Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นักฟุตบอล นอกกระแส
•
ติดตาม
22 ธ.ค. 2023 เวลา 17:21 • กีฬา
EP.15 อาริตซ์ อาดูริซ - ตำนานแห่งบิลเบา
- แอธเลติก บิลเบา คือ ทีมฟุตบอลชื่อดังที่อยู่ในลาลีกาของสเปน โดยเป็นทีมที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ นอกจากนั้นพวกเขายังเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากเป็นอันดับที่ 4 ของสเปนโดยที่พวกเขาเคยคว้าแชมป์ลาลีกาได้ถึง 8 สมัยและได้แชมป์โคปา เดลเรย์ไปอีกไม่ต่ำกว่า 20 สมัยซึ่งนอกจากจะเป็นทีมที่มีความสำเร็จที่สามารถจับต้องได้พวกเขายังเป็นสโมสรที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจอีกมากมาย
- หนึ่งในความภาคภูมิใจของแฟนแอธเลติก บิลเบานั่นก็คือ การที่พวกเขาเป็นทีมจากแคว้นบาสก์ที่มีนโยบายการใช้ผู้เล่นที่เกิดในแคว้นบาสก์หรือไม่ก็ต้องเติบโตในแคว้นบาสก์ นโยบายนี้ถูกสืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าพวกจะเคยมีนักเตะต่างชาติอย่าง บิเซนเต้ ลิซาราซู หรือในชุดปัจจุบันก็มีคู่พี่น้องผิวดำทั้งอินากี้และนิโก้ วิลเลียมส์ แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับแคว้นบาสก์ทั้งสิ้นนั่นจึงเป็นสิ่งที่สามารถอนุโลมได้
- ในยุคปัจจุบันวงการฟุตบอลถูกธุรกิจเข้าครอบงำจนแทบจะหมดสิ้น หลายสโมสรที่เคยยืนหยัดมีอุดมการณ์แน่วแน่ก็เริ่มพ่ายแพ้ต่ออำนาจเงินและเปลี่ยนแนวทางการทำทีมแต่สำหรับ แอธเลติก บิลเบา พวกเขายังคงมีแนวทางที่ชัดเจนและหนักแน่นในอุดมการณ์ซึ่งผู้เล่นในชุดปัจจุบันก็ล้วนแต่มีความผูกพันกับแคว้นบาสก์ด้วยกันทั้งสิ้น
- แอธเลติก บิลเบา ได้สร้างผู้เล่นขึ้นมาประดับวงการอย่างมากมายและมีดาวเตะหลายรายที่ได้ก้าวไปติดทีมชาติสเปนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ อาริตซ์ อาดูริซ กองหน้าระดับตำนานของทีมซึ่งเพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไปเมื่อปี 2020
- อาริตซ์ อาดูริซ (Aritz Aduriz) เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ปี 1981 ที่เมืองซานเซบาสเตียนในแคว้นบาสก์ซึ่งเป็นเขตปกครองตนเองของสเปน โดยเจ้าตัวเกิดมาในครอบครัวที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ โดยในสมัยเด็กเขาหลงไหลในการเล่นเซิร์ฟบอร์ด ปีนเขารวมไปถึงการเล่นสกีวิบาก
- อาดูริซ เริ่มหันเหนมาสนใจการการหวดลูกฟุตบอลจากการที่ได้ลองเตะฟุตบอลบนชายหาด จนกระทั่งได้มีโอกาสเข้าร่วมในศูนย์ฝึก เลซามา ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรแอธเลติก บิลเบา
- อาดูริซ ลงเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าและใช้เวลาประมาณ 2 ฤดูกาลกับแอธเลติก บิลเบาชุดบีจนในวันที่ 14 กันยายน ปี 2002 เจ้าตัวก็ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และได้ลงประเดิมสนามในเกมที่บิลเบาแพ้บาร์เซโลนาคารังของตนเองไป 0-2
