodities เช่น ยางพารา
หุ้นเด่นตัวแรกคือ NER ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท เราคาดกำไรปกติ 4Q66 เติบโตทั้ง YoY และ QoQ เบื้องต้นคาดที่ 520-550 ลบ. จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.3 แสนตัน +16% QoQ และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 55 บาท/กิโล (+7% YoY และ +10% QoQ)
ปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายที่ 5.0 แสนตัน และได้ลูกค้ารายใหญ่จากญี่ปุ่นมาเพิ่มคาดเริ่มเห็นออเดอร์ตั้งแต่ 2Q67 เป็นต้นไป คาดกำไรปี 2567 เติบโต +9% YoY เป็น 1.7 พันลบ. ซื้อขายที่ PER2567 เพียง 4.8 เท่า และคาดเงินปันผล 2H66 หุ้นละ 0.29 บาท ให้ Dividend Yield 6.3%
หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ SCGP ราคาเป้าหมาย 40 บาท สื่อจีนรายงาน Country Garden Holding และ Sino-Ocean Group ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหารายใหญ่มีรายชื่ออยู่ใน “White List” ที่จะได้รับเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงินเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน เราคาดว่าจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Global Play เนื่องจากก่อนหน้าตลาดประเมินว่ารายชื่อ White list จะให้ความสำคัญกับรัฐวิสาหกิจเป็นหลัก
โดยแนวโน้มกำไร 4Q66 คาดเติบโต YoY เบื้องต้นประเมินที่ 1,400-1,500 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของอัตรากำไรหลังต้นทุนด้านพลังงานที่ลดลง และการปรับขึ้นราคาขายบรรจุภัณฑ์กระดาษในจีนตั้งแต่ปลาย 3Q66 ที่ผ่านมา
หุ้นเด่นอีกตัวคือ BE8 ราคาเป้าหมาย 35 บาท เราคาดว่าหุ้นกลุ่ม Digital Transformation มีโอกาสฟื้นตัว หลัง Bond Yield สหรัฐฯ และไทย คาดว่าจะผ่านระดับ Peak แล้ว คาดส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Growth ที่ปรับฐานลงมามากแล้วจะกลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนอีกครั้ง
คาดกำไร 4Q66 เติบโต QoQ ขณะที่กำไรปี 2567 คาดเติบโต +17% YoY เป็น 326 ลบ. และ Catalyst คือ การ Spin off บริษัทลูกคือ BAYCOMS เข้าจดทะเบียน IPO ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2567 ระดับ 26.8 เท่า
หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ SABINA ราคาเป้าหมาย 28 บาท ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 28 บาท แนวรับ 26.50 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 25.75 บาท ราคาพักตัวลงมาที่เส้น SMA-200 วันและยืนได้ ประกอบกับ MACD ที่ยืนในแดนบวก ทำให้ประเมินว่าเป็นการย่อตัวเพื่อขึ้นต่อ
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า คาด SET แกว่งในกรอบระหว่าง 1,400-1,430 จุด หลังยังไม่มีปัจจัยใหม่ กำหนดทิศทางตลาดนัก และตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ด้านแนวโน้มราคา แนวรับ 1,410 และ 1,400 จฺด ตามลำดับ คาดยังรองรับได้ ส่วนกรอบบน คาดยังถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,420 และ 1,430 จุด ตามลำดับ
หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ BCH (ราคาเป้าหมาย 24 บ.) มองราคาหุ้นจะปรับตัวชนะ SET ได้ต่อเนื่อง แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง โดย 4Q66 คาดกำไรปกติทำจุดสูงสุดของปีนี้ และกำไรปกติจะเติบโต 18% สู่ 1.7 พันลบ. ในปี 2567 ดีกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ อีกทั้งมองเป็นหุ้น SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA”
หุ้นเด่นอีกตัวคือ ADVANC (ราคาเป้าหมาย 245 บ.) เป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” ขณะที่แม้ 4Q66 คาดกำไรปกติลดลง QoQ จากเป็นไฮซีซั่นของค่าใช้จ่ายการตลาด แต่เมื่อเทียบ YoY กำไรปกติน่าจะปรับขึ้นต่อเนื่อง จากรายได้ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีประเด็นบวกเล็กน้อยจากเรื่องราคาซื้อ TTTBB ที่ลดลง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
