Joining Jellyfish Ep.6
**จุดประสงค์บทความนี้
1 ให้เกร็ดความรู้
2 พูดคุย จินตนาการถึงโลกอนาคต
3 หาคนสมัครงานเพื่อองค์กรที่ jellyfishman แบบผมได้ทำงานอยู่
(ขอบคุณภาพจาก Google ด้วยครับ)
Joining Jellyfish Ep.6
ในตอนที่เรายังเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้ประสีประสานั้น ความสุขส่วนใหญ่ของเราก็มักจะมาจากสิ่งที่เล็ก ๆ ตามขนาดตัวของเรา การได้โดดลงไปในโคลนแถวบ้าน การได้ตุ๊กตาไอมดแดงตัวใหม่ที่พ่อแม่ซื้อให้ หรือการได้ปั่นจักรยานไปทั่วซอยที่พวกเราอาศัยอยู่ เมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่น วัยมหาลัย ความสุขของเราส่วนใหญ่มันก็คือการได้อยู่กับเพื่อน กับแฟน การได้กินเหล้า เมายา เตะบอล หรือลอกข้อสอบ ได้หัวเราะไปกับแมตส์แดงเดือดเมื่อคืนที่แมนยูพ่ายแพ้ และเอามาล้อเพื่อนที่มันเชียร์ คำถามถัดไปคือแล้วความสุขตอนทำงานละ?
ในสังคมไทยทุกวันนี้เด็กจบใหม่ส่วนใหญ่บางคนมักจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้ากันเป็นจำนวนมาก และหลายต่อหลายครั้งคนส่วนใหญ่ก็จะคร่าชีวิตของตัวเองเพราะเขานั้นเหนื่อยกับการใช้ชีวิต เหนื่อยกับการผิดหวังซ้ำ ๆ เหนื่อยกับการพยายามเพื่อความฝัน ทุกอย่างในชีวิตของเขามันได้พังทลายลงอย่างช้า ๆ จนในที่สุดพวกเขาก็ยอมแพ้ต่อสิ่งที่เรียกว่าชีวิต และ เลือกที่จะหลับไปตลอดกาล
แน่นอนว่าการยอมแพ้ต่อชีวิตมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่อย่างใด เอาตามตรงในสมการของการคร่าชีวิตตัวเองนั้นมันไม่มีคำว่าถูกผิดมาตั้งแต่แรกแล้วครับ เราควรไปมองหาถึงสาเหตุกันมากกว่าว่าอะไรในสังคม ในชีวิตของพวกเขากันแน่ที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจทำอะไรแบบนั้นลงไป ..และผมก็เชื่อว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เด็กจบใหม่หลายต่อหลายคนหมดหวังกับชีวิตนั่นก็คือ การแข่งขันที่สูงขึ้นในโลกที่ productivity มันกลายเป็นแนวคิดสมัยนิยมในบริษัทมากมายทั่วโลก
ขอออกตัวก่อนว่าบทความในอีพีนี้ของผมไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีแนวคิด productivity นะครับ ผมแค่จะมาพูดถึงข้อดีข้อเสียของมัน และทิศทางในอนาคตที่มันอาจจะเป็นไปได้เท่านั้นเอง...productivity นั้นเป็นดั่งเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนให้คนทำงานในเครือบริษัทต่าง ๆ นั้นกระตือรือร้นมากขึ้น กระเหี้ยนกระหือรือในการทำเพื่อหวังผลลัพธ์ที่พรั่งพรู แนวคิดนี้นั้นทำให้การแข่งขันในตัวของบริษัทมันสูงขึ้น และเมื่อการแข่งขันมันสูงขึ้น ผลลัพธ์ก็จะสูงตาม
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมในขณะที่ productivity มันมีข้อดีในการทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดนั้น ข้อเสียของมันก็คือในบางครั้งบางคนมีสกิลการรับมือกับแรงกดดันได้ไม่ดีพอ แรงกดดันเหล่านั้นได้แปรเปลี่ยนมาเป็นดั่งสารพิษที่เติบเข้าไปสู่จิตวิญญาณของพวกเราทีละนิด ในวันจันทร์พี่ที่ทำงานทำงานได้ดีมาก ขายสินค้าไปได้เกือบหมื่น แต่เรายังไม่มีแม้แต่ลูกค้าคนแรก ในวันอังคารพนักงานใหม่ที่พึ่งเข้ามาสามารถทำยอดขายครั้งแรกได้อย่างรวดเร็ว ในวันถัดมา และ ถัดมา และ ถัดมา คนมากมายต่างกุมความสำเร็จเล็ก ๆ ของพวกเขาเอาไว้
โดยที่มีเพียงแค่เราเท่านั้นที่ไร้ซึ่งความสำเร็จใด ๆ และนั่งหน้างอ ท้อใจ ไร้คนสรรเสิรญอยู่ที่โต๊ะสีเทา โศกเศร้าอยู่กับจิตใจที่เริ่มกลายเป็นสีดำ คิดสภาพคนคนหนึ่งได้เจอกับอะไรแบบนั้นไปทีละวัน ทีละวันสิครับ นี่ยังไม่รวมแหล่งโซเชี่ยวมีเดียต่าง ๆ ที่พวกเรามักจะเห็นเศรษฐีฝันน้ำนมมากมายออกมาโอ้อวดควาสำเร็จของตนเองจนเต็มไปหมดราวกับตัวต่อในรังอีกนะ ...แน่นอนว่าความรู้สึกของการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอะ มันห้ามกันไม่ได้อยู่แล้วถูกมั้ยครับ มันเป็นไปไม่ได้เลยต่างหาก เพราะมันคือสันดานดิบของมนุษย์ !!!
การเปรียบเทียบมันเป็นดั่งเครื่องมือของธรรมชาติในการบอกให้มนุษย์คนนั้นพยายามมากขึ้นเพื่อเอาตัวรอดในโลกอันโหดร้ายใบนี้ ...และเมื่อคนคนหนึ่งเดินทางไปถึงจุดที่เขารู้สึกว่าทุกอย่างในชีวิตของเขามันจ้องแต่จะทำร้ายเขา ความตายก็ดูเจิตจรัสมากกว่าชีวิตในทันตาเห็น ...
แต่เอาตามตรงผมมองว่าแนวคิดของ productivity มันจะยังคงอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคต และมันจะแข็งแรงขึ้นด้วย การแข่งขันมันจะไม่ได้แค่มีอยู่ในแค่บริษัทบริษัทหนึ่งอีกต่อไป ในอนาคตโลกจะเชื่อมโยงกันราวกับเวทมนตร์ พวกเราจะได้ทำงานร่วมกับชาวต่างชาติมากขึ้น และ มากขึ้นจนสุดท้ายโลกจะกลายเป็นดั่งประเทศประเทศเดียวที่เครือข่ายการทำงานมันโยงไปทั่ว เชื่อมโยงหลายต่อหลายเชื้อชาติเอาไว้ด้วยกัน โปรเจ็คโปรเจ็คหนึ่งที่เราได้รับมอบหมายจากบริษัท ในอนาคตเราจะมีผู้ช่วยจากประเทศต่าง ๆ มานั่งพูดคุยกันผ่านโลกอินเตอร์เน็ต
ทุกคนคิดว่าโลกทุกวันนี้พวกเรานั้นเชื่อมโยงกันแล้ว แต่ในอนาคตมันจะเชื่อมโยงกันมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายต่อหลายเท่า กล้อง VR อาจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมาก ๆ เลยก็ได้ในอนาคต ในการประชุม พูดคุย หรือออกแบบสิ่งต่าง ๆ กับทีมของพวกเราทั่วโลก และเมื่อ productivity มันเติบโตขึ้นกลายเป็นดั่งภูเขาสูงที่มีคนมากมายต้องการที่จะพิชิต ในขณะเดียวกันมันก็จะมีผู้คนมากมายที่จะตกลงไปเสียชีวิตด้วยเช่นกัน ไม่แน่ว่าในอนาคตอัตราการฆ่าตัวตายของคนทั่วโลกอาจจะสูงขึ้นตามด้วยก็เป็นได้ เราจะแก้ไขมันยังไง เราจะปรับตัวกับมันยังไง
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ........
แต่คำแนะนำของผมต่อทุกคนที่อ่านบทความนี้อยู่และกำลังทำงานอยู่ในบริษัทที่มีแนวคิดในแบบ productivity ครอบอยู่นั้น คำแนะนำของผมมีเพียงแค่ว่า คุณสามารถเชื่อมั่นในแนวคิดแบบ productivity ได้นะ แต่อย่าเชื่ออย่างเต็ม 100 % ครับ เหลือจิตใจไปเชื่อมั่น ไปสนใจในเรื่องอื่นบ้าง ในเวลาหนึ่งสัปดาห์ก็จงตั้งใจทำงานสัก 3-4 วัน หลังจากนั้นก็ค่อยค่อยทำ ..ค่อยค่อยเป็น.. ค่อยค่อยไป... ค่อยค่อยใช้ชีวิต...อย่าลืมที่จะพักผ่อน เอาเวลาทั้งวันไปเที่ยวคาเฟ่ นอนอยู่บ้าน ดูหนัง เล่นเกม และทำอะไรที่มันเยียวยาจิตใจของพวกเรา ..
ทุกคนเคยได้ยินแนวคิดของ miyamoto musashi รึเปล่าครับ ...ผมจะไม่ขอลงลึกละกันแต่ซามูไรนักปราชญ์คนนี้เขามีแนวคิดที่ว่า "the harder you try the worse it gets" ...อธิบายให้ทุกคนเข้าใจง่าย ๆ ก็คือในบางครั้ง ถ้าเราพยายามลงแรงทำอะไรสักอย่างมากเกินไป ผลลัพธ์มันจะออกมาแย่ และที่มันออกมาแย่เพราะเรานั้นกดดันในตัวเราเองจนเกินไปนั่นเองครับ เพราะฉะนั้นจงอย่าไปเครียดกับชีวิต และความเป็นไปของสังคมมากจนเกินไปครับ แค่ไหลไปทางเดียวกับมันอย่างช้า ๆ และมั่นคงก็เพียงพอแล้วครับ
สุดท้ายแล้วถ้าเราอยากที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุข มันก็ง่าย ๆ เลยครับ นั่นก็คือ ...ในบางครั้งบางวันจงกลับไปเป็นเด็กที่สนุกกับความสุขเล็ก ๆ บ้าง ในบางครั้งบางคืนก็ลองกลับไปเป็นวัยรุ่นที่สุขกับการได้กินเหล้ากับเพื่อนบ้าง จงอย่าเป็นผู้ใหญ่ไปตลอด 24 ชั่วโมงครับ มันน่าเบื่อ และ เครียดมาก !!!
**สุดท้ายนี้จะเกี่ยวกับองค์กรที่ผมทำงานอยู่นะครับ
ตอนนี้กำลังหาคนสมัครงานอยู่ครับ ต้องการเยอะ และด่วนมาก
รายได้
: 15,000-20,000 ++บาท/เดือน
(ขึ้นอยู่กับความขยัน มั่นเพียร เรียนรู้ ไม่อุดอู้ และอยู่แต่กับตัวเองครับ มีค่าคอมมิชชั่นให้ในแต่ละเดือน)
แน่นอนว่าทำเป็น part-time ได้ด้วยครับ
มีสอนงานอะไรให้เรียบร้อย
👌รูปแบบงานมีให้เลือกหลากหลาย
: ตอบแชท ดูแลลูกค้า รับออเดอร์หลังบ้าน(มีสคริปต์ให้อยู่แล้ว)
: content creator (แบบตัวผม
) / Influencer
: Business
: โพสแบนเนอร์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ
**สามารถทำงานมากกว่า 1 อย่างได้
📌สถานที่
สามารถเลือกได้ว่าจะทำรูปแบบ work from home หรือ ที่ออฟฟิศตึกสาทรไพร์ม (BTS ช่องนนทรีย์)
🙆♀️ คุณสมบัติ
: ไม่จำกัดเพศ
: อายุ 18 ปีขึ้นไป
: จบการศึกษาตั้งแต่มัธยมศึกษาปี 6 หรือเทียบเท่าขึ้นไป
: มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีใจรักในการบริการ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line id : @484godsl (มีแอดด้วยนะ)
หรือ อ่านแบนเนอร์ก่อนได้เลยครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
