ฮะมาสกับอิสราเอลดูแลเชลยแตกต่างกันยังไง?
เราจะสามารถสังเกตภาษากายของเชลย ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า สายตา รอยยิ้ม การที่เชลยซึ่งเป็นแรงงานไทย หรือชาวอิสราเอลเองขอจับมือ สวมกอดกับฮะมาส และกลุ่มนักรบต่อต้านอิสราเอลกลุ่มอื่นๆ ก่อนการจากลา เพราะความประทับใจที่ฮะมาสดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี พวกนักรบกินอะไร เชลยก็ได้กินเหมือนกัน มีการรักษาความสะอาดที่พักเป็นอย่างดี เชลยได้สวมเสื้อผ้าสะอาด ผู้สูงอายุเคยกินยายังไง ก็จัดยาแบบเดียวกันมาให้เหมือนตอนอยู่อิสราเอล ทุกๆ คนที่ฮะมาสปล่อยตัว แพทย์ในอิสราเอลได้ตรวจเช็คสุขภาพ และลงความเห็นว่า ทุกคนแข็งแรงสมบูรณ์
ลองเปรียบเทียบเชลยที่อิสราเอลจับตัวไป เด็กปาเลสไตน์ที่อิสราเอลจับตัวไป ส่วนใหญ่ไม่มีการตั้งข้อหา หลายคนถูกขังลืม ตัวอย่างเช่นน.ส. อาเฮด ทะมามีย์ ถูกจับตัวไปจากบ้านเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2023 ในข้อหาโพสต์เฟสบุ๊คส์เกี่ยวกับกาซ่า ทั้งๆ ที่ครอบครัวยืนยันว่าอาเฮด ไม่มีเฟสบุ๊คส์
น้องเป็นนักกิจกรรมชาวปาเลสไตน์คนดังที่ทั่วโลกรู้จักเพราะเคยตบหน้าทหารอิสราเอลดังฉาด โดยน้องเล่าให้ฟังว่า ฝ่ายผู้ต้องขังหญิง ถูกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ อิสราเอลทรมานทุกวัน พวกนางถูกทุบตี ฉีดแก๊สน้ำตาในคุก ไม่มีน้ำ ไม่ให้อาหาร ผู้หญิงไม่มีเสื้อผ้า ต้องนอนกับพื้น ผู้ใดป่วยก็ไม่ยอมพาไปรักษา
ส่วนมูฮัมหมัด นัสซึล เด็กวัยรุ่นชายที่ถูกอิสราเอลจับตัวไปเป็นคนหนึ่งที่อิสราเอลปล่อยตัวในข้อตกลงแลกเปลี่ยนเชลย เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์อิสราเอลจับหักแขน และนิ้ว ขนาดวันที่จะถูกปล่อยตัว ยังถูกทุบตีอีก แล้วไม่มีการรักษา เจ้าหน้าที่ Red Cross เพิ่งมาทำแผลให้ก่อนกลับบ้าน
มูฮัมหมัดยังเล่าว่า มีนักโทษที่เป็นผู้สูงอายุหลายคนถูกอิสราเอลทุบตีและกระทีบจนตาย พวกเขาถูกปล่อยให้หิวเป็น 10 กว่าชม. พอเอาข้าวมาให้ที ก็เอามาแค่จานเดียว กินกับ 10 คน แล้วก็ไม่ให้ฟูก นอนหนาวกับพื้น คนป่วยก็ไม่ให้การรักษา ปล่อยให้ทนทุกข์ทรมาน
ที่มา:
ดูคลิปที่เฟสบุ๊คเซ็นเซอร์:
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
