19 ธ.ค. 2023 เวลา 06:08 • สิ่งแวดล้อม

ชมเทศกาล "หุ่นปลายักษ์" แลวิถี ความหลากหลายด้านระบบนิเวศของคนลุ่มน้ำสงคราม อ.ศรีสงคราม

“แม่น้ำสงคราม” เป็นลำน้ำสาขาสายหลักของแม่น้ำโขง ตั้งอยู่ในขอบเขตลุ่มน้ำสงคราม ซึ่งเป็น 1 ใน 37 ลุ่มน้ำสาขาลุ่มน้ำโขง แบ่งออกเป็นลุ่มน้ำสงครามตอนบน และลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง มีพื้นที่ลุ่มน้ำรวมกันประมาณ 6,472 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4,045,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ใน 5 จังหวัด คือ จังหวัดสกลนคร อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ และนครพนม มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาภูพาน บริเวณภูผาหัก ภูผาเพลิน และภูผาเหล็ก ในท้องที่ตำบลท่าศิลา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร และตำบลคำเลาะ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี
บริเวณต้นน้ำมีลำห้วยสาขาต่าง ๆ และไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขงที่บ้านไชยบุรีและบ้านตาลปากน้ำ ตำบลไชยบุรี อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีความยาวโดยประมาณ 420 กิโลเมตร นับว่าเป็นแม่น้ำสายสำคัญและมีความยาวที่สุดในเขตภูมิภาคอีสานตอนบน คำว่า “แม่น้ำสงคราม” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำสงครามใด ๆ เข้าใจว่ามาจากชื่อเรียกของคนอีสาน เนื่องจากบริเวณแม่น้ำสงครามจะปรากฏต้นคราม (ต้นคาม) ซึ่งเป็นไม้พุ่มใช้ใบและต้นสำหรับย้อมสีน้ำเงินเข้มเรียกว่าสีครามขึ้นอยู่ทั่วไป
แม่น้ำสงครามนับว่าเป็นระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก ปัจจุบันเป็นพื้นที่ที่ยังคงมีพื้นที่ป่าบุ่งป่าทาม (ป่าน้ำท่วม) และที่สำคัญยังคงหลงเหลืออยู่ในภาคอีสาน ซึ่งพบการกระจายทั่วไปบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำสงครามและลำน้ำสาขา มีพื้นที่ประมาณ 160,000 ไร่ ซึ่งนับว่ามีความสำคัญและคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นทั้งทางตรงและทางอ้อม
จากงานวิจัยที่สำรวจข้อมูลโดยเครือข่ายทีมนักวิจัยไทบ้านลุ่มน้ำสงคราม อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม พบว่า บริเวณป่าบุ่งป่าทามดังกล่าว มีความหลากหลายของระบบนิเวศย่อยถึง 28 ระบบ ได้แก่ กุด แก้ง ดง ดอน ทาม บุ่ง โพน วัง โสก ฯลฯ ซึ่งมีความเหมาะสมสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของพันธุ์ปลามากกว่า 124 ชนิด
บริเวณลุ่มน้ำสงครามตอนล่างที่มีลักษณะพิเศษ คือ ในฤดูฝนน้ำจะค่อย ๆ ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และเมื่อถึงฤดูน้ำหลากจะกลายสภาพเป็นผืนทะเลสาบน้ำจืดกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 600,000 ไร่
ครอบคลุมระยะเวลานานประมาณ 3-4 เดือน น้ำหลากนี้เป็นอิทธิพลมาจากน้ำเหนือ และน้ำจากลำน้ำโขง ที่ไหลย้อนเข้ามาตามลำน้ำสงครามและลำน้ำย่อย ลักษณะดังกล่าวทำให้ลุ่มน้ำสงครามตอนล่างมีเอกลักษณ์เฉพาะทางธรรมชาติ คือ มีป่าชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่ตามที่ราบน้ำท่วมถึงริมแม่น้ำและห้วยสาขาที่ทนต่อน้ำท่วมได้นาน 3-4 เดือน โดยเฉพาะป่าไผ่พื้นบ้าน ซึ่งชุมชนท้องถิ่นเรียกพื้นที่นี้ว่า "ป่าบุ่งป่าทาม" หรือ "ป่าทาม"
โดยลักษณะดังกล่าวทำให้วิถีชีวิตของคนในพื้นที่มีผูกพันกับแม่น้ำสงคราม และป่าบุ่งป่าทามอย่างแยกกันไม่ออก และชาวบ้านได้พึ่งพาทรัพยากรด้านต่าง ๆ จากความหลากหลายทางชีวภาพ หรือความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรในป่าบุ่งป่าทาม ลุ่มน้ำสงคราม จนสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและประเพณี (ข้อมูลจาก WWF) รวมถึงเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวประมงและการหาปลา สร้างรายได้ให้คนในชุมชนกว่า 1.45 ล้านคนในพื้นที่โดยรอบ (ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม)
ด้วยลักษณะของลำน้ำสงครามและคนในพื้นที่ลุ่มน้ำสงครามที่ต้องอาศัยทรัพยากรร่วมกันมาอย่างช้านาน ทำให้โครงการต่าง ๆ หลายโครงการที่จะดำเนินการก่อสร้างในบริเวณเขตพื้นที่ของลำน้ำสงครามมักจะไม่เห็นด้วยของคนในพื้นที่ เพราะเกรงจะกระทบระบบนิเวศธรรมชาติในผืนน้ำแห่งนี้ และการจัดงานหรือกิจกรรมของคนในพื้นที่มักจะอิงจากวิถีบริบทของท้องถิ่นเป็นหลัก อย่างการจัดงาน “มหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม”
เป็นกิจกรรมที่ปลูกฝังและสะท้อนให้คนในพื้นที่ได้เห็นคุณประโยชน์ของระบบนิเวศทางธรรมชาติของลำน้ำสงคราม ซึ่งกลายเป็นงานประจำปีของจังหวัด ที่มีการจัดขึ้นในช่วงหน้าหนาว หรือช่วงเดือนธันวาคม โดยปีนี้กำหนดจัดระหว่างวันที่ 13 – 19 ธันวาคม 2566 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม ซึ่งรูปแบบการจัดงานมีการประกวดขบวนแห่ของแต่ละตำบล ทั้ง 10 ตำบล ในอำเภอศรีสงคราม มีการฟ้อนรำจากนางรำน้อยใหญ่ การแสดงวิถีชีวิตของคนในพื้นที่หลังผ่านช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต
ไฮไลท์สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของคนลุ่มน้ำสงคราม คือ ขบวนแห่ “หุ่นปลายักษ์” ของแต่ละตำบล โดย 1 ตำบล จะมีหุ่นปลายักษ์ 1 ตัว ตามชนิดและชื่อของพันธุ์ปลาที่อาศัยในลำน้ำสงคราม เพื่อแสดงให้คนในชุมชน รวมถึงลูกหลานได้ทราบว่าในท้องถิ่นชุมชนของตน โดยเฉพาะปลาในลำน้ำสงครามมีชนิดอะไรบ้าง และให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของลำน้ำสงคราม
ส่วนการทำหุ่นปลายักษ์จะต้องศึกษาข้อมูลลักษณะของปลาชนิดนั้น ๆ รวมถึงธรรมชาติของการว่ายน้ำ จากนั้นถึงจะนำไม้ไผ่และโครงเหล็กสร้างเป็นตัวหุ่นที่หุ้มด้วยตาข่าย ก่อนที่จะทำการติดกระดาษไล่พ่นสีตกแต่งให้สวยงาม ซึ่งหุ่นปลายักษ์จะใช้หนังเทียม ใยแก้ว และสำลี เป็นองค์ประกอบ สำหรับการเคลื่อนไหวของตัวปลาจะใช้กลไกพลังมอเตอร์เข้ามาขับเคลื่อน เพื่อให้ตัวปลายักษ์ที่มีความสูง 3 เมตร เคลื่อนไหวใกล้กับของจริงมากที่สุด ถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนที่สุดยอดมาก ๆ
โดยปีนี้แต่ละตำบลได้ส่งหุ่นปลายักษ์ประกวดในแต่ละชนิด
-เทศบาลตำบลศรีสงคราม : ปลาแขยงใบข้าว (ปลาคันทุง)
-เทศบาลตำบลนาคำ : ปลาเสือตอลายเล็ก
-เทศบาลตำบลสามผง : ปลากระสูบจุด
-เทศบาลตำบลหาดแพง : ปลายี่สกเทศ (ปลาสก)
-เทศบาลตำบลบ้านข่า : ปลาตะเพียนทอง (ปลาตะเพียน)
-องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสว่าง : ปลาเสือตอลายใหญ่
-องค์การบริหารส่วนตำบลนาเดื่อ : ปลากระสูบขีด
-องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านเอื้อง : ปลาสลิด (ปลากระเดิด)
-องค์การบริหารส่วนตำบลท่าบ่อสงคราม : ปลาสร้อยนกเขา (ปลาอีไท)
-องค์การบริหารส่วนตำบลศรีสงคราม : ปลากา (ปลากา)
นอกจากขบวนแห่ และหุ่นปลายักษ์ที่นำมาโชว์ ภายในงานยังมีการจำลองวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ นำมาให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ศึกษาเรียนรู้กันอีกด้วย ระหว่างวันที่ 13-19 ธันวาคม 2566 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม
ภาพ/บทความ : NKP FOCUS
#เที่ยวนครพนม #เทศกาลงานปลาศรีสงคราม #อำเภอศรีสงคราม #งานปลา #ปลายักษ์ #ลุ่มน้ำสงคราม #นครพนม #สร้างสรรค์พื้นที่สื่อโฟกัสตรงประเด็น #NKP #NKPFOCUS
โฆษณา