21 ธ.ค. 2023 เวลา 09:35 • ปรัชญา

ความบังเอิญ

ทุกคนล้วนเคยได้ยินวลีที่ว่า “ไม่มีคำว่าบังเอิญ” บ้างก็เชื่อแบบนั้น บ้างก็ยังก้ำกึ่งเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแม้จะยังหาเหตุผลมาอธิบายสถานการณ์ที่สอดคล้องอย่างประหลาดนั้นไม่ได้ แต่เชื่อว่าสำหรับคนที่ใช้ชีวิตผ่านวันเวลามาเกินหนึ่งในสามของอายุขัยส่วนมากจะสรุปกับตัวเองแบบนั้น ‘ไม่มีคำว่าบังเอิญในโลกใบนี้’
สิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำการทำงานอย่างสอดคล้องและแยบยลของจักรวาลคือ ในสิ่งที่เราเรียกกันติดปากว่า ‘ความบังเอิญ’ นั้นนำมาซึ่งผลกระทบอันคาดไม่ถึงในทางใดทางหนึ่งแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นเสมอ มันมักนำพาจุดเปลี่ยนสำคัญมาสู่ผู้คนในเรื่องราว บ้างก็ทำให้ได้เห็นคุณค่าและเป้าหมายของการมีชีวิต บ้างก็ถูกดันให้เผชิญกับบทบาทใหม่ที่ชีวิตนี้ไม่เคยจินตนาการว่าต้องเจอ บ้างก็ตอกย้ำในบางสิ่งบางอย่างที่เราทำหลงลืมตกหล่นไประหว่างเส้นทางชีวิต
ไม่ว่า ‘ความบังเอิญ’ จะผลักคุณไปทางไหน สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนมีคุณค่า จักรวาลจะไม่นำพาให้เราไปเจอกับความสอดคล้องใดๆที่ไม่ทำให้เราเติบโตในทางใดทางหนึ่ง
การเติบโตของมนุษย์แตกต่างจากการเติบโตของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่งไม่ซับซ้อน พืช สัตว์ จุลชีวะ ต่างๆมีกลไกการรับรู้เพียงแค่ทำอย่างไรให้อยู่รอดและเพิ่มจำนวน แต่มนุษย์เรามีสิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นคือ อารมณ์และกระบวนการคิดที่เป็นเหตุเป็นผล ทุกข์สุขของมนุษย์จึงซับซ้อนกว่าทุกข์สุขของสิ่งมีชีวิตอื่น การเติบโตที่สำคัญที่สุดของการเป็นมนุษย์คือการเติบโตภายในจิตใจ
ในบางสถานการณ์ เบื้องต้นเราอาจรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น เป็น ‘ความบังเอิญ’ ที่ผิดที่ผิดเวลาและสร้างผลกระทบที่เลวร้าย แต่หลังผ่านช่วงยามที่ต้องอดทน ดิ้นรน และขุดเอาทุกศักยภาพที่เรามีมารับมือกับมันไปแล้ว เราจะได้เห็นเราที่เป็นคนใหม่ซึ่งเข้มแข็งกว่าเดิม เราที่มีมุมมองต่อสิ่งรอบตัวที่เปลี่ยนไป เราที่เติบโต ดังคำกล่าวที่ว่า “ a smooth sea never made a skilled sailor ” ไม่มีใครที่เติบโตจากการอยู่ใน safe zone
ในบางสถานการณ์ คุณได้เจอกับคำตอบที่คุณพยายามค้นหาจากป้ายโฆษณา คลิปที่มือกดไปโดน หรือบทความสั้นๆในหนังสือที่ตากวาดไปเห็น แม้แต่คนแปลกหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือคุณในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ บางทีพวกเขาก็มาเพื่อนำพาข้อความสำคัญบางอย่างมาให้คุณแล้วก็จากไป หรืออาจกลายเป็นมิตรภาพที่ยืนยาว
หลายคนเข้าใจว่าการตระหนักรู้หรือได้รับคำชี้นำจากพระเจ้าหรือจักรวาลนั้นมีทางเดียวคือการอยู่ในสภาวะสงบ ใคร่ครวญ แท้จริงแล้วหนทางที่จักรวาลสื่อสารหรือใช้เพื่อประคับประคองชีวิตมนุษย์นั้นมีมากมาย ‘เรื่องบังเอิญ’ เป็นหนึ่งในช่องทางเหล่านั้น ซึ่งเรามักมองผ่านไปแล้วบอกตัวเองว่า ‘ก็แค่เรื่องบังเอิญ’
หากชีวิตเราดำเนินกำลังอยู่ในกระแสพลังงานที่สับสน ดิ้นรน จนเกินกว่าจะประคองให้จิตใจมันสงบได้ ลองพิจารณาและสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณอย่างใส่ใจดูสิแล้วคุณจะเห็นว่ามีสาสน์บางอย่างที่กำลังส่งผ่านมายังคุณ ไม่ว่าจะเป็นคำปลอบประโลม ชี้แนะ เตือนภัย หรือให้กำลังใจ คุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าข้อความนี้คือของคุณ จักรวาลเมตตาและอาทรต่อเราเสมอ ไม่ว่าเราจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม
และการที่คุณได้มาอ่านถ้อยคำเหล่านี้ก็ไม่ใช่ ‘เรื่องบังเอิญ’ เช่นกัน
โฆษณา