24 พ.ย. 2023 เวลา 10:34 • ปรัชญา

เจ้าชายนิทรา

นั่งนึกดูว่าตัวเองชอบอะไร ก็มีหลายอย่างเท่าที่เคยทำมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน โรงเรียนมีกิจกรรมอะไรจะเข้าร่วมเกือบทุกกิจกรรม
นอกจากเรื่องการเรียนแล้ว ก็มีกีฬา ร้องเพลง ดนตรี เกษตร เรียงความ สังคมการเมือง บางกิจกรรมเคยทำแล้วก็ทิ้งไป บางอย่างที่ทำต่อเนื่อง จนมาถึงตอนนี้ก็ยังปฏิบัติเป็นประจำในชีวิตประจำวัน คือการออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง และเขียนบทความ ที่ให้ความรู้สึกดี มีความสุขที่ได้เขียน เหมือนกับได้คุยกับเพื่อนๆ
โดยเฉพาะเรื่องการออกกำลังกาย ชอบเล่นกีฬา มาตั้งแต่เป็นนักเรียน เป็นนักกรีฑาของโรงเรียน วิ่งเดี่ยวและผลัด 200 เมตรคือระยะที่ถนัด ยังคิดถึงวันที่เคยเก็บตัวนักกรีฑาก่อนวันแข่งเกือบเดือน สมัยมัธยมต้น
เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ที่ มจธ. ได้เป็นนักกีฬาเซปัคตะกร้อมหาวิทยาลัย เลยทำให้ชอบการเล่นกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำ อาจจะเป็นเพราะว่าได้สนุกสนานเฮฮากับเพื่อนๆ จึงทำให้กลายเป็นนิสัยชอบออกกำลังกาย
ช่วงวัยทำงานก็ยังหาเวลาเล่นกีฬาอยู่เป็นประจำ ชวนแม่บ้านและลูกๆมาออกกำลังกายช่วงเย็น เมื่อพร้อมหน้าพร้อมตา เสริมความแข็งแกร่งให้กับสังคมครอบครัว
ในทางการแพทย์ อธิบายว่า เมื่อเราออกกำลังกาย จะมีสารแห่งความสุขหลั่งออกมาจากต่อมใต้สมอง เรียกว่า เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) มาจากรากศัพท์ 2 คำ อันได้แก่ Endogenous หมายถึงภาวะภายในร่างกาย และ Morphine หมายถึง ยาที่ช่วยลดความเจ็บปวด

