ช่วงเดือนสุดท้ายของ George Harrison
วันนี้ครบ 22 ปีของการจากไปของ George Harrison เต่าทองผู้เงียบขรึม และสามารถก้าวมายืนแถวหน้าระดับเดียวกับ John Lennon และ Paul McCartney ได้ในที่สุดด้วยความอดทน แม้จะไม่ได้รับโอกาสมากมายนัก แต่การออกมาเป็นศิลปินเดี่ยวทำให้เขาสามารถแสดงควาสามารถได้เต็มที่ จนกลายเป็น Beatles คนแรกและคนสุดท้ายที่มีอันดับ 1 อยู่ในมือ เราไปอ่านเรื่องราวช่วงเดือนสุดท้ายของจอร์จกัน เพื่อรำลึกถึงตำนานที่มีชื่อว่า "George Harrison"
#เริ่มเดือนแห่งความสูญเสีย
ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปี 2001 อาการของ George Harrison ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมะเร็งกลับมาเล่นงานเขาอีกครั้ง Olivia ภรรยาจึงพา George กลับมารักษาที่อเมริกาอีกครั้ง โดยพามารักษาตัวที่โรงพยาบาล Staten Island University กรุงนิวยอร์ค
จอร์จอยู่ในการดูแลของ Dr. Gil Lederman ผู้บุกเบิกการรักษามะเร็งด้วยวิธี "Fractionated Sterotactic Radiosurgery" ซึ่งใช้รังสีในปริมาณสูงเพื่อใช้โจมตีเนื้องอกที่เป็นมะเร็ง และจอร์จได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากการรักษาด้วยวิธีนี้
#เรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด
Dr. Gilbert Lederman คนนี้แหละที่ถูกครอบครัว Harrison ฟ้องร้องฐานคุกคามความเป็นส่วนตัวและสร้างความเครียดให้กับผู้ป่วยโดยผู้ป่วยไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
Dr Gilbert Lederman, the director of radiation oncology at the University Hospital, had taken two of his children to the Staten Island house where Harrison was living, made him listen to his son play guitar, and then coerced him into signing the instrument as well as autographing other pieces of paper. - ข้อกล่าวหาจากครอบครัว Harrison
ครอบครัว Harrison อธิบายว่าหมอกิลเบิร์ตพาลูกของตัวเองมาเล่นกีต้าร์ให้จอร์จฟัง และยังบังคับให้จอร์จเซ็นชื่อบนกีต้าร์กับแจกลายเซ็นบนกระดาษจำนวนหนึ่ง ทั้งๆที่เขาแทบจะไม่มีแรงและแทบจะสะกดชื่อตัวเองไม่ได้แล้ว แต่คุณหมอก็ยังจับมือเขาและช่วยสะกดชื่อให้ด้วย
#เป็นเพียงแค่ข่าวลือ
ในวันที่ 8 พฤศจิกายน เริ่มมีการปล่อยข่าวลือรายงานว่า จอร์จได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ภายใน 48 ชั่วโมง อาการของจอร์จกลับดีขึ้น ไม่น่ากลัวเหมือนวันแรกที่เข้ามารับการรักษา ทางโฆษกส่วนตัวของจอร์จได้ออกมาแก้ข่าว และรายงานว่าอาการของจอร์จกลับมาดีขึ้นเป็นลำดับ
#เคลียร์เรื่องค้างคาใจ
Paul McCartney ซึ่งใช้เวลาอยู่นิวยอร์คในช่วงเวลานั้นหาโอกาสไปเยี่ยมจอร์จซึ่งนอนรักษาตัวอยู่บนเตียง เขาใช้เวลาอยู่กับจอร์จนานร่วม 6 ชั่วโมง คุยเรื่องราวทั้งในอดีตและปัจจุบัน เคลียร์เรื่องราวเก่าๆที่ผ่านมา เรื่องที่เคยกระทบกระทั่งกันสมัยอยู่วง The Beatles และจบลงด้วยดี มีแต่เสียงหัวเราะทั้งน้ำตาของทั้งคู่ (น่าจะเป็นช่วงที่ Ringo มาร่วมสมทบด้วยในวันที่ 12 พ.ย.)
#เตรียมใจ
ช่วงเวลานั้นจอร์จทราบแน่นอนแล้วว่า เขาคงต้องตายในไม่ช้านี้ เขายอมรับความจริงนี้ด้วยความกล้าหาญและเตรียมตัวเตรียมใจ ในขณะที่ครอบครัวก็อนุญาตให้ใช้การรักษาระดับเข้มข้นเพื่อจะยืดอายุของเขาให้อยู่ได้นาน เพราะ Olivia ภรรยาและ Dhani ลูกชายต้องการให้จอร์จอยู่กับพวกเขาให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
วันที่ 15 พฤศจิกายน ทั้งคู่พาจอร์จไปรักษาต่อที่ UCLA Medical Center โดยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว บินจากนิวเจอร์ซีไปลงที่ลอสแองเจลิส โดยพักอยู่ที่บ้านเพื่อนชื่อ "Gavin de Becker"
การรักษาครั้งนี้มีการฉายรังสีอย่างต่อเนื่อง และร่างกายของจอร์จตอบสนองได้น้อยลงอย่างอย่างต่อเนื่อง จนวันที่ 25 พฤศจิกายนมีการรายงานจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือว่า จอร์จจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสัปดาห์
#วันสุดท้ายของชีวิต
จอร์จจึงปล่อยวางโชคชะตาของตัวเอง แล้วหันมามีความสุขอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เขารักในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต และในที่สุดจอร์จก็กลับไปสู่อ้อมกอดของพระเจ้าในวันนี้ (29 พ.ย.)ในปี 2001 เวลา 13.30 น.
จอร์จเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งของพอลในนิวยอร์ค นั่นหมายถึงว่า ช่วงหลังวันที่ 25 พ.ย.น่าจะมีการย้ายจอร์จไปที่บ้านของพอล..หรือไม่ครอบครัวของจอร์จก็พยายามปกปิดไม่ให้รู้ว่าเป็นบ้านของพอล
บางส่วนจากหนังสือ Behind Sad Eyes : The Life of George Harrison (2003)
***อ่านผ่านเว็บ สามารถค้นอ่านเนื้อหาอื่นๆได้อีกมากมาย คลิกลิงค์ใต้โพสต์***
#welove #welovechannelinfo #welovechannel
#otd #onthisday #OnThisDay #georgeharrison #RIP #restinpeace #remembering
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
