Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Theerat Dol Bunnag
•
ติดตาม
8 ธ.ค. 2023 เวลา 12:30
“พระธาตุเสด็จ..”
พระบรมสารีริกธาตุ คือ ส่วนของร่างกายที่ยังคงอยู่ของพระพุทธเจ้า..
พระธาตุ คือ ส่วนของร่างกายที่ยังคงอยู่ของพระอรหันต์..
พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ มีลักษณะคล้ายหินผลึก หรืออัญมณี..
ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้รับมา สมัยรับราชการที่ศาลจังหวัดตะกั่วป่า จ. พังงา..
ราวปี 2541 ได้ไปกราบท่านเจ้าอาวาส (สายหลวงพ่อพุทธทาส) ถ้าจำไม่ผิดชื่อ วัดลุ่ม..
เห็นเสาและฐานสิ่งก่อสร้างค้างอยู่.. จนตะไคร่น้ำขึ้น สีเขียวเข้ม..
“หลวงพ่อครับ.. ที่เห็นโน่น เหมือนวิหาร กำหนดเสร็จเมื่อไหร่ครับ..”
ท่านตอบว่า..
“เสร็จแล้วโยม.. เสร็จทุกวัน 55.. มีปัจจัยมาสร้างแค่ไหน ก็เสร็จแค่นั้น..”
ป่านนี้ วิหารน่าจะเสร็จแล้ว ก่อนกลับ ท่านบอกจะมอบพระธาตุให้.. หมายถึงพระบรมสารีริกธาตุ..
ท่านเดินกลับไปที่กุฎิ.. สักพักก็เดินกลับมา แล้วยื่นถุงพลาสติกเล็กๆให้..
ในใจผู้เขียนเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน.. นึกว่า มีจำนวนมาก หรือขนาดใหญ่คล้ายหินมนๆ..
พอรับซองมาจากเจ้าประคุณท่าน ใจหาย.. นึกในใจ..
“อ่อ พระธาตุเป็นแบบนี้.. เล็กมากนะ.. ขนาดเท่ากรวดเล็กๆ หรือเมล็ดผักกาดนั่นล่ะ..มองเก็บไม่เห็น..”
ในซองน่ามีอยู่ 2-3 เม็ดเล็กๆ (เรียกสรรพนามว่า องค์)ในซอง..
“แล้วน้อยแค่นี้เองหรอ.. “
นี่หรอพระธาตุที่เขาว่าศักดิ์สิทธิ์ เสด็จไปมาเองได้..
ตอนนั้น ผู้เขียนเฉยๆ.. ไม่ได้คัดค้าน หรือยอมรับ เรื่องพระธาตุเสด็จ..
หลังจากได้มา ก็ไปหาเจดีย์แก้วเล็กๆมาใส่.. จำนวน 2-4 องค์นี่ล่ะ.. แล้วเก็บลืมไว้ที่ห้องพระ..
ประมาณ 10 ปีต่อมา.. วันหนึ่ง ทำความสะอาดห้องพระ และอารธนาพระพุทธรูปมาสรงน้ำ..
จนไปหยิบเจดีย์แก้วนั้นมาดู.. ก็ต้องแปลกใจ..
คำอุทานในใจของตัวเองว่า.. ท่านให้มาจำนวนน้อยจังเลย ยังดังในหู..
แต่ตอนนี้.. สิ่งที่ปรากฎในเจดีย์..
มีพระบรมสารีริกธาตุจำนวนมาก.. คร่าวๆไม่น้อยกว่า 40-50 องค์ หรืออาจเป็นร้อยต้นๆ..
คราวนี้.. เรื่องพระธาตุเสด็จ ผุดขึ้นมาในสมอง..
“โอ้วหนอ.. สิ่งศักดิ์แทนองค์พระศาสดา ที่เชื่อกันมานาน..
พิสูจน์ไม่ได้ เพราะไม่รู้จะพิสูจน์ยังไง.. แต่จริง จากสิ่งที่ปรากฎเห็นด้วยตาเนื้อ..
นี่เป็นครั้งแรก ที่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน..
หลังจากนั้น..ก็มีปรากฎการณ์แปลกๆอีกมาก.. เช่น พบสิ่งที่คล้ายพระธาตุ สัณฐานกลมเหลือง ในเป้ ในกระเป๋าที่ไม่ได้ใช้มานาน.. จำนวนหลายสิบองค์..
น้องไปงานศพหลวงตามหาบัว 2 คน.. ก็มีเรื่องคล้ายพระธาตุเสด็จทั้ง 2 คน แต่สัณฐานเป็นหินสีชมพูในกระเป๋า กับเกล็ดใสในหนังสือ..
ที่ชัดเจน คือ ครั้งหนึ่ง ไปรับพระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่อสนอง วัดสังฆทานท่านแจกให้ประชาชน คนละ 1 ขวดแก้วเล็กๆ.. โดยต้องเอาบัตรประชาชนไปรับด้วย..
เป็นพระธาตุสัณฐานสีขาว คล้ายข้าวสารหัก ราว 4-5 องค์ใส่ในขวดปิดผาพลาสติกแน่น.. เหมือนท่านยอดน้ำมันจันทร์มาเล็กน้อย..
ผู้เขียน นำไปเก็บไว้ที่หิ้งพระที่ต่างจังหวัด..
ไม่นานหลังจากนั้น มีคนหยิบมาให้ผู้เขียนดูด้วยความประหลาดใจ เพราะข้างใน พระบรมสารีริกธาตุยังอยู่ครบตามปกติ..