สารเอ็นดอร์ฟินส์ (Endorphins) เป็นสารส่งผ่านเส้นประสาทที่ผลิตโดยต่อมใต้สมอง (pituitary gland ) และต่อมใต้สมองส่วนล่าง (Hypothalamus) เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตออกมาตามธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการปวด ลดความเครียด ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น เสริมสร้างสุขภาวะ
ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์ขณะที่เราทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความสุข เช่น การรับประทานอาหาร โดยเฉพาะการร่วมวงสังสรรค์กับเพื่อนสนิท คนรู้ใจ การออกกำลังกายกับกีฬาชนิดต่างๆ เช่น วิ่ง เดินเร็ว ว่ายน้ำ เดินป่า การนวด เต้นรำและการมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
ในทางตรงกันข้ามหากร่างกายไม่สามารถผลิตหรือหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส์ได้เพียงพอ จะทำให้รู้สึกวิตกกังวล ปวดเมื่อยตามตัว ซึมเศร้า หงุดหงิด นอนไม่หลับ เป็นสาเหตุให้ติดสารเสพติด นำไปสู่ภาวะซึมเศร้า กลายเป็นปัญหาสุขภาพ เป็นคนไม่มีชีวิตชีวา เหมือนกับเจ้าชายนิทราในที่สุด
ดร.ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์
ภาควิชามนุษยศาสตร์ 
คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ 
มหาวิทยาลัยมหิดล
ได้สรุป ใจความสำคัญของคำว่า เจ้าชายนิทราไว้ดังนี้
เจ้าชายนิทรา ปรากฏการณ์ของ ‘สมอง’ กับ ‘จิต’
จิตใจ จึงเป็น ปรากฏการณ์ ที่เชื่อมโยงกับ ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงสร้างทางสมอง อย่างแยกไม่ออก โครงสร้างทางสมองของมนุษย์นับเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนที่สุดในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะซับซ้อนยิ่งไปกว่าโครงสร้างทางสมองของมนุษย์ ดังนั้น ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับโครงสร้างทางสมองจึงส่งผลโดยตรงต่อปรากฏการณ์ที่เรียกว่า จิตใจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
กรณีศึกษาเจ้าชายนิทราที่เราคงจำกันได้ เช่น คุณอโนเชาว์ ยอดบุตร อายุ 24 ปี นักแสดงภาพยนตร์ ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2526 สมองได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง เกิดภาวะ สมองตาย จนต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นานถึง 35 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 รวมอายุ 59 ปี
อีกกรณีหนึ่ง เมื่อ 20 กว่าปีก่อน คริสหรือคริสโตเฟอร์ เบญจกุล อดีตดาราผู้มีน้ำใจลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ แต่โชคร้าย เขากลับประสบอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จากคนเมาแล้วขับมอเตอร์ไซค์มาชน ทำให้หมดสติไป 10 วัน แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึง 3 ปี แม้สุดท้ายจะฟื้นกลับคืนมาได้ก็ต้องกลายเป็นคนพิการตั้งแต่วัย 20 กว่าๆ ต้องมาเริ่มเรียนรู้การใช้ชีวิตใหม่หมด ตั้งแต่หัดพูด หัดกิน หัดเดิน หัดเขียน ต้องเริ่มใหม่ทุกอย่าง
คริส โชคดีกว่าอโนเชาว์ตรงที่ว่า ภายหลังการผ่าตัดแล้วคริสรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาได้ หลังจากการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ยาวนาน และได้ทำกายภาพบำบัดฟื้นฟูร่างกายแล้ว คริสก็สามารถออกจากโรงพยาบาล และใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับคนอื่นได้ระดับหนึ่ง ส่วนสภาพจิตใจของคริสต์หลังการฟื้นฟู ก็ไม่เต็มร้อยเท่าเดิม
ถ้าถามว่ารู้จัก ปาณรวัฐ กิตติกรเจริญ หรือชื่อเดิมว่า อภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ หรือเปล่า หลายคนส่ายหน้า บอกไม่รู้จัก แต่ถ้าถามว่ารู้จักบิ๊ก ดีทูบีไม๊ หลายคนร้องอ๋อ
ดาวรุ่งที่กำลังพุ่งแรง สมาชิกวง ดีทูบี (D2B) ดนตรีแนวป๊อบและอาร์แอนด์บี ชื่อดังในสมัยนั้น ต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา สาเหตุจากเชื้อราในสมองที่บิ๊กสำลักน้ำครำเข้าไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ตกลงไปพลิกหงายท้องในคูน้ำที่ถนนศรีนครินทร์ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546
บิ๊กต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทรา รักษาตัวอยู่นานถึง 4 ปี จนกระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2550 บิ๊กเสียชีวิตลงในที่สุด ที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะอายุได้ 25 ปี
ชีวิตจริงกับในเทพนิยาย มันต่างกัน จุมพิตจากเจ้าหญิงเจ้าชายไม่มีอยู่จริง อโนเชาว์ ยอดบุตร คริสโตเฟอร์ เบญจกุล และบิ๊ก ดีทูบี ได้รับการช่วยเหลือจากคุณหมอเต็มกำลัง แต่ก็สามารถช่วย คริส ได้เพียงคนเดียว แม้จะไม่ได้ 100% ก็ถือว่าเหมือนปาฏิหาริย์ ทั้ง 3 รายมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ
หากจิตใจใครตกอยู่ในภาวะเจ้าชายนิทรา ทั้งๆที่ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยใดๆ แต่หมดพลังขาดกำลังใจ หมดไฟที่จะขับเคลื่อนการทำงาน เคสแบบนี้คุณหมอท่านไหน ฝีมือขั้นเทพก็รักษาไม่ได้ ต้องหาทางรักษาด้วยตัวเอง
ลองเช็คตัวเองดูหน่อย เผื่อไฟมอดจนใกล้จะเป็นเจ้าชายนิทรา อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในภาวะไร้ความรู้สึกนานเกินไป จะอันตรายต่อการใช้ชีวิต จงใช้ความกล้าหาญ จากจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง จุมพิตจิตใจตนเอง จะได้ฟื้นตื่นขึ้นมาใหม่ มีชีวิตชีวาอีกครั้ง
โดย.. พี่ชื่อวิช
โฆษณา