13 ธ.ค. 2023 เวลา 07:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

📌`เอเชีย เน็ตเวิร์คฯ(ANI)` ได้ฤกษ์เข้าเทรดวันแรก โบรกฯให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 9.41 บาท/หุ้น

"เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI)" พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายใน SET 14 ธ.ค.นี้ นำเงินระดมทุนใช้ชำระเงินเจ้าหนี้ค่าหุ้นค้างจ่ายจากการซื้อธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน ด้านโบรกฯ ให้ราคาเป้าหมาย อยู่ที่ 7.14–9.41 บาท คาดกำไรหลักเติบโตเฉลี่ย 19.9% ต่อปี ในปี 66-69
*** SET รับ "เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล (ANI)" เข้าเทรด 14 ธ.ค.นี้
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ ANI เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ANI” ในวันที่ 14 ธันวาคม 2566
ANI ประกอบธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo General Sales Agent: Cargo GSA) (“GSA”) ให้แก่สายการบินชั้นนำกว่า 20 สายการบินใน 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย สิงคโปร์ เวียดนาม สาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง มาเลเซีย กัมพูชา และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครอบคลุมเส้นทางการบินซึ่งมีปลายทางกว่า 400 แห่งในทุกภูมิภาคทั่วโลก
โดยบริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในรายใหญ่ของธุรกิจ GSA ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดกว่าร้อยละ 23 (อ้างอิงจากข้อมูล Frost & Sullivan : ปริมาณการขนส่งสินค้าผ่าน GSA ในปี 2565 ในประเทศไทย เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และกัมพูชา) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประกอบธุรกิจให้บริการต่อเนื่อง โดยจัดหาทรัพยากรบุคลากร รวมทั้งยานพาหนะและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการแก่ผู้ให้บริการภาคพื้นท่าอากาศยาน (Ground Handler) ของท่าอากาศยานชางงี (Changi Airport) ประเทศสิงคโปร์
นางสาวบี เล็ง โก๊ะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ANI เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่หุ้น ANI จะเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (GSA) ในภูมิภาค
พร้อมจะยกระดับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านการขยายเครือข่ายการให้บริการธุรกิจ GSA ให้ครอบคลุมเขตเศรษฐกิจหลักของภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก ผ่านการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้เล่นอื่นในอุตสาหกรรม สร้างการเติบโตทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัททุกภาคส่วน
*** ราคา IPO ที่ 5.20 บาท มี III ถือหุ้นใหญ่ 36.1%
ANI มีจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วหลัง IPO 1,848,000,000 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 1,293,261,100 หุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 554,738,900 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 924,000,000 บาท
โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน ให้แก่บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวน 82% , และที่เหลือให้แก่ ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ และ/หรือ บริษัทย่อย และ กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงาน ของกลุ่ม บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ในระหว่างวันที่ 4 และ 6-7 ธันวาคม 66 ในราคาหุ้นละ 5.25 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,912,379,225 บาท หรือคิดเป็น 30% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ
ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,702,000,000 บาท โดยมี บมจ. หลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บมจ. หลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
ANI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ III 36.1% และ Mr. Thomas Tay Nguen Cheong 33.2%
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี แต่ต้องไม่เกินจำนวนกำไรสะสมจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาการจ่ายเงินปันผลโดยคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ความจำเป็นในการดำเนินงานของบริษัท ตามที่คณะกรรมการบริษัทพิจารณาเห็นสมควรหรือเหมาะสม