แต่ที่ไม่ปกติ คือ มีพระธาตุขนาดไข่ปลา สีน้ำตาลออก กลมๆ เล็กๆติดกันเป็นปื้น เป็นแพ.. นับไม่ถ้วน น่าจะหลักร้อยองค์ปนอยู่ในขวดนั้น.. จะว่า น้ำมันจันทร์ระเหิดเป็นผลึกกลม ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน..
นั่นเป็นครั้งที่สอง ที่ชัดเจน..
ตอนทำงานเมื่อมีโอกาส ก็จะเล่าให้เพื่อนผู้พิพากษาที่สนิทฟัง.. มีท่านหนึ่งบอกไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้.. แต่ท่านไม่ได้ลบหลู่อะไร..
ท่านไม่ได้ขอแบ่ง.. ผู้เขียนเลยบอกว่า ลองไปรับที่วัดสังฆทานมาบูชาดูสิ..
ท่านก็ไปรับมาเก็บไว้ที่หิ้งพระที่บ้าน..
ไม่นานเดือน ท่านมาคุยด้วยความตื่นเต้นว่า..
“จริงด้วยท่าน พระธาตุเสด็จมาเพิ่มจริงๆ.. ผมนับจำนวนไว้ตอนที่รับมา.. ตอนนี้จำนวนเพิ่มขึ้น.. มหัศจรรย์มากครับ.. ผมเชื่อแล้ว..”
จากนั้น ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านก็แบ่งให้บางคนที่ต้องการไป..
มีช่วงหนึ่ง ท่านไปบวชพระที่อินเดียกับโครงการของศาล..
พอสึกกลับมา ก็มาเล่าด้วยความตื่นเต้นอีก..
“ท่านครับ พระธาตุเสด็จมาเพิ่ม คราวนี้เป็นองค์เล็กๆสีทอง 1 องค์ครับ..”
หลายสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้คิดว่า.. ตำนานเรื่องนี้เป็นจริงนะ..
ถ้าสิ่งนี้จริง.. ที่ว่าพระมหากัสสัปปะยังมีชีวิต อีก 2,500 ปี.. รอประชุมเพลิงพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าทั้งหมดในโลก ที่จะมาประชุมพร้อมกัน.. ก่อนพระศรีอารย์เสด็จมา..
ถือว่า สิ้นยุคศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าโคดมของเรา ณ เวลานั้น..
งั้นตำนานนี้อาจจะจริงเช่นกันนะ..
ในช่วงที่ไปบวชพระอยู่ที่สกลนคร ก็ได้เกสาครูบาอาจารย์พระอริยะองค์หนึ่ง (หลวงปู่แบน).. มาเก็บไว้บูชา จำนวนหนึ่ง..
ซื้อเจดีย์แก้ว 2 ชั้น ขนาดใหญ่มาใส่ไว้ที่ชั้นล่าง.. ส่วนชั้นบนยังว่าง.. เก็บไม่นานครับ เกสาก็เริ่มเกาะตัวรวมกันเป็นก้อน.. จนปัจจุบัน..
วันนี้เอง (วันที่ 7 ธค 2566 เวลา 18.30 น.) ผู้เขียนทำความสะอาดห้องพระ และอาราธนาพระพุทธรูปมาทำความสะอาด..
หยิบเจดีย์แก้วใหญ่องค์นั้น มาทำความสะอาด.. มองเห็นชั้นล่าง มีเกสาหลวงปู่เกาะตัวเหมือนเดิม..
แต่ชั้นบนของเจดีย์นี่สิ.. ไฟในห้องพระส่องสว่างชัด..
มีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาจำนวนมาก เป็นครั้งที่สองในชีวิต..
จำนวนแค่ไหน ขอท่านทั้งหลายโปรดนับกันเอาเองตามรูป..
สาธุ..
ที่เล่ามาทั้งหมด.. ไม่ได้จะบอกว่า..
“ไม่เชื่ออย่าลบหลู่..”
เพราะนั่น เขาใช้กับสายมู สายความเชื่อ สายศาสนาอื่น..
แต่อยากจะบอกว่า..
“นี่ไม่ใช่นิทาน ไม่ใช่เรื่องเล่า.. ของจริงนั้นมีอยู่.. ปาฎิหารย์ในศาสนาพุทธยังมี..
ขอให้ท่านจริง.. ถือศีล ก็ให้ถือจริง.. เคารพในพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ก็อย่าได้เอาสิ่งอื่นมาเจือปนเคารพ..
ของจริงนั้น ก็จะเป็นจริงสำหรับท่าน..
ไม่ต้องพิสูจน์ เพราะพิสูจน์ไม่ได้..
ถ้าท่านลบหลู่ ผลของความลบหลู่ ก็จะเกิด เป็นกรรมของท่านเอง..
พระพุทธเจ้า ท่านปรินิพพานแล้ว.. ท่านมีเมตตา ไม่เคยลงโทษใคร.. มีแต่เราเท่านั้นที่ทำตัวเอง..
ดี ก็เพราะตัวเรา.. ชั่ว ก็เพราะกรรมของเรา..
อย่าโทษพ่อแม่.. อย่าโทษการเลี้ยงดู.. อย่าโทษเหล้ายา.. อย่าโทษกฎหมาย.. อย่าโทษสังคม..
ถ้าผลร้ายเกิดขึ้น.. ให้ด่าตัวเอง แล้วอย่าทำมันอีก..
ผลดีเกิดขึ้นในชีวิต.. จงขอบคุณ จงภูมิใจในกรรมดีของตัวเอง..
และอย่าประมาท.. หลงระเริง คะนองใจในการใช้ชีวิต..
ถ้ามีโอกาสไม่เกิดได้.. จงรีบทำ เสียตั้งแต่ชาตินี้.. ไม่ต้องรอชาติหน้า..”
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย