Swing Trading คืออะไร ทำไมเราต้องรู้จัก?
เรียบเรียงบทความโดย เพจ สองหมอขอลงทุน
▶️สวิงเทรดดิ้งคืออะไร?
การซื้อขายสวิงเป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่ติดตามแนวโน้มระยะสั้นเพื่อให้ได้กำไรในหุ้นหรือความปลอดภัยในการลงทุนอื่นๆ แทนที่จะพยายามเข้าและออกจากการค้าขายในหนึ่งวัน หรือลงทุนในระยะยาว โดยทั่วไปแล้ว Swing Trade จะเกิดขึ้นในช่วงเวลามากกว่าหนึ่งวันและไม่เกินสองสามเดือน
▶️สวิงเทรดดิ้งทำงานอย่างไร
กระบวนการของการซื้อขายแบบสวิงเกี่ยวข้องกับการจับส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดไว้ในช่วงสองสามวันหรือหลายสัปดาห์ มากกว่าที่จะได้กำไรมากขึ้นในช่วงเวลาที่ยาวนานขึ้น ในการทำเช่นนี้ ผู้เทรดแบบสวิงอาจกำหนดเป้าหมายจุดราคาหนึ่งและใช้คำสั่งหยุดการขาดทุนเพื่อดำเนินการ อาจใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาโดยหวังว่าจะได้รับผลกำไร
หลังจากที่รับรู้ถึงผลกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่คาดการณ์ไว้ นักเทรดสวิงจะเดินหน้าต่อไปเพื่อระบุโอกาสต่อไป แนวคิดเบื้องหลังการซื้อขายแบบสวิงคือการคว้าชัยชนะขนาดเล็กถึงปานกลางหลายครั้ง ซึ่งสามารถเพิ่มผลตอบแทนรวมได้มากถึงหนึ่งรายการ
เคล็ดลับ: นักเทรดแบบสวิงมักจะมองหาโอกาสในการเทรดแบบสวิงจากหุ้นขนาดใหญ่ที่มีการซื้อขายกันอย่างกว้างขวางหรือกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่แสดงแนวโน้มที่จะแกว่งภายในช่องทางที่กว้างและมีการกำหนดไว้อย่างดี สายสวิงอาจรักษารายการหุ้นและอีทีเอฟเพื่อติดตามทุกวัน สิ่งนี้สามารถช่วยให้ผู้ค้าทำความคุ้นเคยกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาของโอกาสที่เลือก
▶️กลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิง
กลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก ซึ่งพยายามคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตจากกิจกรรมในอดีตของหลักทรัพย์การลงทุน นักเทรดแบบสวิงอาจเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของทิศทางราคา ซื้อขายเมื่ออ่อนตัว หรือมองหารูปแบบทางเทคนิคบางอย่าง
▶️ตัวอย่างของกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงคือ:
การเปลี่ยนแปลงทิศทางราคา: หลังจากที่ตลาดได้ยืนยันการเปลี่ยนแปลงของทิศทางของราคาแล้ว เทรดเดอร์สวิงอาจซื้อจากโมเมนตัมที่เป็นบวกที่คาดการณ์ไว้
ซื้อเมื่อโมเมนตัมอ่อนแอ ขายเมื่อแข็งแกร่ง: หากการลงทุนซื้อขายที่ปลายล่างของช่องทางการซื้อขาย ผู้ซื้อขายแบบสวิงอาจซื้อเมื่อเห็นจุดอ่อน
รูปแบบทางเทคนิค: ผู้เทรดแบบสวิงที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคอาจใช้รูปแบบแผนภูมิหลายวันที่เฉพาะเจาะจงสำหรับสัญญาณเข้าและออกจากตำแหน่ง
▶️เครื่องมือเทรดสวิง
สายสวิงอาจใช้แผนภูมิและเครื่องมือเช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, ตัวบ่งชี้โมเมนตัม, แผนภูมิแท่งเทียนและตัวบ่งชี้ความเชื่อมั่นของตลาด อาจใช้ตัวช่วย เช่น แผนภูมิหุ้น ซอฟต์แวร์สร้างแผนภูมิ เว็บไซต์การวิเคราะห์ทางเทคนิค และหนังสือซื้อขาย นิตยสาร และบล็อกต่างๆ
▶️ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขายแบบสวิง
