3 ธ.ค. 2023 เวลา 09:06 • นิยาย เรื่องสั้น

ไม่ใช่ของเราไม่ใช่ของเขา

ขอโทษด้วยที่ห่างหายไปนาน ช่วงนี้ไม่มีความเข้มของพอที่จะเขียนอะไร จิตใจว้าวุ่นปล่อยเวลาผ่านไปรักษาดวงใจรักษาจิตให้หายเจ็บป่วยและมีพลังพอจะยกมือขึ้นเขียนหนังสือได้ หายใจลึกๆดูลมหายใจทำบ่อยๆทำอยู่เสมออาการจะดีขึ้น เป็นเสียงบอกมาจากตัวเองในกายจิตในจิตกายก็จะดีแข็งแรงขึ้นทำให้ตัวเองทำตามที่จิตบอกหายใจลึกๆดูลมหายใจจิตบอกมาทำตาม ทำบ่อยๆเป็นระยะรู้สึกดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ
2
จนในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่าจะต้องเขียนอะไรสักอย่างให้คนที่คอยอ่านได้รู้เรื่องของเราตัวเองก็ดีใจที่ยังมีพลังกายพลังใจที่จะทำให้งานเริ่มขึ้นร่างกายและจิตใจเป็นของเคียงคู่กันจิตใจดีแต่ร่างกายอ่อนแอก็ไปไม่ไหวตัวเราเองก็ให้รู้สึกว่าวันนั้น 1
วันที่ยังจำได้ว่าเวลาเหลือน้อยมีเวลาน้อยแล้วในเช้าวันหนึ่งในเดือนตุลาคมหลังจากทำบุญครบรอบ 1 ปีที่พี่จากไปเร็วมาก คิดถึงไม่มีแม้แต่วันเดียวใครจะกล่าวหาอะไรก็ไม่เป็นไรเพราะเราเคยอยู่ด้วยกันมาสมัยก่อนไปรบตามชายแดนไปสู่สมรภูมิเป็นเวลาหลายเดือนแต่ก็กลับมาหาได้ตัวเป็นๆ
ทำให้ชีวิตก้าวต่อไปก็คิดอยู่ในใจว่าคงจะประคับประคองซึ่งกันและกันต่อไปจนแก่เฒ่าแต่พอถึงเวลาก็ทำใจไม่ได้สิ้นหวังเพราะไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่แม้จะรู้ว่าพี่อยู่บนสวรรค์เราก็มองหาไม่เจอทั้งที่รู้ว่าพี่อยู่บนสายดีไม่ลำบากความดีของพี่เป็นสุภาพบุรุษที่หาคนแบบนี้ยากทำใจว่าเป็นเวลา 1
ปีแล้วแต่มันไวมากแต่พยายามทำใจรับกฐินไว้ที่จังหวัดกาญจนบุรีวัดหนองบัวที่เคยบวชอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 4 เดือนคือครบพรรษาปฏิบัติธรรมตามหลวงปู่ยิ้มหลวงปู่เหรียญทำให้พี่ยึดมั่นในพระธรรมอย่างมั่นคงแม้ตอนทำงานจะมีอุปสรรคบ้างแต่ธรรมะของพระพุทธองค์ก็รักษาจิตใจของครอบครัว
ไว้อย่างดีงามมากที่อุปสรรคทั้งหลายปัดเป่าไปด้วยพระธรรมจนที่สุดทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติเพราะสิ้นงานบุญเสร็จเรียบร้อยตัวเราเองก็อยู่อย่างสงบสุขมาวันหนึ่งหลังจากใส่บาตรพระตอนเช้าหลังจากนั้นรับประทานถั่วเหลืองไป 1
แก้วแล้วก็เข้าห้องพระสวดมนต์ซึ่งทำเป็นประจำที่สวดมนต์เช้าและเย็นเป็นประจำเป็นเวลาหลาย 10 ปีแล้วทำให้สมาธิดีขึ้นเรื่อยๆจิตใจสบายแม้จะทุกข์ก็หักห้ามใจได้เพราะเป็นไปตามกฎของวัฏจักร ทุกสุขอนิจจังอนัตตา
วันนั้นสวดมนต์นั่งเก้าอี้ตามปกติยืนอยู่อาการวูบก็เกิดขึ้นรู้สึกว่าดวงตาจะมืดมัวเริ่มมองไม่ชัดเจนเทียนไขที่จุดไหว้พระก็ยังสว่างไสวแต่เราไม่สามารถจะมองเห็นชัดๆตัวเราเองเริ่มรู้สึกว่าเราเองจะต้องดับแน่แต่จิตก็ภาวนาอะระหังพุทโธที่เคยภาวนาประจำ
และสติก็ตั้งมั่นพยายามเลื่อนตัวเองลงมากับพื้นพยายามจะเอื้อมมือไปดับไฟเทียนไขที่ไหว้พระแต่มือไม่มีแรงแม้แต่จะเหยียดแต่จิดยังตั้งสติอยู่กับคำบริกรรมของพระพุทธเจ้าบอกตัวเองว่าเทียนคงจะดับเองได้เพราะเหลือแค่ครึ่งเดียวและตั้งอยู่บนที่ตั้งใหญ่ไม่มีธูปพอดีเอียงตัวเองเอาศีรษะ
ไปทางพระและเอาร่างกายไปตามยาวบอกว่าถ้าเราสิ้นลมตายไปตอนนี้ก็คงจะมีคนมาเจออีกเป็นหนึ่งหรือสองวันนี้เพราะเราไม่มีใครจะโทรศัพท์ไปหาใครได้ก็แขนขาขยับให้ได้แล้วเหลือแต่ดวงจิตที่อธิษฐานถึงพระพุทธเจ้าและแล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่งสงบโดยที่เราเองไม่รู้ตัวว่าเราหลับ
หรือว่าเราดับกันแน่จนเป็นเวลานานจนมารู้สึกตัวเวลาอีกนานดวงตาที่ติดมองไม่เห็นก็เริ่มลืมตาขึ้นดูแสงสว่างเพียงไขดับไปแล้วตามที่เห็นคงจะดับไปนานพอสมควรเอามือจับดูแขนขาก็ค่อยๆขยับได้บอกขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่ถึงเวลาไป แล้วก็ยกตัวลุกขึ้นสวดมนต์ต่อไปจนจบ
คิดเวลาที่เราเองนอนนิ่งไม่รู้ตัวประมาณกว่า 30 นาทีเพราะตั้งแต่ 7 โมงเช้าก็เข้าไปเวลาตื่นขึ้นมาก็ 8:00 น แล้วเรารอดตายแต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ตายเราต้องตายแน่นอนแต่ไม่รู้จะอีกวันไหนเราจะได้ไม่ประมาทบอกคนใกล้ชิดทุกคนก็บอกว่าไม่เป็นไร
ความจริงเป็นเรื่องใหญ่ที่เห็นคุณค่าของชีวิตเราเปลี่ยนไปเราทราบว่าไม่นานเราต้องไปแล้วเราพยายามจัดสรรแบ่งข้าวของสมบัติตามความเหมาะสมเพราะสักวันเราก็ต้องไปไม่ช้านานเพราะเขามาเตือนแล้วว่าทุกอย่างไม่แน่นอนไม่มีอะไรเป็นของเราไม่มีอะไรเป็นของเขาทุกอย่างเป็นสมมุติ
1
โฆษณา