25 ธ.ค. 2023 เวลา 13:10 • ท่องเที่ยว

บันทึกการเดินทางโตเกียว-ฟูจิ วันที่ 16 ธ.ค. 2023

เราตื่นแต่เช้าตรู่ครับ ประมาณตีสี่ครึ่ง รีบเก็บของ ลงมา Check out และเดินออกมาจากโรงแรมพร้อมกระเป๋าเดินทาง ตอนนั้นยังเช้ามาก ๆ อยู่ แต่เหมือนย่านนี้ไม่หลับใหลจริง ๆ ครับ ผมคิดว่ามันจะเงียบ ๆ แต่ลืมไปว่านั่นคือเช้าวันเสาร์ คนยังเพิ่งจะเริ่มเดินทางกลับจากการดื่มในคืนวันศุกร์อยู่เลย ระหว่างทางเดินผมเห็นร้านคาราโอเกะที่ยังมีคนเต็มไปหมด ผมคิดว่ามันน่าสนใจดีครับ
เราไปถึงจุดขึ้นรถได้ทันเวลา ผมคิดว่าเราโชคดีที่เราซื้อตั๋วรถมาก่อน เพราะเคาน์เตอร์ขายตั๋วไม่เปิดตอนเวลานั้น เรารออยู่ประมาณสิบนาทีก่อนจะได้ขึ้นรถ แน่นอนว่าเราง่วงมาก แต่ผมไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่ เมื่อถึงเวลารถออก ผมนั่งและเปิดเพลงในอัลบั้มใหม่ของ Ado พร้อมทั้งมองออกนอกหน้าต่าง เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้น
ปกอัลบั้ม Ado no Utattemita ฉบับพิเศษ
ก่อนหน้าขึ้นรถ ผมอ่านโพสอะไรสักอย่างที่โฆษณาอัลบั้มของ ano ผมคิดว่าน่าสนใจดี เลยลองฟังดู อัลบั้มนั้นมีเพลง Chu, Tayousei ด้วย ซึ่งเป็นเพลงประกอบ Chainsaw Man แต่เพลงแรกของอัลบั้มอย่าง Nyang Oeeee Gokuraku Ondo เป็นเพลวงที่เจ๋งดีครับ
ปกอัลบั้ม  Neko Neko Terutu
เมื่อเราถึง Terminal 1 ของสนามบินนาริตะ เราพบว่าเรามาถึงเร็วเกินไปมาก ตอนนั้นคือ 7 โมงเช้า แต่เคาน์เตอร์การบินไทย สายการบินที่เราใช้เดินทางกลับ เปิด 9.15 น. พ่อแม่ผมนั่งงีบอยู่ ผมที่ไม่ค่อยอยากจะใช้เวลาว่างนั่งหลับ เลยเดินรอบสนามบิน จริง ๆ แล้วคือผมเริ่มหิวเหมือนกันครับ ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลากินของผมด้วยซ้ำ แต่ร้านอาหารยังไม่เปิดกันเลย
ผมเดินไปที่ร้าน Traveller’s Notebook Factory Narita Airport ปรากฏว่ามันยังไม่ถึงเวลาเปิด ผมตั้งใจจะรีบกลับมาซื้อของที่ร้านนี้หลัง Check in แล้ว เวลาผ่านไปเร็วกว่าที่ผมคิดครับ สักพักก็ถึงเวลาไปต่อแถวเตรียม Check in แล้ว พนักงานมาถึงก่อนเวลา และเปิดเคาน์เตอร์ตอน 9.15 น. เป๊ะ ๆ ผมชื่นชมครับ เพราะเขาต้อนรับเราดีตามมาตรฐานการบริการญี่ปุ่นเลย อีกทั้งพนักงานญี่ปุ่นพูดภาษาไทยกับเราด้วย
เราได้คิวแรก ๆ และก็ Check in Online มาก่อนแล้ว พนักงานจึงออกตั๋วให้เราได้ไม่ชักช้า ผมขอตัววิ่งไปซื้อของที่ร้านสมุดก่อน ผมเอาสมุดของผมออกมา เพื่อที่จะไปเอาแสตมป์ของสนามบิน พนักงานเห็นผมถือสมุดอยู่ก็เข้ามาหาผมแล้วบอกว่าขอบคุณ ผมก็ยินดีครับ แล้วเธอก็ถามว่ากำลังหาอะไรอยู่หรือเปล่า ผมบอกเธอ เธอก็หยิบมาให้ผมทันทีครับ
ผมไปเอาแสตมป์ให้เรียบร้อยแล้วไปจ่ายเงิน พนักงานคนเดิมถามว่าเล่มที่ผมถือเป็นเล่มใหม่ใช่ไหม มันดูไม่ยากครับ ปกหนังของยี่ห้อนี้จะเก่าและสวยขึ้นเรื่อย ๆ ตามการใช้งาน ผมตอบว่า ใช่ เธอถามว่าซื้อที่ไหน ผมตอบว่าสถานีโตเกียว ผมอยากจะอยู่สนทนาเล่นต่ออีกหน่อย เพราะพนักงานอัธยาศัยดีมาก แต่ผมไม่มีเวลาขนาดนั้น จึงขอตัวและรีบเดินกลับไปที่ทางเข้าตม.
