17 ธ.ค. 2023 เวลา 13:00 • หนังสือ

10 บทเรียนจากหนังสือ "ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์"

เมื่อเวลาชีวิตมีจำกัดและการโปรดักทีฟตามกระแสทุนนิยมไม่มีวันจบสิ้น
คนอ่านหนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ไม่รัก ก็เกลียดไปเลย
1
[ซึ่งถ้าคุณอยู่กลุ่มหลังอยากให้ลองไปหยิบเวอร์ชันภาษาอังกฤษอ่านอีกสักรอบก่อนตัดสินใจอีกครั้ง เพราะส่วนตัวผมอ่านเวอร์ชันอังกฤษก่อนแล้วชอบมาก ตอนอ่านเวอร์ชันแปลไทยเลยพอเข้าใจอยู่แล้วว่าผู้เขียนอยากสื่ออะไรเลยไม่ได้มีประเด็นเรื่องการแปลอะไรครับ]
4
ส่วนตัวผมอยู่ในกลุ่มแรก อาจจะด้วยการที่ผมเป็นแฟนผลงานของ โอลิเวอร์ เบอร์คีแมน (Oliver Burkeman) อยู่แล้ว (ชอบหนังสือ The Antidode : Happiness for People Who Can’t Stand Positive Thinking มาก) เลยคุ้นเคยกับสไตล์การเขียนของเขามาแล้วพอสมควร
4
หนังสือ “ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์” (Four Thousand Weeks) มีบทเรียนดีๆ เยอะมาก มันช่วยเตือนสติว่าเวลาชีวิตมีจำกัดและการโปรดักทีฟตามกระแสทุนนิยมไม่มีวันจบสิ้น ถ้าเราไม่เลือกที่จะหยุดเอง ก็เหมือนวิ่งบนลู่วิ่งที่ไม่มีวันหยุดไปเรื่อยๆ
นี่คือ 10 บทเรียนจากหนังสือเล่มนี้ครับ
1
1. เวลามีจำกัด : เราทุกคนมีเวลาเท่ากันในทุกวัน ทุกสัปดาห์ ไม่ว่าเราสถานการณ์ของเราตอนนี้จะเป็นยังไง นั่นหมายความว่าเราต้องตระหนักเสมอว่าเราจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ไปกับอะไรและการตัดสินใจของเราควรสนับสนุนเป้าหมายและสิ่งที่เราให้คุณค่าด้วย
2. การเปรียบเทียบคือโจรขโมยความสุข : มันง่ายมากในปัจจุบันที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆ แต่การเปรียบเทียบนั้นมักมาพร้อมกับความรู้สึก ‘มีไม่มากพอ’ และ ‘ไม่พึงพอใจ’ กับชีวิตของตัวเอง สิ่งที่เราควรจะโฟกัสคือเส้นทางของตัวเองและอย่าลืมเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จของตัวเองด้วย
6
3. ความสมบูรณ์แบบคือศัตรูของสิ่งที่ดี : เรามักรู้สึกว่าเวลาจะทำอะไรก็ต้องสมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ไม่เพียงมันจะเป็นไปไม่ได้แล้ว มันยังทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่เคยดีพออีกด้วย เราฉะนั้นเราควรจะโฟกัสไปที่การลงมือทำให้ดีที่สุดและยอมรับว่าเราไม่สามารถที่จะทำได้สมบูรณ์แบบเสมอ
4
4. เรื่องเล็กน้อยก็ปล่อยไปเถอะ : เราไม่มีทางควบคุมทุกอย่างได้ อันไหนที่มันเกิดขึ้นและนอกเหนือการควบคุมของเรา ก็ปล่อยไปเถอะ
5
5. ปฏิเสธซะบ้าง : การบอกปฏิเสธเป็นเรื่องที่โอเค ถ้าเรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรารู้สึกว่าสำคัญหรือทำให้ชีวิตของลำบากมากจนเกินไป การรู้จักที่จะปฏิเสธบ้างไม่เพียงจะช่วยทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้น ยังทำให้มีพลังงานเพื่อไปทำสิ่งที่สำคัญมากกว่าด้วย
2
6. ส่งต่องานให้คนอื่น : ถ้าเรามีงานมากเกินไป มันเป็นเรื่องที่โอเคที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ส่งต่องานที่คนอื่นสามารถช่วยได้ ดึงเวลากลับมาเพื่อโฟกัสงานที่สำคัญกับเราจริงๆ
3
7. พักบ้าง : ระหว่างวันอย่าลืมหาจังหวะพักจากงานบ้าง การมุ่งแต่จะทำงานแล้วสร้างผลผลิตเยอะๆ บ่อยครั้งสร้างผลเสียมากกว่าผลดี อาจจะลองใช้เทคนิค Pomodoro (ทำงาน 25 นาที พัก 5 นาที วน 4 รอบ แล้วก็พัก 15 นาที) เพื่อโฟกัสไปทีละงาน อย่าพยายามทำหลายๆ อย่างพร้อมๆ กัน การพักเบรคจะช่วยให้กลับมาโฟกัสที่งานได้ดีขึ้นด้วย
2
8. สร้างขอบเขตการทำงานที่ชัดเจน : เวลาทำงานก็ทำงาน เวลาส่วนตัวก็เวลาส่วนตัว แยกแยะตรงนี้ให้ชัดเจน อย่าปล่อยให้ตัวเองเบิร์นเอาต์เพียงเพราะไม่สร้างขอบเขตการทำงาน เราต้องเห็นความสำคัญของช่วงเวลาตรงนี้ก่อนที่คนอื่นจะให้ความสำคัญกับมัน
4
9. ความสัมพันธ์ที่ดีคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ : โครงการศึกษาชีวิตมนุษย์นานกว่า 75 ปีจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดพบว่าสิ่งที่ทำให้ชีวิตคนเรามีความสุขมากที่สุดคือความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว อย่าลืมหาเวลาไปเจอเพื่อนฝูง ใช้เวลากับครอบครัวและคนที่รักให้มากๆ
2
10. ใช้เวลาอยู่กับปัจจุบัน : มันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะติดอยู่กับอดีตหรือโฟกัสไปยังอนาคตที่ยังไม่ถึงมากจนเกินไป มันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน มีความสุขกับช่วงเวลาตรงนี้ ให้คุณค่ากับคนรอบๆ ตัวและสิ่งที่มี สร้างช่วงเวลาและความทรงจำดีๆ ด้วยกัน
1
อย่างที่บอกครับว่าหนังสือเล่มนี้สำหรับผมแล้วมันถือเป็นเครื่องเตือนสติที่ดีมากๆ ทำให้กลับมาโฟกัสกับช่วงเวลาที่อยู่ตรงหน้า เห็นความสำคัญของเวลาที่มีจำกัดและใช้มันอย่างมีสติ มากกว่าแค่ทำงานหนักไปเรื่อยๆ พยายามโปรดักทีฟให้เยอะที่สุด แต่พอถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตกลับรู้สึกเสียดายว่าไม่ได้ใช้มันอย่างมีคุณค่าให้มากกว่านี้
เป็นอีกเล่มที่แนะนำครับ
- โสภณ ศุภมั่งมี (บรรณาธิการ #aomMONEY)
#หนังสือแนะนำ #OliverBurkeman #ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์ #FourThousandWeeks #Productive #ทุนนิยม
โฆษณา