13 ธ.ค. 2023 เวลา 07:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ

จับจังหวะลงทุนหุ้น Starbucks แบรนด์ร้านกาแฟระดับโลก

Starbucks เป็นแบรนด์ร้านกาแฟชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกกว่า 34,000 แห่ง ใน 80 ประเทศ รวมถึงไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งจากคอกาแฟ และลูกค้าที่ชื่นชอบเมนูที่มีความพิเศษเฉพาะตัว สามารถ customize เองได้หลากหลาย ซึ่งรายได้ของ Starbucks นอกจากจะมาจากร้านค้าที่บริษัทดำเนินการแล้ว ยังมาจากค่าลิขสิทธิ์ การขายอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์กาแฟ เป็นต้น
โดยในช่วงที่ 1 เดือนผ่านมาราคาหุ้นของ Starbucks หรือ SBUX ปรับตัวลง หลัง JP Morgan ปรับประมาณการลงจากแนวโน้มยอดขายที่ชะลอตัว รวมถึงธุรกิจในจีนซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักของบริษัทที่อาจได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวช้าของเศรษฐกิจจีน
ดังนั้นคอลัมน์ Wealthy Thai Global Play สัปดาห์ในนี้ จึงมีแนวโน้มการดำเนินงานและมุมมองการลงทุนของนักวิเคราะห์ที่มีต่อหุ้น Starbucks มาฝาก
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า ราคาหุ้น Starbuck ปรับตัวลงต่อเนื่องจากความกังวลยอดขายที่อาจชะลอตัวลงในระยะถัดไป โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวลงจากระดับสูงสุดราว 10% ต่อเนื่องมาจนถึงสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทปรับลดลง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินว่าการปรับตัวลงของราคาหุ้นในครั้งนี้เป็นผลมาจาก 1. แนวโน้มการปรับประมาณการณ์ลง โดย JP Morgan ปรับลดคาดการณ์ยอดขาย SSS ในสหรัฐฯ ลงเหลือ 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเดิมที่คาด 6% และหลังจากที่บริษัทมียอดขายเติบโตที่ 8% ในไตรมาส 4/66
ภาพนี้สะท้อนได้ว่าแนวโน้มการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดคริสต์มาสมีน้อยกว่าเทศกาลฤดูใบไม้ร่วงในช่วงสิ้นเดือนต.ค. 66 ซึ่งมองว่าการปรับลดครั้งนี้ เป็นผลมาจากแนวโน้มยอดขายที่ชะลอตัวลงสะท้อนได้จากข้อมูลบัตรเครดิตที่ส่งสัญญาณการชะลอตัวในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
และรายงานของบริษัทวิจัย M Science เผยแนวโน้มยอดขายในอุตสาหกรรมอาหารว่างและกาแฟชะลอตัวลงเมื่อเทียบเป็นสัปดาห์ต่อสัปดาห์ในช่วงระยะเวลา 7 วันจนถึงวันที่ 19 พ.ย. ภาพนี้ส่งผลให้ตลาดกังวลว่ายอดขายที่เทียบเคียงได้ในสหรัฐฯ อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสปัจจุบัน
2. ภาพเศรษฐกิจจีนที่มีการฟื้นตัวช้าหลังตัวเลขเศรษฐกิจอ่อนแอและหดตัวมากกว่าคาดต่อเนื่อง ประกอบกับการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Moody’s ด้วยภาพนี้จึงทำให้ตลาดค่อนข้างกังวลต่อธุรกิจในจีน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในตลาดหลักของบริษัทว่าอาจจะได้รับผลกระทบและชะลอตัวลงตามไปด้วย
ในระยะสั้นฝ่ายวิเคราะห์มองว่า Starbucks ยังมีแรงกดดันจากการบริโภคและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงช่วงไตรมาส 4/66 ถึงครึ่งแรกของปี 2567 แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะไม่ได้เลวร้ายจนถึงขั้นส่งผลให้การเติบโตหดตัวลงหลังยังคงมีแรงหนุนจากอุปสงค์ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปลายปีที่จะช่วยเยียวยาแรงกดดันได้
ในระยะยาวมองว่า Starbuck ยังคงเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจจากแบรนด์ที่แกร่ง ฐานะทางการเงินดี ซัพพลายเชนมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมที่ดี ประกอบกับธุรกิจค่อนข้างที่มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่กระจายตัว ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงของธุรกิจได้ดี
สำหรับมุมมองการลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์มองว่า Starbuck เป็นหุ้นที่การเติบโตค่อนข้างทรงตัว จึงทำให้การลงทุนในหุ้นตัวนี้ไม่สามารถคาดหวังการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในระยะถัดไปได้ แต่ด้วยภาพ Valuation ในปัจจุบันที่ระดับ 23 เท่า ซึ่งถือว่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ระดับ 29 เท่า
ทำให้มองว่ายังคงสามารถเก็งกำไรและเล่นรอบได้ โดยอาจรอจังหวะที่ราคาหุ้นย่อตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 90-95 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าจะให้ Risk Reward ที่คุ้มค่าได้ ด้าน Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยไว้ที่ 112.4 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมี Upside 15.8% จากราคาปัจจุบัน
โฆษณา