23 พ.ย. 2023 เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

กับดัก

เมื่อกำลังน้อยกว่า การรวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับยักษ์ใหญ่จึงเกิดขึ้น นักลงทุนรายย่อยประท้วงกดดันตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการหยุดซื้อขาย ในวันนี้ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566
เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้รับผิดชอบได้ตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อเปิดโปงโฉมหน้าคนที่ปล้นนักลงทุนรายย่อยของไทย จนหมดเนื้อหมดตัวกันไปเป็นแถบๆ
เบื้องต้น กลต.บอกว่าตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีใครทำการซื้อขายหลักทรัพย์แบบ Naked short ซึ่งผิดกฎหมาย ไม่เป็นไปตามกติกา Fair Play
คำว่า ไม่พบ แปลตรงไปตรงมา แปลว่าไม่พบ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่มี
การหาผลประโยชน์ในตลาดหลักทรัพย์ ตามกติกา ถือว่าทุกคนทำได้ ทั้งการระดมทุนของผู้ประกอบการ การหากำไรส่วนต่างของเซียนหุ้น และการลงทุนระยะยาวเพื่อรอรับปันผล
ใครมีข้อมูลมากกว่าตลาด ก็เป็นผู้ชนะในเกม ได้ผลประโยชน์ไป จะเป็นแบบเก็งกำไรระยะสั้น สร้างกำไรจากทั้งช่วงหุ้นขึ้นหรือหุ้นลงก็ได้
องค์ประกอบในธุรกรรมการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ มีสามฝ่าย คือผู้ซื้อ ผู้ขาย และกรรมการ คือ กลต. ที่เป็นคนกลางเพื่อดูแลการธุรกรรมให้โปร่งใสเป็นไปตามกติกา แต่มีข้อสงสัยในพฤติกรรมที่ผิดปกติไม่เป็นไปตามธรรมชาติ นั่นแสดงว่ามีใครจงใจสร้างข้อมูลปลอมขึ้นมาหลอก
ก่อนนี้แมงเม่าจะโดนหลอกให้บินเข้ากองไฟ ด้วยเหตุผลพื้นฐานคือความโลภ แต่นานๆไปแมงเม่าได้เรียนรู้ ฉลาดขึ้นก็เริ่มรู้ทัน มุกเดิมๆหลอกเม่าไม่ได้
ปัจจุบันนี้ยุคไฮเทค มีการเทรดหุ้นโดยระบบ Program Trading (PT) ผ่านวิธีการซื้อขายแบบรวดเร็วหรือ High-Frequency Trading (HFT) มีการทำ Short Sale ที่ผิดกฎหมาย คือ Naked Short Sale เรียกง่ายๆว่าขายหุ้นลม ไม่ได้มีการยืมหุ้นมาขายแบบ Short Sale แต่อย่างใด จึงเท่ากับเป็นการหลอก หลอกให้นักลงทุนรายย่อยทั่วไปเข้าใจผิด จึงตกเป็นเหยื่อ
ตลาดหลักทรัพย์ฯ บอกว่าได้ยกระดับการกำกับดูแลให้เข้มงวดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2018 ภายหลังจากที่พบการกระทำผิดด้วย Naked Short Sale ถึง 5 รายในช่วงปี 2017-2018 และลดลงเหลือเพียง 2 ราย ในปี 2022 ส่วนปีนี้ยังไม่พบ
เมื่อคำตอบที่ได้จากการแถลงข่าวของตลาดหลักทรัพย์ บอกว่าไม่พบการกระทำดังกล่าว จึงเห็นแย้งกับนักลงทุน ในข้อที่ตั้งสมมุติฐาน คือ นักปั่นหุ้นมาเหนือเมฆกว่าผู้ตรวจสอบหรือเปล่า หรือว่าผู้ตรวจสอบไม่สามารถตรวจสอบไปถึงนักลงทุนต่างชาติที่อยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจที่จะตรวจสอบได้ หรืออื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ
ทำให้นึกย้อนกลับไปถึง 2 เหตุการณ์สำคัญ ที่คล้ายกันมาก และสร้างความหายนะให้กับทั้งประเทศอังกฤษ และประเทศไทย จนเกือบล่มจม มาแล้วในอดีต
เกิดเหตุการณ์ วันพุธทมิฬ (Black Wednesday) เมื่อค่าเงินปอนด์ของอังกฤษ ถูกโจมตีจาก Hedge Fund โดย George Soros ที่รู้จักกันในชื่อ Quantum Fund และธนาคารกลางของอังกฤษต้องยกธงขาวยอมแพ้ด้วยการประกาศลอยตัวค่าเงินปอนด์ ให้เป็นไปตามกลไกตลาด เมื่อวันพุธที่ 16 กันยายน 2535
สงครามสู้รบเพื่อปกป้องค่าเงินครั้งนั้น ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษสูญเงินไปกว่า 15,000 ล้านปอนด์ จากเงินทุนสำรองของประเทศที่มีทั้งหมด 44,000 ล้านปอนด์
อีก 5 ปีต่อมาในปี 2540 เหตุการณ์โจมตีค่าเงินที่คล้ายกันมาเกิดที่ประเทศไทย โดยเจ้าเดิมคือ จอร์จ โซรอส รู้จักกันในชื่อ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง
 
วันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ประเทศไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาท หลังจากที่ต่อสู้กันจนต้องสูญเสียเงินทุนสำรองไปถึง 24,000 ล้านดอลลาร์ สรอ. หรือจำนวน 2 ใน 3 ส่วน จากที่มีทั้งหมดในปลายปี 2539 ถึง 38,700 ล้านดอลลาร์ สรอ. ต้องขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF)
วิกฤตครั้งนั้นส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจและสร้างความเสียหายอย่างมากต่อประเทศไทย ส่งผลไปถึงภูมิภาคอาเซียนและอีกหลายประเทศในเอเชียจนเป็นวิกฤตทางการเงินในที่สุด
ส่วนรอบนี้สัญญาณแห่งความหายนะ ก่อตัวในรูปแบบใหม่ที่แฝงมาในรูปของการยืมหุ้นมาขาย (Short sale) ของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีหลักทรัพย์ในมือแบบไม่อั้น จึงเป็นข้อสงสัยให้กับกลุ่มนักลงทุนรายย่อยว่าแท้จริงแล้ว เป็นหุ้นจริงหรือหุ้นลม (Naked Shot Sale) กันแน่
หากผู้รับผิดชอบไม่หาทางพิสูจน์ความจริงข้อนี้ แล้วป้องกันให้ได้ หรือไม่ทันเกมส์ต่างชาติ ที่แอบเข้ามาร่วมมือปล้นนักลงทุนรายย่อย อนาคตข้างหน้าก็พอจะคาดเดาได้ว่าจะเกิดความเสียหายขนาดไหน
อย่าปล่อยให้ปลาใหญ่ไล่กินปลาเล็ก โดยไร้การดูแลด้วยกติกาที่เป็นธรรม ไม่เช่นนั้นเมื่อปลาเล็กหมดบ่อ ปลาใหญ่ก็จะหันมากินประเทศไทย เกิดหายนะเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้า เหมือนในอดีต
การเชื่อมโยงของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ เป็นตาข่ายเหมือนใยแมงมุมที่ครอบคลุมไปทั่วโลก ที่มาในรูปแบบกองทุน Hedge Fund ที่มุ่งแต่ฟาดฟันผู้อื่นให้ล้มตาย ไม่มีความปราณี ไม่สนใจกฎเกณฑ์กติกา มุ่งแสวงหาแต่ผลกำไร คอยดักโจมตีเหยื่อ ไม่ต่างไปจากแมงมุมที่มีพิษร้ายอย่างแม่ม่ายดำ ใครเจอเข้าไปมีแต่ตายกับตาย
วันนี้แม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยเทรดหุ้น รวมทั้งใช้ Robot เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ก็ไม่เป็นไร นักลงทุนรายย่อยไม่เกี่ยง ขอเพียงแต่อย่าเล่นนอกกติกาชกใต้เข็มขัดก็พอ ดูไม่แมน ใครเห็นเข้ามันน่าเกลียด
โดย.. พี่ชื่อวิช
โฆษณา