ผมคิดว่าการผ่านตม.มักจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและใช้เวลานานมาก แต่อาจจะเพราะว่าตอนนั้นเป็นตอนเช้า ทำให้คนไม่เยอะ อีกทั้งเราได้คิวแรก ๆ ด้วย เราจึงผ่านตม. อย่างรวดเร็วและสะดวกครับ ผมที่เดินทางบ่อย ๆ จึงชินกับการผ่านตม. และตรวจกระเป๋า จึงไม่มีปัญหาอะไร
เราต้องรีบ แม้ว่าจะมีเวลาอีกเยอะกว่าจะบอร์ดเครื่อง เพราะว่าเราจะต้องใช้เวลาซื้อของฝากอีกมากมายครับ เมื่อเข้ามาแล้ว เราเดินทางไปซื้อของฝากทันที ขนมเต็มสองตะกร้าเลยครับ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะเราไม่ได้ซื้อของที่โตเกียว เนื่องจากผมหาซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ ไม่ได้
เราเดินไปร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด พนักงานที่ร้านเป็นคนไทยครับ เราจึงสั่งอาหารไม่ยากนัก ระหว่างนั้นเราก็เก็บของที่ซื้อที่สนามบินใส่ carry-on เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จ เราก็เดินไปที่เกทโดยทันที เวลาเราเหลืออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ผมที่ศึกษาแผนที่ภายในสนามบินมาบ้างแล้วจึงรู้ว่ามีร้านกาแฟอยู่ข้างเกทของเรา จึงนำทางไปที่นั่น
ผมพยายามจะใช้เหรียญของผมให้ผมด้วย แต่สุดท้ายก็ได้เหรียญเพิ่มมาอีก แม่ผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมนั่งดูที่จอดเครื่องบินผ่านหน้าต่างอยู่กับพ่อ สักพักมีชาวตะวันตกมานั่งที่ข้าง ๆ พ่อ เขายิ้มแย้มมาก และบอกว่า Merry Christmas ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดี แต่พ่อแม่สื่อสารอังกฤษไม่ได้ ผมจึงรับหน้าที่รับมือเขาเอง
เราคุยกันเล็กน้อย เช่นว่าเรากำลังไปไหน ผมบอกว่ากำลังกลับไทย เขาบอกว่า เขากำลังเดินทางไปกรุงเทพ ดังนั้นเราคงขึ้นไฟรท์เดียวกัน เขาบอกว่าเขาไปกรุงเทพเพื่อทำงาน ผมบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่ช่วงหยุด ไปทำงานต้นเดือนธันวาคมก็ไม่แปลกอะไร ผมถามว่าเขามาจากไหน เขาบอกว่ามาจาก L.A. ผมคิดว่าคงจะใช่ เพราะนอกจากสำเนียงแล้ว เขาคุยเก่งแบบชาวอเมริกัน
สิ่งที่เจ๋งของสนามบินนาริตะคือมีที่สูบบุหรี่อยู่เรื่อย ๆ ผมขอตัวไปสูบบุหรี่ก่อนจะขึ้นเครื่องหกถึงเจ็ดชั่วโมง เมื่อผมกลับมาแล้ว ก็ใกล้จะถึงเวลาบอร์ดเครื่อง ผมอยากจะกำจัดเหรียญที่ผมเหลืออยู่เกือบ ๆ พันเยน หลังจากคิดอะไรไม่ออก ผมเห็นช็อกโกแลตยี่ห้อประจำของผมอยู่ ผมมีนิสัยชอบกินช็อกโกแลตแก้อาการเวียนหัวระหว่างจ้องคอมพิวเตอร์กับดื่มกาแฟเยอะ ๆ ไหน ๆ ก็ต้องใช้อยู่แล้ว ก็เลยใช้เหรียญซื้อให้หมดเลยครับ พร้อมกับชาแขวขวดหนึ่ง
เราพยายามขึ้นเครื่องให้เร็วที่สุด ต่างจากทุกครั้งที่เราไม่รีบ เพราว่าเรามีของเยอะ และกลัวว่าจะไม่มีที่เก็บ และต้องไปแย่งที่กับคนอื่น ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ดีครับ เรื่องนั้นเราจึงไม่มีปัญหาอะไร