การซื้อขายแบบสวิงก็เหมือนกับรูปแบบการซื้อขายอื่นๆ ที่มีข้อดีและข้อเสีย หากสามารถระบุโอกาสที่ดีและลดความสูญเสียได้ด้วยเทคนิคการหยุดการขาดทุนที่ประสบความสำเร็จ การซื้อขายแบบสวิงก็สามารถทำกำไรได้ แต่การซื้อขายแบบสวิงมีความเสี่ยงและข้อเสียที่ไม่เหมือนใคร
👉ข้อดีของ Swing Trading
ศักยภาพในการทำกำไร: เทรดเดอร์สามารถเพิ่มผลกำไรสูงสุดโดยการใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น หรือการแกว่งตัวของราคา
ความเรียบง่าย: การซื้อขายแบบสวิงอาจใช้เวลาน้อยกว่าการซื้อขายรายวัน และอาจง่ายกว่าการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์พื้นฐาน
👉ข้อเสียของการซื้อขายแบบสวิง
จังหวะเวลาของตลาด: ตลาดทุนมีแนวโน้มที่จะสุ่มตัวอย่างมากกว่าในระยะสั้น เมื่อเทียบกับระยะยาว ซึ่งทำให้ช่วงเวลาของการเทรดแบบสวิงมีความท้าทายมากขึ้น
ความเสี่ยงด้านตลาด: การซื้อขายแบบสวิงสามารถเพิ่มความเสี่ยงด้านตลาดได้ เนื่องจากตลาดทุนมีความไม่แน่นอนในระยะสั้น
▶️ตัวอย่างการซื้อขายสวิง
ตัวอย่างเช่น การซื้อขายแบบสวิง สมมติว่านักลงทุนติดตามประสิทธิภาพของหุ้น ETF ที่มีการซื้อขายกันอย่างแพร่หลาย นักลงทุนสังเกตประสิทธิภาพในแผนภูมิแท่งและแนวโน้มได้แสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวขาขึ้นภายในช่องทางการซื้อขาย โดยมีจุดต่ำสุดที่มีแนวโน้มว่าจะสั้นและเฉียบคม
ในการตั้งค่าการซื้อขายแบบสวิง นักลงทุนซื้อหุ้นของ ETF และวางคำสั่งหยุดการขาดทุนสำหรับราคาที่สูงกว่าแนวโน้มราคาต่ำสุดล่าสุดเล็กน้อย จากนั้นผู้เทรดแบบสวิงจะตรวจสอบ ETF โดยมีแผนที่จะออกจากการค้าใกล้เส้นช่องบน เมื่อราคาถึงจุดทางออกที่วางแผนไว้ ผู้เทรดแบบสวิงจะขายหุ้นของ ETF เพื่อล็อคกำไร
▶️สวิงเทรดดิ้งกับเดย์เทรด
ความแตกต่างหลักระหว่างการซื้อขายแบบสวิงและการซื้อขายแบบวันคือระยะเวลาการถือครอง: การซื้อขายแบบสวิงอาจมีตั้งแต่หลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ ในขณะที่สถานะการซื้อขายแบบวันมักจะจำกัดอยู่เพียงวันเดียว ความแตกต่างอื่นๆ เกี่ยวข้องกับขนาดตำแหน่ง การใช้มาร์จิ้น ความถี่ในการซื้อขาย และต้นทุน
👉ความแตกต่างระหว่างสวิงเทรดดิ้งและเดย์เทรดคือ:
ระยะเวลาการถือครอง: ตำแหน่งสำหรับการซื้อขายแบบสวิงมักจะถูกจัดขึ้นเป็นเวลาหลายวันและนานถึงหลายสัปดาห์ ในขณะที่สถานะการซื้อขายรายวันจะดำเนินการภายในหนึ่งวันซื้อขาย
ขนาดposition : เนื่องจากความเสี่ยงในชั่วข้ามคืน นักเทรดแบบสวิงมักจะ run position ที่น้อยกว่าเทรดเดอร์รายวัน
การใช้มาร์จิ้น: สายสวิงอาจใช้มาร์จิ้นหรือเลเวอเรจ 50% ในขณะที่ผู้เทรดรายวันถูกจำกัดที่ 25%
ความถี่ในการซื้อขาย: การซื้อขายแบบสวิงมักต้องการการซื้อขายที่น้อยกว่าการซื้อขายรายวัน
ต้นทุน: สาเหตุหลักมาจากความถี่ในการซื้อขายที่ต่ำกว่า การซื้อขายแบบสวิงโดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการซื้อขายรายวัน
✍️บทสรุป
การซื้อขายแบบสวิงเป็นวิธีที่สร้างผลกำไรและเข้าถึงได้สำหรับนักลงทุนในการซื้อขาย อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับหุ้นมาตรฐานหรือการลงทุน ETF ความซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การซื้อขายแบบสวิงไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนมือสมัครเล่นนั่นเอง
Source: SeekingAlpha
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
