ขอให้หัวใจของหนูแข็งแรงอยู่เสมอ
วุฒิภาวะบนโลกออนไลน์ของประชากรชาวเน็ตคนไทยส่วนใหญ่เป็นพวกกากเกรียนคีย์บอร์ด คือเก่งแต่แสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่ด้อยค่า บูลลี่ เหยียบย่ำ อิจฉา ท้าทาย โอ้อวด เหน็บแนม ด้วยความต้องการจะทำร้ายให้เจ้าของโพสต์รู้สึกไร้ค่า อับอาย ต่ำต้อย
แล้วประชากรชาวเน็ตคนไทยคุณภาพต่ำเหล่านี้จะมีสันดาน “อุปทานหมู่” ดึงดูดผู้มีรสนิยมรุมโทรมด้วยความหยาบคายให้มารวมตัวกันสร้างมลภาวะบนโลกโซเชียล
ช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมามีกระแสสังคมมากมายที่เหล่าบรรดาสัมภเวสีออนไลน์เข้าไปทิ้งร่องรอยซ้ำเติมบนความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ บางกรณีความคิดเห็นซึ่งต้องการแค่ความสะใจเพียงเสี้ยววินาทีนั้นกลับทำให้จิตใจของผู้ที่ถูกทัวร์ลงจมดิ่งจนนำมาสู่การฆ่าตัวตาย
ประชากรชาวเน็ตคุณภาพต่ำที่แม้จะรู้ว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนต้องฆ่าตัวตายหนีความอับอาย ก็ยังคงมีพฤติกรรมเดิมๆอย่างนั้น เหมือนกลิ่นเน่าบนโลกออนไลน์ที่เย้ายวนให้ผู้ชื่นชอบรุมตอมกันมากขึ้นเรื่อยๆ
จำได้ว่าชาวเน็ตกะโหลกกะลาสัญชาติไทยนี่แหละครับที่เคยแห่เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ขององค์การ NASA ระหว่างที่เขาปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรโลก คือไม่มีทั้งวุฒิภาวะทางความคิด ไม่มีกาละเทศะ ไม่มีสาระ ไม่สนเว็บไหนประเทศไหนทั้งสิ้น
พฤติกรรมที่ปั่นกระแสโลกออนไลน์จนผมคิดว่ามันเลยเถิดคุกคามความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไปจนตั้งคำถามกับตัวเองว่าประชากรชาวเน็ตคนไทยคุณภาพต่ำพวกนี้ จริงๆแล้วพวกเขาก็เป็นแค่ส่วนเกินของโลกใบนี้ที่บังเอิญมีเงินเติมค่าอินเตอร์เน็ตหรือเปล่า คือกรณีที่เกิดขึ้นกับน้องปิ่นปิ้น TikToker
การแสดงความคิดเห็นของประชากรชาวเน็ตคุณภาพต่ำยังคงทำงานตามระดับสติปัญญาที่มีเหมือนเดิม สะท้อนว่าในช่วงที่คนเหล่านั้นยังเป็นเด็ก พวกเขาเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ปลูกฝังทัศนคติอย่างไร
หรือเป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ได้ถูกอบรมสั่งสอนมารยาททางสังคม โดยเฉพาะการให้เกียรติคนในสังคมด้วยการไม่ทำร้ายความรู้สึกของใครด้วยข้อความดูถูก เหยียดหยาม ซ้ำเติม
ให้เข้าใจง่ายๆ คือ เห็นอะไรบนโซเชียลแล้วไม่ถูกใจก็อย่าเข้าไปเสือกแสดงความเห็นต่ำๆ (มึงไม่ใช่คนที่ตัดสินทุกเรื่องบนโลกนี้ว่าอะไรดีไม่ดี)
#ขออภัยผู้อ่านทุกท่านผู้เขียนมีอารมณ์ร่วมมากไปหน่อย
.
.
.
.
.
พฤติกรรมคุกคามผู้อื่นบนโลกโซเชียลมันเกิดขึ้นบ่อยๆแล้วก็เกิดขึ้นซ้ำๆ ซากๆ ทำให้ผมคิดมากว่า หรือความกากเกรียนนักเลงคีย์บอร์ดเป็นผลผลิตจากความผิดพลาดในสังคมไทยที่มีวัฒนธรรมสร้างความเก็บกดให้กับเยาวชนรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้มาระบายออกด้วยการแสดงความคิดเห็นต่ำๆผิดๆ ในโลกออนไลน์
ขณะที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเสียใจกับข้อความของกากโซเชียลที่รุมบูลลี่ ประชากรชาวเน็ตไทยอีกส่วนหนึ่งกำลังซุบซิบกระแสข่าวนักร้องนักแสดงหลายคนส่ง DM ขอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนคลับไปทั่ว
ระหว่างที่บรรดาสัมภเวสีออนไลน์กำลังร่าเริงกับการแสดงความเห็นในโซเชียลอย่างเมามัน อีกมุมหนึ่งของสังคมกำลังสะท้อนการใช้กฎหมายของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งรังแกความป่วยไข้ทางจิตเภทของ “ดร.เค็ง” บังคับให้อดีตนักเรียนทุนซึ่งเผชิญหน้ากับโรคซึมเศร้าจนต้องกลายเป็นคนเร่ร่อนใน จ.เชียงราย ใส่เสื้อผ้าตัวเดิม เดินคนเดียว พูดคนเดียว น้ำไม่อาบเป็นปีๆ กลับมาชดใช้ทุนการศึกษาที่ได้ไป
ชะตากรรมจากโรคซึมเศร้าที่ ดร.เค็ง ต้องแบกรับเพียงลำพังนั้น เปลี่ยนมุมมองระบบการให้ทุนของมหาวิทยาลัยไปศึกษาต่อต่างประเทศของผมอย่างสิ้นเชิง
สถาบันการศึกษาที่ควรจะเป็นแหล่งผลิตบุคลากรให้อนาคตกับประเทศชาติด้วยความเมตตา
ภายใต้การบริหารของเหล่าศาสตราจารย์ที่ประดับด้วยรอยยิ้มนั้น ทำไมปฏิบัติกับผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งเหมือนปีศาจคาดคั้นเหยื่อปรารถนาให้ถึงตาย
พวกเขาเป็นพ่อแม่ของประชากรชาวเน็ตคุณภาพต่ำใช่ไหม ?
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