- แม้จะได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของบิลเบาเป็นที่เรียบร้อย แต่เหมือนกับว่าเป็นเวลาที่เร็วเกินไปสำหรับดาวรุ่งวัย 21 ปีนั่นจึงทำให้ในปี 2003 ทางสโมสรได้ตัดสินใจปล่อยอาดูริซไปให้กับทาง บูร์โกส ทีมระดับดิวิชั่น 3 ของสเปนยืมตัวใช้งานซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยกระทุ้งไปได้ถึง 16 ประตูในเกมลีก
- หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ถูกปล่อยยืมอีกครั้งไปให้กับ รีล บายาโดลิด และก็ยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจจนทางแอธเลติก บิลเบาดึงตัวกลับมาในช่วงปลายปี 2008 ซึ่งการกลับมาจากการยืมตัวรอบนี้เจ้าตัวมีประสบการณ์มากขึ้นและยึดตำแหน่งเป็นกองหน้าตัวหลักของทีมได้ โดยเจ้าตัวสามารถทำแฮตทริกได้ในเกมที่เจอกับ เรอัล ซาราโกซ่า
- แต่ในช่วงปี 2007 แอธเลติก บิลเบา มีกองหน้าดาวรุ่งที่ฟอร์มพุ่งแรงขึ้นมาอย่าง เฟร์นานโด ยอเรนเต้ นั่นทำให้สถานะของอาดูริซเริ่มที่จะไม่มั่นคงจนกระทั่งในช่วงซัมเมอร์ของปี 2008 เจ้าตัวก็ถูกขายไปให้กับ เรอัล มายอร์ก้า โดยมีการเซ็นสัญญากันทั้งสิ้น 4 ปีและเพียงแค่ซีซั่นแรกเจ้าตัวก็กลายเป็นดาวซัลโวของทีม แต่ช่วงเวลากับมายอร์ก้านั่นสั้นเกินกว่าที่คิดไว้ โดยที่เจ้าตัวลงเล่นให้กับมายอร์ก้าไปแค่ 2 ฤดูกาลและทำไปได้ 24 ประตูจากการลงเล่น 78 นัด
- อาดูริซ ย้ายไปยัง บาเลนเซีย ในช่วงกลางปี 2010 ด้วยค่าตัวประมาณ 4 ล้านยูโร แต่การที่ อูไน เอเมเรี่ กุนซือของทีมในขณะนั้นชอบที่จะใช้แผนกองหน้ารายเดียว นั่นจึงทำให้อาดูริซต้องตกเป็นตัวสำรองของ โรแบร์โต้ โซลดาโด้ แต่ในภาพรวมเจ้าตัวก็ยังมีผลงานที่น่าประทับใจกับทัพค้างคาว
- เดือนมิถุนายน ปี 2012 อาดูริซกลับไปร่วมทัพแอธเลติก บิลเบาถิ่นเก่าเป็นรอบที่ 2 การกลับมารอบนี้เจ้าตัวเริ่มมีโอกาสลงเล่นบ่อยครั้ง เนื่องจาก ยอเรนเต้ กองหลักของทีมมีข่าวเรื่องการย้ายทีมจนกระทั่งเมื่อยอเนเต้ย้ายไปยูเวนตุส ทำให้อาดูริซกลายเป็นกองหน้าตัวหลักของบิลเบา
- แม้ว่าการกลับมาที่บิลเบารอบนี้ เจ้าตัวจะมีอายุขึ้นเลข 3 แล้วแต่ผลงานการเล่นก็ไม่ได้มีแผ่วลงไป โดยเจ้าตัวเดินหน้าถล่มประตูให้ทีมได้อย่างกอบเป็นกำไม่ว่าจะเป็นการทำแฮตทริกใส่กรานาดา ยิงสองประตูในเกมกับบียาร์รีล รวมไปถึงการยิงแฮตทริกใส่บาร์เซโลนาในเกมชิงถ้วยซุปเปอร์โคปา เด เอสปานญ่า เมื่อปี 2015 ซึ่งรวมผล 2 นัดแอธเลติก บิลเบาเอาชนะไปด้วยสกอร์ 5-1 และแชมป์รายการนี้ก็แชมป์รายการแรกในชีวิตนักฟุตบอลของอาดูริซอีกด้วย
- นอกจากนั้น อาดูริซ ยังมีส่วนพาแอธเลติก บิลเบาเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูโรปาลีกในฤดูกาล 2015/2016 และเจ้าตัวยังผงาดเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลให้กับบิลเบาในเกมยุโรปซึ่งก็มาจากนัดที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มด้วยการยิง 5 ประตูใส่ เกงค์ ในเกมยูโรปาลีกรอบแบ่งกลุ่มของฤดูกาล 2016/2017
- เดือนพฤศจิกายน ปี 2017 อาดูริซในวัย 36 ปีได้ตัดสินใจต่อสัญญากับบิลเบาไปอีก 2 ปีซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่โรยรามากแล้ว แต่เจ้าตัวก็ยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลาลีกาประจำเดือนมกราคมของปี 2018 ไปครอง
