Mind Control technology EP9
Electronic harassment
ในตอนนี้ จะกล่าวถึงเรื่อง การล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน Software ระบบต่างๆ เช่น TORTUREWARE, NWO
การล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์, การทรมานด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ การทรมานทางจิตเวช เป็น ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด ที่ผู้กระทำผิด (มักเป็นสายลับของรัฐบาลหรือกลุ่มอาชญากร) ที่ใช้ประโยชน์จาก < i=8>รังสีแม่เหล็กไฟฟ้า (เช่น เอฟเฟกต์การได้ยินด้วยคลื่นไมโครเวฟ) เรดาร์ และเทคนิคการเฝ้าติดตาม โดยใช้กลุ่มคนที่ร่วมขบวนการ หรืออาจถูกชักจูงในบางกลุ่มคน
มีหลายๆ คนได้สร้าง หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนและผู้สนับสนุนการสะกดรอยเเละมีการทำกันขบวนการ ) บางคนอ้างว่าตกเป็นเหยื่อของ TIs " (บุคคลที่เป็นเป้าหมาย หรือมีประสบการณ์ได้อ้างว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีนี้ผลกระทบต่อร่างกายของผู้คน และก่อกวนผู้คน จนถึงการส่งสัญญาณเสียงเข้าไปในความคิดหรือประมาณว่าการได้ยินความคิด เเต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนสรุปว่า ประสบการณ์
เหล่าเป็นภาพหลอน ซึ่งเป็นผลมาจาก อาการหลงผิด อาการผิดปกติ หรืออาการประสาทหลอน
ประสบการณ์ของบุคคลที่บรรยายตนเองว่าถูกคุกคามทางอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้เทคโนโลยีลึกลับ และผู้ที่เรียกตัวเองว่า "บุคคลเป้าหมาย" ("T.I.") แตกต่างกันไป
แต่ประสบการณ์มักรวมถึงการได้ยินเสียงในหัวนั้น เรียกชื่อ หรือมักเยาะเย้ยพวกเขา หรืออาจคนรอบข้าง เช่นเดียวกับความรู้สึกทางกายภาพ เช่นการเผาไหม้ หรือ ความเย็น เเละการสั่นสะเทือน
[ พวกเขายังอธิบายว่าอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังทางกายภาพโดยบุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป ประมาณการว่ายังมี ผู้คนมากกว่า 10,000 รายที่ระบุตนเองว่าเป็นบุคคลที่ตกเป็นเป้าหมาย ใน
The New York Times
พวกเขาใช้ข่าว วารสารทางการทหาร และเอกสารความมั่นคงแห่งชาติที่ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลได้พัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถส่งเสียงไปยังประชาชนได้ และทำให้พวกเขารู้สึกถึงสิ่งต่างๆ คนเหล่านี้จำนวนมากกระทำและทำหน้าที่อย่างอื่นตามปกติ และรวมถึงคนที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานและใช้ชีวิตอย่างอื่น และผู้ที่พบว่าประสบการณ์เหล่านี้น่าสับสน หงุดหงิด และบางครั้งก็น่าละอาย แต่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด
นักจิตวิทยา ลอร์เรน เชอริแดน ร่วมเขียนการศึกษาเรื่องการสะกดรอยตามแก๊งค์ใน Journal of Forensic Psychiatry & จิตวิทยา. ตามคำกล่าวของเชอริแดน "เราต้องนึกถึง T.I. ปรากฏการณ์ของคนมีอาการหวาดระแวงที่โดนแก๊งสะกดรอยตามเพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน".ทางจิต
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่า T.I. อาจประสบกับอาการประสาทหลอน และคำอธิบายของการตกเป็นเป้าหมายหรือถูกคุกคามนั้นเกิดขึ้นจาก อาการผิดปกติของอาการหลงผิด การลักพาตัวคนต่างด้าว ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆ เปรียบเทียบเรื่องราวเหล่านี้กับเรื่องราว ราล์ฟ ศาสตราจารย์จิตเวชศาสตร์มหาวิทยาลัยเยล ฮอฟฟ์แมนกล่าวว่าผู้คนมักนึกถึงเสียงในหัวของตนจากแหล่งภายนอก เช่น การคุกคามจากรัฐบาล พระเจ้า หรือญาติที่เสียชีวิต และอาจเป็นเรื่องยากที่จะโน้มน้าวบุคคลเหล่านี้ว่าความเชื่อในอิทธิพลภายนอกเป็นสิ่งที่หลงผิด โรคจิต
บัญชีสื่อได้บันทึกบุคคลที่เชื่อว่าตนตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์ และในบางกรณีก็โน้มน้าวศาลให้เห็นด้วย ในปี 2008 James Walbert ไปขึ้นศาลโดยอ้างว่าอดีตผู้ร่วมธุรกิจของเขา ข่มขู่เขาด้วย "รังสีกระทบ" หลังจากไม่เห็นด้วย และต่อมาอ้างว่ามีอาการ เช่น รู้สึกไฟฟ้าช็อต และได้ยินเสียงแปลกๆ ในหู ศาลมีคำสั่งห้าม "วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์" เพื่อคุกคามวอลเบิร์ตต่อไป
อาชญากรรมที่น่าสังเกต
บุคคลต่างๆ ที่เรียกตนเองว่าถูกล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ก่ออาชญากรรม ในบรรดาอาชญากรรมเหล่านั้น ได้แก่ เหตุกราดยิง
Fuaed Abdo Ahmed ชายอายุ 20 ปี จับตัวประกันชายและหญิงสองคน ที่ธนาคาร Tensas State ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โจเซฟ รัฐลุยเซียนา เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 ในที่สุดก็สังหารตัวประกันสองคนและตัวเขาเอง การสืบสวนของตำรวจในเวลาต่อมาสรุปอย่างเป็นทางการว่าอาเหม็ดเป็นโรคจิตเภทหวาดระแวงและได้ยินเสียง อาห์เหม็ดกล่าวหาครอบครัวแฟนเก่าของเขาว่าปลูกฝัง "อุปกรณ์ไมโครโฟน" มีอะไรบางอย่างอยู่ในหัว
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2013 Aaron Alexis ยิงคนเสียชีวิต 12 คนและบาดเจ็บอีก 3 คน ใน อู่ต่อเรือวอชิงตัน ใช้ปืนลูกซองที่เขาเขียนว่า "อาวุธเอลฟ์ของฉัน" ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตอบโต้สังหาร สรุปว่าอเล็กซิสมี "ความเชื่อที่หลงผิด" ความเชื่อเหล่านี้รวมถึงการที่เขา "ถูกควบคุมหรือได้รับอิทธิพลจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำมาก"เอฟบีไอ
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2014 ไมรอน เมย์ ยิงและทำให้มีผู้บาดเจ็บสามคนในวิทยาเขตของ ฟลอริดา มหาวิทยาลัยแห่งรัฐ และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตอบโต้เสียชีวิต ก่อนเกิดเหตุ เขากังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าตนอยู่ภายใต้การสอดแนมของรัฐบาลและได้ยินเสียงต่างๆ
Gavin Eugene Long ผู้ซึ่ง สังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจสามคนและบาดเจ็บอีกสามคน ใน แบตันรูช รัฐลุยเซียนา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2016 เป็นผู้ศรัทธาในขบวนการต่อต้านรัฐบาลและทฤษฎีสมคบคิดมากมาย แต่เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คนด้วยการทดลองสมองทางไกล การติดตามระบบประสาทระยะไกลของร่างกายมนุษย์ทั้งหมด"
Matthew Choi วัย 30 ปี ชาวแอฟริกาใต้ ซึ่งอ้างว่าตัวเองอยู่ภายใต้ V2K การล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์และกล่าวถึง "การถูกล้างสมองด้วยไมโครเวฟ" ตั้งแต่ปี 2558 สังหารคนขับแท็กซี่ใน ฮ่องกง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในเมือง และตำรวจเรียกเขาว่า "อันตรายอย่างยิ่ง."
ทฤษฎีสมคบคิด
ผู้สนับสนุนสมคบคิดควบคุมจิตใจเชื่อว่าพวกเขาพบการอ้างอิงถึงอาวุธลับในโครงการของรัฐบาล เช่น "Project Pandora," DARPA ความพยายามวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบทางชีวภาพและพฤติกรรมของรังสีไมโครเวฟที่เกิดขึ้นหลังจาก สัญญาณมอสโกเหตุการณ์เมื่อสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมอสโก ถูกโจมตีด้วยไมโครเวฟโดยโซเวียต ตั้งแต่ปี 1953
พบว่าโซเวียต' เจตนาคือ ดักฟัง และ การรบกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ มากกว่าการควบคุมจิตใจ ปี 2002 บ่อยครั้ง สิทธิบัตรการใช้ไมโครเวฟส่งคำพูดเข้าหัวคน แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าการควบคุมจิตใจโดยใช้ไมโครเวฟนั้นมีอยู่จริง แต่ข่าวลือเกี่ยวกับการวิจัยลับอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความ
กังวลของผู้ที่เชื่อว่าตนตกเป็นเป้าหมายห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศ
ผู้สนับสนุนการสมรู้ร่วมคิดมักอ้างถึง โครงการแพนโดร่าศึกษาผลกระทบของการสัมผัสรังสีจากการทำงาน และคณะกรรมการพิจารณาทางวิทยาศาสตร์ของโครงการได้ข้อสรุปว่ารังสีไมโครเวฟไม่สามารถใช้ในการควบคุมจิตใจได้
ในปี 1987 รายงานของ National Academy of Sciences ของสหรัฐอเมริกา ได้รับมอบหมายจาก สถาบันวิจัยกองทัพบกสถาบันวิจัยกองทัพบก a>USS เป็นหนึ่งในคำกล่าวอ้างที่ "มีตั้งแต่เรื่องเหลือเชื่อไปจนถึงเรื่องเหลือเชื่ออย่างอุกอาจ"
คณะกรรมการตั้งข้อสังเกตว่าถึงแม้จะมีรายงานและเรื่องราวตลอดจนจินตนาการถึงการใช้อาวุธดังกล่าวโดยผู้มีอำนาจตัดสินใจทางทหาร แต่ "ไม่มีวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ใดที่เข้าใกล้ได้สนับสนุนคำกล่าวอ้างของอาวุธไซโครทรอนิกส์"Thresher และการจมของ โรคลีเจียนแนร์ ระบุว่าผลิตภัณฑ์ไซโคทรอนิกส์เป็นหนึ่งใน "ตัวอย่างที่มีสีสัน" ของการกล่าวอ้าง
เรื่องสงครามพลังจิตซึ่งปรากฏครั้งแรกในคำอธิบายโดยย่อ หนังสือพิมพ์ และหนังสือในช่วงทศวรรษปี 1980 รายงานดังกล่าวอ้างถึงอาวุธไซโครทรอนิกที่ถูกกล่าวหา เช่น "ปืนครกนิวเคลียร์ไฮเปอร์สเปเชียล" และความเชื่อที่ว่าอาวุธจิตเวชของรัสเซียมีส่วนทำให้เกิด
มีรายงานว่ามีการศึกษาอาวุธไซโคทรอนิกส์โดยสหพันธรัฐรัสเซียในช่วงทศวรรษ 1990 กับนักวิเคราะห์ทางทหาร พันโททิโมธี แอล. โธมัส กล่าวในปี 1998 ว่ามีความเชื่ออย่างแรงกล้าในรัสเซียว่าอาวุธสำหรับโจมตีจิตใจของทหารนั้นมีความเป็นไปได้ แม้ว่าจะไม่มีการรายงานอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ก็ตาม
ในรัสเซีย กลุ่มที่เรียกว่า "เหยื่อของการทดลองทางจิตเวช" พยายามเรียกร้องค่าเสียหายจาก Federal Security Service ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าละเมิดเสรีภาพพลเมือง รวมถึง "ลำแสง" ใส่สารเคมีลงไปในน้ำ และใช้แม่เหล็กเพื่อเปลี่ยนความคิดของพวกเขา ความกลัวเหล่านี้อาจได้รับแรงบันดาลใจจากการเปิดเผยการวิจัยลับเกี่ยวกับ "psychotronic"
เทคนิคการทำสงครามจิตวิทยาในช่วงต้นทศวรรษ 1990 โดย Vladimir Lopatkin สมาชิกคณะกรรมการ State Duma ในปี 1995 โดยสันนิษฐานว่า "บางสิ่งที่เป็นความลับมานานหลายปีคือ แหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับทฤษฎีสมคบคิด"
ในปี 2012 รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย Anatoly Serdyukov และนายกรัฐมนตรี วลาดิเมียร์ ปูติน< a i=4> แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนร่างข้อเสนอเพื่อการพัฒนาอาวุธไซโคทรอนิกส์ ข่าวเอ็นบีซี วิทยาศาสตร์ บรรณาธิการ Alan Boyle ปฏิเสธแนวคิดที่ว่าอาวุธดังกล่าวมีอยู่จริง โดยกล่าวว่า "ไม่มีความคิดเห็นใดในความคิดเห็นของปูตินและเซอร์ดิยูคอฟที่จะชี้ให้เห็นว่ารัสเซียเกือบจะมีอาวุธทางจิตเวชแล้ว"