*** ระดมทุนคืนหนี้ค่าหุ้นค้างจ่าย ซื้อ GSA
ANI มีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงินจากการเข้าซื้อธุรกิจ GSA ในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ซื้อมาในช่วงปลายปี 2565 ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต
*** เปิดกำไร 9 เดือนปี 66 โต 98.1%
ANI รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 3/66 มีกำไรสุทธิ 240.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 101.35 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปี 66 มีกำไรสุทธิ 651.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98.1%
จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 328.9 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้กําไรของกลุ่ม Asia GSA (M) ในสัดส่วน 100% ภายหลังการเข้าซื้อธุรกิจกลุ่ม Asia GSA (M) ทั้งหมดในช่วงปลายปี 65 และรวมถึงยังคงสามารถในการรักษาระดับผลประกอบการของบริษัทฯ ในขณะที่รายได้ปรับตัวลดลงจากราคาตลาดของค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศ
โดยงวด 9 เดือนปี 66 มีรายได้จากการให้บริการ 4,143.2 ล้านบาท ลดลง 126.6 ล้านบาท หรือ 3.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มาจาก (1) การลดลงของรายได้จากการให้บริการในประเทศไทยจากการแข่งขันที่สูงขึ้น เนื่องจากการกลับมาบินของเที่ยวบินโดยสาร (Passenger Flight) หักลบกับ (2) การเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการในต่างประเทศ จากการเข้าทําสัญญาตัวแทนขายระวางสินค้าสําหรับเส้นทางการบินใหม่ และจากการรับรู้รายได้จากการให้บริการของประเทศสิงคโปร์และประเทศมาเลเซียของกลุ่ม Asia GSA (M) จากการปรับโครงสร้าง บริษัทฯ เพือ IPO
*** 4 โบรกฯ ชี้เป้าราคา 7.14 – 9.41 บาท
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 9.41 บาท และประเมินมูลค่าบริษัทที่ 17,398 ล้านบาท โดยอิงวิธี P/E ปี 67 ที่ 16.7 เท่า ซึ่งเท่ากับค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมขนส่ง ทั้งนี้ยังคาดกําไรของ ANI จะเติบโตเฉลี่ย 13% YoY ในช่วง 65-68 จาก 798 ล้านบาท ในปี 65 เป็น 1,156 ล้านบาทในปี 68 จากการฟื้นตัวของปริมาณการค้าโลก การขยายเส้นทางการบินและการทำสัญญาเป็นตัวแทนสายการบินเพิ่มขึ้น และความสามารถในการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่แข็งแกร่งระดับ 28%
บล.บัวหลวง ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 9.24 บาท และประเมินมูลค่าพื้นฐานของ ANI ที่ 14,031-17,071 ล้านบาท โดยอิงวิธีการประเมินมูลค่ากิจการแบบเป้าหมาย PER เฉลี่ยปี 67 สำหรับคู่เทียบผู้ให้บริการนายหน้าด้านการขนส่งในไทย และค่าเฉลี่ยที่รวมกับของบริษัทนานาชาติด้วยอยู่ที่ 12.0-14.6 เท่า ตามลำดับ
คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติหรือกำไรหลัก (ไม่รวมรายการพิเศษ) ปี 66 อยู่ที่ 912 ล้านบาท และปี 66-69 จะอยู่ที่ 1,169 1,380 และ 1,571 ล้านบาท ตามลำดับ หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 19.9% ต่อปี (CAGR) สำหรับปี 66-69 ปัจจัยหนุนจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นทั้งจาก Organic และ Inorganic growth
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 9.16 บาท และประเมิน Fair Value ของส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 15,395-16,926 ล้านบาท ซึ่งคำนวณมาจากวิธี Discounted Cash Flow (Fig. 15-16) อิงประมาณการกำไรปี 67-69 คาดการณ์เติบโต +3% ในปี 70-72 และ Termina Growth 1% โดยมูลค่าดังกล่าวเทียบเท่า FY67F PE 15.1x ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย P/E ของหุ้น iii และ WICE ซึ่งประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน
บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ประเมินราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 7.14 บาท และได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมของ ANI ได้ 13,102 ล้านบาท ด้วยวิธี Earnings Yield อิงประมาณการกำไรต่อหุ้นสำหรับระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า คิดลดด้วยอัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง 7.8% ระดับราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ PER 12.8 เท่า
โฆษณา