25 ธ.ค. 2023 เวลา 11:38 • ท่องเที่ยว

หอมนสิการ .. สู่เส้นทางเดินของพระพุทธองค์

It’s a man’s own mind, not his enemy or foe,
.. that lures him to evil ways.
การเดินทาง .. หลายครั้งที่เหมือนกับเราออกไปค้นหาอะไรบางอย่าง อาจจะเป็นบางสิ่งที่เกือบจะจับต้องได้ แต่ยังคงขาดหาย
.. เราเคยเดินทางผ่านไปในเส้นทางอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี หลายครั้ง .. เคยมองเห็นหมู่อาคารสีขาว ที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมสวยงาม และเคยสงสัยว่ามันคืออะไร?
.. วันนี้เรามีโอกาสมาแวะชมหมู่อาคารแห่งนี้
Photo : Bangkok Business News
“หอมนสิการ” .. เป็นโครงการที่ เกิดขึ้นตามดำริของ อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล ประธานมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต และ มูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา ตั้งอยู่เบื้องหน้าเขาพระพุทธบาทน้อย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี .. โดยสร้างบนพื้นที่ขนาด 7.4 ไร่ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูนที่สวยงาม และใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 5 ปี
ความรู้สึกอิ่มเอมในความงดงามของสถาปัตยกรรม .. เป็นสิ่งที่ก่อเกิดในใจแค่เพียงครั้งแรกที่ได้เดินชมอาคารหลักของโครงการ พร้อมๆกับคำถามในใจถึงแรงบันดาลใจของการสร้างสรรค์โครงการนี้ขึ้นมา
“ป้าดา” (ดารณี ศรีโท) ผู้จัดการ หอมนสิการเคยให้ข้อมูลว่า ..
“แรกเริ่มเกิดจากวิปัสสนาจารย์ อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล อยากจะสร้างสถานที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและสายธรรมะ โดยใช้นวัตกรรมสร้างแสงสีเสียง อาจารย์บอกว่าเราอยู่ในยุคดิจิทัล จึงอยากสร้างให้เป็นงานศิลปะร่วมสมัยให้เข้าถึงง่าย .. เช่นภาพถ่ายจากคนจริง เป็นภาพนิ่งและภาพยนตร์สั้น มีทีมโปรดักชั่น คอสตูม ม้าจริง ๆ (เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวช) หุ่นขี้ผึ้งใช้เวลาทำเกือบปี ปรับแก้นับสิบรอบ
ในคอนเซปต์ว่า .. เข้าใจศาสนาพุทธภายในเวลา 15 นาที ระหว่างทางเดินเข้าและออก เพราะธรรมะคือธรรมชาติ อยากให้คนที่เข้าชมเข้าใจถึงหลักความเป็นจริงของชีวิต หลายคนที่เข้าชมแล้วบอกว่า...ธรรมะที่จริงง่ายขนาดนี้
ใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ซึ่งได้จากเงินบริจาคของมูลนิธิ กับทรัพย์ส่วนตัวของ อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล ที่ค่อย ๆ เก็บสะสมหลายปี จึงใช้เวลาถึง 5 ปี กว่าจะสร้างเสร็จ
ปัจจุบัน อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล ยังเปิดสอนปฏิบัติธรรม มีที่พักอยู่ด้านใน มีตั้งแต่ 1 วัน, 4 คืน 5 วัน, 7 คืน 8 วัน ไม่มีค่าใช้จ่าย
หอมนสิการ เกิดจากวัตถุประสงค์อยากทำสถานที่ท่องเที่ยวให้เป็นวัด ปกติเราไปไหนถ่ายรูปสวย ๆ แล้วกลับบ้าน แต่ที่นี่ไม่ใช่แค่ถ่ายรูป เราได้เรียนธรรมะ เข้าใจหลักธรรมในระยะเวลาอันสั้นมาก
คนมาเที่ยวจะได้อะไรกลับไป มาดูแล้วจะเข้าใจหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างน้อยเข้าใจถึงหลักคำสอน อย่างง่าย ๆ คือ ศีล 5 เป็นหลักปฏิบัติง่ายที่สุด แค่นั้น...ถ้าปฏิบัติได้ชีวิตเราจะเปลี่ยน บางคนมาดูซาบซึ้งก็มาต่อยอดไปนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม จะช่วยให้จิตใจเราดีขึ้น”
สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น สวยงาม โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาหินปูนนั้น ก็มีแนวความคิดของการออกแบบที่น่าสนใจมาก .. ไม่ใช่การสร้างเทรดดิชั่น แต่แปลความหมายใหม่ออกมาในรูปแบบของตนเอง และยังคงมีความงดงาม
หอมนสิการประกอบด้วย 2 กลุ่มอาคาร คือ
1 อาคารหอมนสิการ แบ่งเป็นส่วนนิทรรศการและหอจัตุรัส ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อสักการะบูชา
2 อาคารนิทรรศการ Spiritual Life แสดงคำสอนของพระบรมศาสดา นิทรรศการโนอิ้ง บุดด้า และห้องฝึกนั่งสมาธิ คาเฟ่ Market Place ร้านขายสินค้าชุมชนและสินค้าโดยผู้ปฏิบัติธรรม มุม Snack and Nap เป็นที่ผ่อนคลายกึ่ง Outdoor
สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน
อ.อัจฉราวดี บอกว่า “ทุกขั้นตอนของโครงการ ตั้งแต่แนวคิด รูปแบบ ไปจนถึงวัสดุการก่อสร้าง ดีไซน์ ทั้งภายนอกและภายใน ผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดและเข้มงวด รวมทั้งเดินทางไปดูสถาปัตยกรรม โบราณสถานที่เมืองชัยปุระ ประเทศอินเดีย เพื่อนำมาเป็นแนวคิดในการออกแบบหอมนสิการ
ความต้องการคือเมื่อผู้เข้าชมได้เห็นและก้าวเข้ามาในบริเวณนี้ จะสัมผัสได้ทันทีถึงความสง่างามและความร่วมสมัย ที่น้อมใจของผู้ที่ได้พบเห็นเกิดความนอบน้อมต่อพระบรมศาสดาอย่างสูงสุด”
คุณนาคนิมิตร สุวรรณกูฏ ทายาทของศิลปินชั้นครู อ.ไพบูลย์ สุวรรณกูