โดย Toyota ยังมียอดจองสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 แต่ที่น่าสนใจ คือ ค่ายรถยนต์ EV ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน มียอดจองเข้ามาอย่างมาก จนทำให้ติดอัน Top 10 อันดับแรก ถึง 6 ค่าย ไม่ว่าจะเป็น BYD อันดับ 2, AION อันดับ 4 (เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก), MG อันดับ 5, GWM อันดับ 6, Changan อันดับ 7 (เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรก) และ NETA อันดับ 10
แต่ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้วยอดจองรถแต่ละค่ายจะจบที่เท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เมื่อยอดจอง รถ EV ปรับตัวเพิ่มขึ้น ย่อมส่งผลบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง เห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมา ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง
หากถอดมุมมองนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองบวกต่อยอดจองรถ EV ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น
โดยประเมินสัดส่วนยอดจอง EV ในงาน Motor Expo 2023 ในช่วงครึ่งทาง 29 พ.ย-5 ธ.ค. จะอยู่ที่ราว 45% ซึ่งจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงาน Motor Show 2023 ที่อยู่ที่ 21.5% และ Motor Expo 2022 ที่อยู่ที่ 15% จึงมองว่า EV ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากความต้องการรถ EV ที่เพิ่มขึ้น เรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจนิคม (WHA), ตัวแทนขายรถ EV (COM7 และ ASAP)
และผู้ประกอบการ logistics รถ EV (NYT และ SJWD) ซึ่งในกลุ่ม logistics จะได้ประโยชน์ช่วงสั้นจากการนำเข้า EV เพิ่มขึ้นมาก แต่ปี 67 ค่ายรถ EV จะเริ่มผลิตได้ในประเทศคาดทำให้นำเข้า EV ลดลงได้
NYT แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท ได้ผลบวกจากยอดจองรถ EV ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ จะช่วยให้ปริมาณรถยนต์ผ่านท่าเทียบเรือของ NYT ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยประเมิน NYT จะมีสัดส่วนการนำเข้ารถ EV ราว 7-8% จากยอดส่งออกและนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด
SJWD แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 18 บาท โดย SJWD มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นราว 13% มาจากการส่งออก นำเข้ารถยนต์ (และคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นจากการนำเข้า EV ราว 6-7% ซึ่ง SJWD มีการรับงานให้บริการด้านโลจิสติกส์สำหรับรถ EV เพิ่มขึ้น จากทุกค่ายรถ EV จากจีน โดยเฉพาะ BYD ที่จะเติบโตโดดเด่นสุด จากการเปิดขายรถรุ่นใหม่ SEAL