คืนก่อนหน้านั้น ผมโหลดอนิเมะมาดู และผมต้องเลือกอนิเมะที่ผมเคยดูมาแล้วแต่สามารถดูได้อีก เพราะว่าผมไม่อยากจะต้องตั้งใจดูอนิเมะเรื่องใหม่บนเครื่องจากหน้าจอมือถือของผม เรื่องที่ผมเลือกก็คือ Kaguya-sama: Ultra Romantic ครับ ผมคิดว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ เพราะสองวันที่ผ่านมา อารมณ์ผมมันเศร้า ๆ การได้ดูอะไรที่มันเบาสมองและตลก มันก็คงจะดี และมันเลือกถูกครับ มาดูรอบสองผมยังต้องนั่งกลั้นขำอยู่บนเครื่องเลย
ผมงีบไปไม่ถึงชั่วโมงครับ อาจจะเพราะว่าไม่อยากจะนอน คืนนั้นผมจะได้นอนเร็วขึ้น ถือว่าเป็นการปรับเวลานอนไปด้วย (ไม่ช่วยครับ ผมก็ยังนอนดึกเกือบเช้าอยู่ดี ตอนถูกแซวว่าปรับเวลาสำหรับไปอยู่ที่สก็อตแลนด์หรือไง) เครื่องเราถึงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนเวลา ผมรีบเดินไปที่ตม.ก่อนระหว่างที่พ่อแม่ดุของที่ Duty Free เพราะผมอยากจะไปเอากระเป๋าให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะกลับบ้านให้เร็วที่สุด แต่ไม่ช่วยครับ เพราะว่า Bag Delay
ระหว่างเดินไปที่ตม. ผมเห็นแถวพาสปอร์ตชาวต่างชาติที่ยาวเป็นหางว่าว มันยาวและคนเยอะจนน่ากลัวครับ ขนาดว่า ผมไม่คิดอยากจะอยู่ในแถวนั้นเลยในชีวิต ผมยืนคุยกับพ่อระหว่างรอกระเป๋าว่า มันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวจะต้องเสียเวลาขนาดนั้นเพื่อเข้าประเทศ มันเท่ากับว่าประเทศเราเสียเวลาทำเงินไปเป็นชั่วโมงเลย หากนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศเร็วขึ้น เท่ากับเขาจะมีเวลาใช้จ่ายเงินในประเทศมากขึ้นนั่นเอง เป็นเรื่องที่น่าเสียดายครับ
เราถึงไทยแล้ว กลับไปที่รถที่จอดอยู่ที่ลานจอนรถระยะยาว ผมรู้สึกได้ทันทีว่าผมเริ่มป่วยแล้ว และร่างกายผมรู้ตัวว่าไม่ต้องอดทนอีกแล้ว ผมสามารถปล่อยให้ตัวเองป่วยได้ และผมก็อยากจะรีบ ๆ ป่วย จะได้รีบ ๆ หาย เพราะอีกอาทิตย์หนึ่งผมจะต้องเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงคริสต์มาสที่บ้านผม (สถานที่เปลี่ยนกะทันหัน ผมเพิ่งมารู้ว่าผมเป็นเจ้าภาพก็ตอนที่เครื่องแลนด์ที่สุวรรณภูมิ) และผมมีเวลาอยู่ไทยไม่ถึงเดือน เลยอยากจะสุขภาพดีในเวลาที่เหลืออยู่ครับ
ก่อนเข้าบ้าน เราไปกินอาหารไทยทันที ผมกินเยอะมาก เยอะกว่าที่กินที่ญี่ปุ่น จริง ๆ แล้วผมหิวด้วยครับ ตั้งแต่อยู่บนเครื่องแล้ว
จบทริปการเดินทางโตเกียว-ฟูจิ เดือนธันวาคม ปี 2023 ครับ มีความรู้สึกและอารมณ์มากมาย (มากกว่าที่ผมรับมือไว้) เกิดขึ้นในทริปนี้ ผมคิดว่ามันจะเป็นทริปที่อยู่ในความทรงจำของผม ไม่ต่างจากทริปในปี 2020 ที่ผมอ้างถึงบ่อยครั้ง ทริปครั้งนั้นเป็นทริปในความทรงจำอย่างหนึ่งครับ ทริปนี้เหมือนเรามาตามรอยทริปนั้น บวกกับการได้ไปเห็นฟูจิครับ
หลังจากนี้จะเป็นความคิดเห็นของผมหลังจากทริปครับ
โฆษณา