- ฤดูกาล 2018/2019 อาดูริซได้ลงเล่นน้อยลงจากอาการบาดเจ็บหนักที่สะโพก แต่ถึงกระนั้นในช่วงท้ายฤดูกาลเจ้าตัวก็ตัดสินใจต่อสัญญากับทีมไปอีก 1 ฤดูกาลโดยตั้งความหวังไว้ว่าจะปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลหลังจากที่สิ้นสุดฤดูกาล 2019/2020
- ฤดูกาล 2019/2020 เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เจ้าตัวลงเล่นได้ค่อนข้างน้อยซึ่งก็สืบเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บ แต่ถึงอย่างไรก็ตามอาดูริซและเพื่อนร่วมทีมก็ช่วยกันพาสโมสรได้เข้าชิงบอลถ้วยโคปา เดลเรย์ซึ่งจะไปเจอกับคู่ปรับร่วมแคว้นบาสก์อย่าง เรอัล โซเซียดดาด
- แม้ว่า อาดูริซ อยากจะปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลด้วยการคว้าแชมป์โคปา เดลเรย์ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ที่แพร่ระบาดทำให้เกมนัดชิงต้องถูกเลื่อนออกไปและตัวของอาดูริซก็มีการอาการเจ็บสะโพกเรื้อรังนั่นจึงทำให้เจ้าตัวไม่อาจทนฝืนสังขารต่อไปได้และได้ประกาศแขวนสตั๊ดไปในช่วงเดือนพฤษภาคมของปี 2020 โดยทำสถิติลงเล่นให้กับ แอธเลติก บิลเบา ไปไม่ต่ำกว่า 400 นัดและทำประตูให้สโมสรได้มากกว่า 100 ประตูซึ่งทำให้เจ้าตัวได้กลายเป็นหนึ่งในกองหน้าระดับตำนานของทีมดังแห่งแคว้นบาสก์
- ขณะที่เส้นทางในทีมชาติของสเปนของอาดูริซเกิดขึ้นตอนที่เจ้าตัวมีอายุเริ่มมากแล้ว โดยที่เจ้าตัวติดทีมชาติครั้งแรกในวัย 29 ปีในสมัยที่ค้าแข้งอยู่กับ บาเลนเซีย และลงเล่นในเกมยูโร 2012 รอบคัดเลือกที่เจอกับ ลิทัวเนีย
- หลังจากนั้นเจ้าตัวมีชื่อติดทีมชาติสเปนชุดทำศึกยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยได้ลงเล่นเป็นตัวสำรอง 2 เกมในรอบแบ่งกลุ่มและลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เจอกับ อิตาลี ซึ่งสเปนมีอันต้องยุติเส้นทางเพียงแค่รอบนี้หลังจากพ่ายแพ้ให้กับขุนพลอัซซูรี่ไป 2-0
- นอกจากนั้นเจ้าตัวยังเคยได้เล่นให้กับทีมชาติบาสก์ด้วยเช่นกัน โดยได้ลงประเดิมในเกมกระชับมิตรกับทีมชาติคาตาลันซึ่งผลจบลงด้วยการเสมอกันไป 2-2 และยังทำประตูได้ในเกมที่เจอกับ เอสโตเนีย โบลิเวียรวมไปถึงเปรู นอกจากนั้นเจ้าตัวยังกลายเป็นนักเตะที่ทำประตูสูงสุดในแก่ชนชาติบาสก์ในยุคสมัยใหม่โดยทำไปได้ทั้งสิ้น 13 ประตู
อาริตซ์ อาดูริซ เป็นนักฟุตบอลที่เกิดและเติบโตในแคว้นบาสก์นั่นจึงทำให้เจ้าตัวมีโอกาสได้ลงเล่นให้ แอธเลติก บิลเบา ยอดทีมดังแห่งแคว้นบาสก์
ช่วงหนึ่งในชีวิตการค้าแข้ง เจ้าตัวเคยไปเป็นกองหน้าให้กับ บาเลนเซีย
หลังย้ายจากบาเลนเซีย เจ้าตัวก็กลับมาลงหลักปักฐานกับแอธเลติก บิลเบาอีกรอบและอยู่ยาวถึง 8 ปีจนกระทั่งแขวนสตั๊ดจนกลายเป็นหนึ่งในตำนานของทีม
แม้จะติดทีมชาติสเปนไปไม่กี่นัด แต่ก็เคยเป็นหนึ่งในขุนพลทัพกระทิงดุชุยสู้ศึกยูโร 2016
อาดูริซ ประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2020 ด้วยวัย 39 ปีพร้อมกับขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในตำนานกองหน้าของแอธเลติก บิลเบา
ฟุตบอล
กีฬา
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย