[Dime!] รู้จักหุ้น GlaxoSmithKline (GSK) บริษัทยาที่มีจุดเริ่มต้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา 💊 GlaxoSmithkline (NYSE : GSK) เป็นบริษัทยาสัญชาติอังกฤษ เป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทเป็นอันดับที่ 20 ของโลก ราว 2.5

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Dime!

ยืนยันแล้ว

•

28 พ.ย. 2023 เวลา 12:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ

รู้จักหุ้น GlaxoSmithKline (GSK) บริษัทยาที่มีจุดเริ่มต้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา

💊 GlaxoSmithkline (NYSE : GSK)

เป็นบริษัทยาสัญชาติอังกฤษ เป็นบริษัทยาที่มีมูลค่าบริษัทเป็นอันดับที่ 20 ของโลก

ราว 2.5 ล้านล้านบาท

💸 ถึงจะเป็นบริษัทอังกฤษ แต่ก็สามารถลงทุนได้ในตลาดหุ้นอเมริกา

โดยมีอัตราปันผลต่อปีล่าสุด 3.9 %

🕰️ ประวัติของบริษัทนี้ ย้อนไปได้ไกลถึงปี 2258 ซึ่งตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยาในประวัติศาสตร์ไทย

ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ซึ่งในช่วงเวลานั้น ความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรอยุธยากับชาติตะวันตกลดน้อยถอยลงไปมาก

🎩 แต่ในอีกฟากของโลก ที่กรุงลอนดอน เมืองหลวงอังกฤษ เป็นยุคสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 1 นับว่าองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของชาติตะวันตกมีความก้าวหน้าพอสมควร

🏛️ ในอังกฤษมีการก่อตั้ง “ราชสมาคมแห่งลอนดอน” ให้เป็นแหล่งรวมผู้ทรงความรู้ และเผยแพร่ผลงานการวิจัยของเหล่านักวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2205 นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญ เช่น เซอร์ไอแซก นิวตัน ผู้ค้นพบกฎของแรงโน้มถ่วง ซึ่งในช่วงปี 2258 นิวตันก็เป็นนายกราชสมาคมแห่งลอนดอนด้วย

ในด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ อังกฤษก็มีความก้าวหน้าไปมาก

🫀 ด้านชีววิทยา หมอวิลเลียม ฮาร์วีย์ เป็นคนแรกที่อธิบายการทำงานของหัวใจ และระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย

🌱 ส่วนโรเบิร์ต ฮุก เป็นผู้ใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องพบหน่วยทำงานที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต และเป็นผู้บัญญัติคำว่า "เซลล์" ขึ้นมาเป็นครั้งแรก

🏥 ความก้าวหน้าทางชีววิทยาต่อยอดมาสู่องค์ความรู้ด้านยารักษาโรค

มีการก่อตั้งร้านขายยามากมายที่ใช้องค์ความรู้ใหม่ หนึ่งในนั้นคือร้านยาเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า Silvanus Bevan’s apothecary ในย่าน Plought Court ใจกลางกรุงลอนดอน

🏢 ร้านขายยาแห่งนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Allen and Hanbury’s ในอีกราว 100 ปีต่อมา และมีการควบรวมกับบริษัทอื่น ๆ จนกลายเป็น Glaxo Group ในปี 2499 และควบรวมกับ SmithKline Beecham

จนกลายเป็น GlaxoSmithKline ในที่สุดในปี 2543

จากจุดเริ่มต้น GlaxoSmithKline นับเป็นบริษัทยาที่อยู่เบื้องหลังยามากมาย เช่น

🫁 ยารักษาหอบหืด Salbutamol

🧫 ยารักษาเริมและงูสวัด Acyclovir

🦠 และยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่หลายคนรู้จักอย่าง Amoxicillin

📊 โดยสัดส่วนรายได้ของ GlaxoSmithkline ในช่วง 9 เดือน ของปี 2566

แบ่งเป็น 3 กลุ่มใกล้เคียงกัน ได้แก่

1. ยาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคทั่วไป สัดส่วน 34 %

2. ยารักษาโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง และ HIV สัดส่วน 33 %

3. วัคซีน เช่น วัคซีนงูสวัด วัคซีนไข้หวัดใหญ่ สัดส่วน 33 %

🌎 โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรก ของปี 2566 มาจาก

สหรัฐอเมริกา 51% ยุโรป 22% และภูมิภาคอื่น ๆ 27%

💉 จากเส้นทางและการสั่งสมองค์ความรู้มายาวนานกว่า 300 ปี GlaxoSmithKline นับเป็นบริษัทยาที่มีความโดดเด่นหลากหลาย ทั้งยารักษาโรคระบบทางเดินหายใจ ไปจนถึงยารักษาโรค HIV

แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือการวิจัยและพัฒนาวัคซีน โดยจากข้อมูลของ Statista

GlaxoSmithKline ถูกคาดว่าจะเป็นบริษัทที่ครองส่วนแบ่งการตลาดวัคซีนมากที่สุดในโลกในปี 2567 โดยครองส่วนแบ่งอยู่ที่ราว 24 % ..

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ  

ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบ ผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นโดยอาศัยแหล่งข้อมูลสาธารณะ ซึ่งพิจารณาแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งปรากฏขณะจัดทำ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละขณะเวลา บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงความเห็นหรือประมาณการต่าง ๆ ที่ปรากฏโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ที่มา : Companiesmarketcap.com, gsk.com, statista.com

มูลค่าบริษัท ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566

════════════════════                   

#เพราะการเงินเป็นเรื่องของทุกคน                   

════════════════════                   

Dime! เปลี่ยนเรื่องเงินให้เป็นเรื่องสนุก เพื่อความสุขอย่างเท่าเทียมของทุกคน                   

บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Dime! ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง กำกับโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ใบอนุญาตเลขที่ ลก-0007-02

ติดตามเราในช่องทางต่าง ๆ ได้ที่                   

Facebook - https://www.facebook.com/dimeinvest                   

Instagram - https://www.instagram.com/dime.finance           

Twitter - https://twitter.com/dimefinance                

TikTok - https://www.tiktok.com/@dime.finance                   