EP.12 จอง แต-เซ - รูนีย์เวอร์ชั่นเกาหลีเหนือ
- ประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศในทวีปเอเชียที่ตั้งอยู่ในโซนเอเชียตะวันออก โดยมีระบอบการปกครองแบบรัฐคอมมิวนิสต์ซึ่งแตกต่างจากเกาหลีใต้ที่เป็นบ้านพี่เมืองน้องซึ่งถูกปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยทั้ง 2 ชาติถูกแบ่งแยกออกจากกันและมีเหตุสู้รบกระทบกระทั่งกันในยุคสงครามเกาหลี โดยที่เกาหลีเหนือได้รับสารส่งเสริมจากสหภาพโซเวียต ขณะที่เกาหลีใต้ได้รับการสนับสนุนจากทางสหรัฐอเมริกา
- ปัจจุบันแม้ว่าทั้ง 2 เกาหลีจะไม่มีวี่แววที่จะได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว แต่ก็ยังมีงานวันรวมญาตที่ทำให้ครอบครัวที่พลัดพรากได้มาพบปะกันอีกครั้งซึ่งถ้าหากมองไปที่ยุคปัจจุบันที่เกาหลีใต้เป็นประเทศแบบโลกเสรี ทำให้อิทธิพลทั้งในด้านสื่อรวมถึงวัฒนธรรมต่างๆจากฝั่งเกาหลีใต้ถูกแพร่ขยายโด่งดังไปไกลซึ่งแตกต่างกับทางฝั่งเกาหลีเหนือโดยสิ้นเชิง
- ขณะที่ในวงการฟุตบอลประเทศเกาหลีใต้กลายเป็นทีมหัวแถวระดับเอเชีย โดยพวกเขาเป็นทีมจากเอเชียที่ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้มากที่สุด ขณะที่บ้านพี่เมืองน้องอย่างเกาหลีเหนือแม้ว่าจะเคยมีประสบการณ์กับเวทีฟุตบอลโลก แต่มาตรฐานในยุคปัจจุบันพวกเขายังคงมีความห่างชั้นกับเกาหลีใต้อยู่พอสมควร
- ฟุตบอลทีมชาติเกาหลีเหนือเคยสร้างประวัติศาสตร์ในการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้ 2 ครั้งโดยครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1966 ขณะที่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2010 ซึ่งบอลโลกครั้งล่าสุดของพวกเขาบนผืนแผ่นดินทวีปแอฟริกา แม้ว่าเกาหลีเหนือจะไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ แต่ในทัวร์นาเมนต์นั้นก็ได้มีดาวเตะเกาหลีเหนืออยู่คนหนึ่งที่ได้รับการจับตามองจากสื่อและถูกตั้งฉายาว่าเป็น เวนย์ รูนย์แห่งเกาหลีเหนือ โดยเขาคนนั้นก็มีนามว่า จอง แต-เซ
- จอง แต-เซ (Jong Tae-Se) เกิดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี 1984 ที่เมืองนาโกย่าในประเทศญี่ปุ่น โดยเจ้าตัวมีพ่อเป็นชาวเกาหลีใต้ส่วนแม่ของเขามีต้นตระกูลเป็นชาวเกาหลีเหนือซึ่งอพยพมาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น โดยที่พ่อแม่ของเขาต่างก็มาพบรักกันที่ประเทศญี่ปุ่นและได้ให้กำเนิด จอง แต-เซ ขึ้นมาในผืนแผ่นดินอาทิตย์อุทัย
- แม้ว่าจะเกิดในญี่ปุ่น แต่ จอง แต-เซ ก็ได้รับการดูแลจาก ชองเรียน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลชาวเกาหลีที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยที่หน่วยงานชองเรียนนั้นถือว่ามีความสัมพันธ์กับรัฐบาลเกาหลีเหนือนั่นจึงทำให้การเรียนหนังสือในช่วงวัยเด็กของ จอง แต-เซ จะถูกปลูกฝังแนวคิดความรักชาติเกาหลีเหนืออยู่แทบตลอดเวลา
- จอง แต-เซ มีความใฝ่ฝันที่จะโตขึ้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพซึ่งเจ้าตัวได้ทั้งเรียนหนังสือควบคู่ไปกับการเตะฟุตบอล โดยเจ้าตัวเลือกเล่นในตำแหน่งกองหน้าและการที่เจ้าตัวมีพ่อเป็นชาวเกาหลีใต้ ครอบครัวของแม่มาจากเกาหลีใต้ส่วนเจ้าตัวเกิดในญี่ปุ่น ทำให้เขามีทางเลือกที่จะลงเล่นให้ทั้งเกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่ถูกปลูกฝังค่านิยมแบบเกาหลีเหนือ ทำให้เจ้าตัวมีความภาคภูมิใจในสายเลือดเกาหลีเหนือแบบเต็มร้อย นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เจ้าตัวเลือกรับใช้ทีมชาติเกาหลีเหนือ
- จอง แต-เซ ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในเจลีกเป็นสโมสรแรกเมื่อปี 2006 และด้วยความเก่งกาจในการทำประตูทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าระดับหัวแถวของศึกเจลีก ซึ่งในต้นปี 2010 ได้มีโอกาสไปทดสอบฝีเท้าในอังกฤษกับทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็นช่วงเวลาสั้นๆ
- หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2010 จอง แต-เซ ได้ก้าวกระโดดขึ้นไปอีกขั้นด้วยการย้ายไปค้าแข้งในทวีปยุโรปกับสโมสร โบคุ่ม ในลีกา 2 ของประเทศเยอรมันซึ่งหลังอยู่กับทีมมาได้ 1 ฤดูกาลครึ่งเจ้าตัวก็ย้ายไปร่วมทีม โคโลญจน์ ทีมระดับบุนเดสลีกาซึ่งเจ้าตัวถูกดึงตัวไปเพื่อเป็นตัวทดแทนของ ลูคัส โพโดลสกี้ ที่ได้รับบาดเจ็บ
- การอยู่กับทีม โคโลญจน์ ทำให้โอกาสลงสนามของเจ้าตัวมีอย่างจำกัดและไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนักจนกระทั่งในปี 2013 เจ้าตัวย้ายกลับมาค้าแข้งในเอเชียอีกครั้งนึง โดยคราวนี้เป็นการมาร่วมทัพ ซูวอน บลูวิงส์ ของเกาหลีใต้ซึ่งเจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นในถ้วยชิงแชมป์สโมสรของทวีปเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก
- วันที่ 8 กรกฎาคม ปี 2015 ชิมิสุ เอสพัลส์ ทีมในเจลีกญี่ปุ่นตัดสินใจดึงตัว จอง แต-เซ มาร่วมทีมด้วยหวังว่าจะพึ่งพาประสบการณ์ของกองหน้ารายนี้เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดซึ่งแม้ว่าในฤดูกาลแรกเจ้าตัวจะไม่สามารถพาทีมรอดพ้นการตกชั้นได้ แต่ในฤดูกาลถัดมาเจ้าตัวทำประตูได้อย่างถล่มทลายและพาทีมเลื่อนชั้นกลับมยังลีกสูงสุดได้ภายในฤดูกาลเดียว
- จอง แต-เซ เป็นกองหน้าตัวหลักของ ชิมิสุ เอสพัลส์ อยู่ได้ประมาณ 3 ฤดูกาลและได้สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม แต่หลังจากปี 2018 เจ้าตัวเริ่มที่จะโรยราและมีฟอร์มการเล่นที่ตกลงไปประกอบกับการที่สโมสรดึงกองหน้าต่างชาติมาเสริมทัพ ทำให้สถานะของ จอง แต-เซ หลุดไปเป็นตัวสำรองอย่างถาวร
- หลังจากที่ไม่ได้กลายเป็นตัวหลักของสโมสร เจ้าตัวก็ถูกปล่อยยืมไปให้กับ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ และถูกโละไปให้ มาชิดะ เซลเวีย ซึ่งเป็นสโมสรสุดท้ายในอาชีพการค้าแข้งของ จอง แต-เซ โดยเจ้าตัวประกาศแขวนสตั๊ดไปในปี 2022 ด้วยวัย 38 ปี
- ขณะที่เส้นทางในทีมชาติเกาหลีเหนือของ จอง แต-เซ เกิดขึ้นเมื่อปี 2007 ซึ่งด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ทำให้เจ้าตัวถูกเรียกติดทีมชาติเกาหลีเหนือชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2010 แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่เคยค้าแข้งในเกาหลีเหนือและไม่เคยเหยียบผืนแผ่นดินเกาหลีเหนือมาก่อนเลยก็ตาม
- ในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ เกาหลีเหนือถูกจับอยู่ในสายที่ค่อนข้างแข็งเพราะมีเพื่อนร่วมกลุ่มทั้ง บราซิล โปรตุเกสรวมไปถึงไอวอรีโคสต์ โดย จอง แต-เซ กลายเป็นประเด็นที่ถูกสื่อหลายสำนักพาดหัวข่าว เพราะในนัดที่เจอกับบราซิล เจ้าตัวได้หลั่งน้ำตาออกมาอย่างมากมายในขณะที่กำลังร้องเพลงชาติซึ่งเจ้าตัวได้ยอมรับในภายหลังว่า รู้สึกภาคภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ลงเล่นให้ทีมชาติเกาหลีเหนือ มันคือช่วงเวลาแห่งความสุขและความภาคภูมิใจนั่นจึงทำให้น้ำตาของเขาไหลออกมาอย่างพรั่งพรู
- โดยในเกมที่เจอกับบราซิล แม้ว่าเกาหลีเหนือจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 2-1 แต่ จอง แต-เซ ก็สามรถทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมได้ โดยแม้ว่าเจ้าตัวจะบอกว่าสไตล์การเล่นของเขามีความคล้ายกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา แต่เจ้าตัวมักถูกสื่อและแฟนบอลนำไปเปรียบเปรยว่าเป็น เวนย์ รูนีย์แห่งเกาหลีเหนือ ซึ่งก็มาจากทรงผมที่สั้นเกรียนและรูปร่างที่ดูหนาและเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าเหมือนกัน
จอง แต-เซ เป็นกองหน้าทีมชาิตเกาหลีเหนือเพียงไม่กี่คนที่เคยค้าแข้งในทวีปยุโรปทั้งกับ โบคุ่มรวมไปถึงเอฟซี โคโลญจน์
ช่วงเวลากับ ชิมิสุ เอสพัลส์ คือหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัว
จอง แต-เซ กลายเป็นจุดสนใจทันทีในศึกฟุตบอลโลก 2010 หลังจากที่เจ้าตัวหลั่งน้ำตาออกมาอย่างมากมายขณะที่กำลังร้องเพลงชาติ
ลงเล่นเจอกับทีมแชมป์โลก 5 สมัยอย่างบราซิล แม้เกาหลีเหนือจะแพ้ไป 2-1 แต่ก็สู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี
หลังจากเลิกเล่นฟุตบอล เจ้าตัวก็อยู่ในแวดวงสื่อบันเทิงของเกาหลีใต้ซึ่งเจ้าตัวดูค่อนข้างมีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
