10 ธ.ค. 2023 เวลา 12:20 • ประวัติศาสตร์

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์เจดีย์(พิมพ์พิเศษ)

พระองค์ในโพสต์นี้หากใครมีหนังสือของท่านตรียัมปวาย พิมพ์ครั้งที่ 2 (2497) พลิกไปดูรูปที่ 2 พระสมเด็จพิมพ์ทรงเจดีย์ลำดับที่ 13 จะเห็นได้ว่าเป็นพิมพ์เดียวกัน (ดูจากรูปในโพสต์นี้ก็ได้) ท่านตรียัมปวายอธิบายว่าเป็น “พิมพ์ทรงเจดีย์แบบพิเศษ เนื้อขาวหม่น….พระเกศยาวจดซุ้ม พระพักตร์ป้อม….สมภาคงามมาก”
สำหรับผมแล้วท่านอาจารย์ตรียัมปวายคือผู้ที่มาก่อนกาล ในคำนำของการพิมพ์ครั้งที่ 1 ท่านให้เหตุผลที่สร้างสรรค์หนังสือปริอรรถาธิบายแห่งพระเครื่อง ฯ ว่าท่านมีปณิธานอันบริสุทธิ์ที่จะสร้างมาตรฐานวิทยาการทางพระเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับกาลสมัย คือเพื่อประสานความรู้ทางมุขปาฐะ (Folklore)
ซึ่งเป็นความรู้จากความชำนาญ จากการที่ได้ประสบมาหรือจากความเชื่อถือที่ได้เล่าสืบต่อกันมาและความคิดเห็นอันเป็นมูลฐานมาแต่เดิมของบรรดานักพระเครื่อง ให้เข้ากับวิทยาการสมัยใหม่ (Critical Science) อันเป็นความรู้ที่มีหลักฐานและพิสูจน์หาเหตุผลข้อเท็จจริงอย่างการศึกษา
ท่านยังกล่าวอีกว่าหนังสือประเภทนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย เล่มนี้เป็นเล่มแรกในเมืองไทย ผมอ่านวรรคทองนี้ด้วยความปลื้มปิติและภาคภูมิใจในครูบาอาจารย์รุ่นก่อน แต่ในคำนำของการพิมพ์ครั้งที่ 2 มีสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ
ท่านอาจารย์ตรียัมปวายเล่าถึงแฟนๆของท่านหลายสิบคนส่งจดหมายมาถามว่า ท่านไปเรียนวิชาการทางพระเครื่องมาจากสำนักใดมีใครเป็นครูบาอาจารย์สั่งสอน ท่านตอบโดยไม่ปิดบังว่าตัวท่านได้ศึกษาการพิจารณาพระเครื่องจากชมรมนักพระเครื่อง
ซึ่งไม่มีที่ตั้งเป็นสถาบันแน่นอน ที่ครึกครื้นสักหน่อยได้แก่ที่สนามหลวง และตามบ้านของนักพระเครื่องการศึกษาก็คือการสังสรรค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ตลอดจนพิจารณาทั้งของจริงและของปลอมมากๆ นานเข้าก็เกิดมีความเข้าใจและความคิดเห็นเป็นของตัวเอง
ฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่าท่านไม่มีครูบาอาจารย์เป็นตัวเป็นตน นักพระเครื่องทุกคนในชมรมท่านถือเสมือนเป็นครูบาอาจารย์ทั้งนั้น ต่างคนต่างเป็นครูและเป็นศิษย์ของกันและกันเพราะ “ไม่มีใครแม้แต่สักคนเดียวที่รู้จริงหรือเรียนจบในวิชาพระเครื่องฯ” แม้แต่นักพระเครื่องฯ ที่หอบกระเป๋าหอบเสื่อพะรุงพะรังท่านก็ต้องถามความรู้หรือปรึกษาหารือเขาบ้างเหมือนกัน และยอมรับว่าบางสิ่งบางอย่างเขารู้ดีกว่าท่าน เพราะเขามีอาชีพโดยตรงทางค้าขายพระเครื่องฯ มานานและจับพระเครื่องฯ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
อ่านจบวรรคก่อนแล้วท่านคงพอจะมองออกได้ว่าเพราะเหตุใดการวินิจฉัยความแท้หรือเทียมของพระสมเด็จวัดระฆังจึงมีปัญหามากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ที่ราคาท่านแพงแสนแพง
มาถึงยุคปัจจุบันนี้ ยุคที่สามารถหาอายุของปูนปั้นได้ ผมเชื่อว่าปัญหาเรื่องการวินิจฉัยพระสมเด็จวัดระฆังน่าจะมีข้อยุติได้ในอีกไม่นานนักนับจากนี้ หาอายุปูนได้ก็รู้อายุพระได้
ธรรมชาติความเปลี่ยนแปลงของปูนตำหรือปูนปั้นและการค้นพบทางวิทยาศาสตร์อื่นๆนั้น เป็นธรรมะหรือความจริงตามธรรมชาติ พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ธรรมทั้งปวงแล้ว
ท่านเปรียบธรรมะหรือความจริงเหล่านั้นกับใบไม้ในป่า ที่มิได้ทรงนำมาสั่งสอนเหตุเพราะว่ามิได้ทำให้พ้นทุกข์ ธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนนั้นเปรียบได้กับใบไม้เพียง 1 กำมือหากแต่มีประโยชน์อันแท้จริงเพราะทำให้คนพ้นทุกข์และถึงนิพพานอันเป็นบรมสุขได้ ธรรมะของพุทธองค์จึงมีแต่คุณฝ่ายเดียว ส่วนธรรมะหรือความจริงที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบนั้น มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์
ผมมีนัดใช้เครื่องฯ เพื่อตรวจหาอายุของพระสมเด็จวัดระฆังในวันที่ 22 ธันวาคม ศกนี้ เชิญท่านผู้สนใจนำพระสมเด็จของท่านเข้ามาตรวจสอบได้ โดยติดต่อผ่านทางข้อความในเว็บนี้หรือใน facebook กลุ่มเคล็ดวิชาพระสมเด็จ ก่อนวันตรวจครับ
โฆษณา