Mike Beck อดีตสายลับ NSA เชื่อว่า โรคพาร์กินสัน ของเขามีสาเหตุมาจากการคุกคามทางอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2014 NSA ได้มอบทนายความของ Beck Mark Zaid ข้อความที่ระบุว่าหน่วยงานได้รับ "ข้อมูลข่าวกรองจากปี 2012 ที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ไม่เป็นมิตรซึ่งนายเบ็คเดินทางไปในช่วงปลายทศวรรษ 1990
ด้วยไมโครเวฟกำลังสูง อาวุธของระบบ" แต่เสริมว่า "สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไม่มีหลักฐานว่าอาวุธดังกล่าวมีอยู่จริงและเกี่ยวข้องกับประเทศที่ไม่เป็นมิตรในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ถูกใช้หรือไม่ได้ใช้กับนายเบ็ค" ว่า "หน่วยงานไม่พบข้อพิสูจน์ใด ๆ ว่าเบ็คหรือเพื่อนร่วมงานของเขาถูกโจมตี".The Washington Post ที่ปรึกษาทั่วไปของ NSA Glenn Gerstell กล่าวกับ
ชุมชนสนับสนุนและสนับสนุน
มีเครือข่ายสนับสนุนออนไลน์มากมายและเว็บไซต์จำนวนมากที่ดูแลโดยผู้ที่กลัวการควบคุมจิตใจ จิตแพทย์ที่ปาล์มสปริงส์ Alan Drucker ได้ระบุหลักฐานของความผิดปกติทางจิตในเว็บไซต์เหล่านี้หลายแห่ง และนักจิตวิทยาเห็นพ้องกันว่าไซต์ดังกล่าวเสริมสร้างปัญหาทางจิตในทางลบ ในขณะที่ บางคนกล่าวว่าการแบ่งปันและการยอมรับอาการหลงผิดทั่วไปอาจทำหน้าที่เป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดทางปัญญาแบบกลุ่ม
ตามความเห็นของนักจิตวิทยา Sheridan ปริมาณเนื้อหาออนไลน์เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นข้อเท็จจริงโดยไม่ต้องมีการถกเถียงในเรื่องนี้ ทำให้เกิดแพลตฟอร์มที่เป็นอันตรายและมีอุดมการณ์สำหรับพฤติกรรมดังกล่าว
จากการศึกษาของอังกฤษในปี 2006 โดย วอห์น เบลล์ จิตแพทย์อิสระได้พิจารณาว่า "มีสัญญาณของโรคจิตอย่างชัดเจน" จากการประเมินตัวอย่างบัญชีควบคุมจิตใจออนไลน์ซึ่งมีผู้โพสต์ "มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นโรคจิตเภท" นักจิตวิทยาได้ระบุจำนวนมาก ตัวอย่างผู้ที่รายงาน "ประสบการณ์การควบคุมจิตใจ" (MCE) บนหน้าเว็บที่เผยแพร่ด้วยตนเองซึ่ง "มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับอิทธิพลจากความเชื่อที่หลงผิด" ธีมทั่วไป ได้แก่ "คนเลว" การใช้ "ไซโคทรอนิกส์" และ "ไมโครเวฟ,"
มีการกล่าวถึงโครงการ MKULTRA ของ CIA บ่อยครั้ง และการอ้างถึงบทความทางวิทยาศาสตร์เรื่อง "การตอบสนองของระบบการได้ยินของมนุษย์ต่อพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าแบบมอดูเลตอยู่บ่อยครั้ง"
บางคนที่เรียกตัวเองว่าถูกล่วงละเมิดทางอิเล็กทรอนิกส์ได้จัดตั้งและรณรงค์เพื่อหยุดการใช้อาวุธทางจิตเวชและควบคุมจิตใจอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหา แคมเปญเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสาธารณะ รวมถึงอดีตสมาชิกสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา Dennis Kucinich ซึ่ง รวมถึงบทบัญญัติห้าม "อาวุธไซโครทรอนิกส์" ในร่างกฎหมายปี 2001 ซึ่งถูกยกเลิกในเวลาต่อมา และอดีตผู้แทนรัฐมิสซูรี Jim Guest
ข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่ทางเราได้รวบรวมมาในด้านการใช้ การเทคโนโลยี ผ่านซอฟต์แวร์ในเเง่มุมต่าง ๆ ยังเป็นเรื่องที่ยังใหม่กับสังคมเรา แม้กระทั้งบนโลกไซเบอร์เอง การบูลลี่ " Bully " การกั้นแกล้งหรือความรุนเเรงที่กระทำต่อกัน นับวันก็ยิ่งทวีความรุนเเรงมากขึ้น
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
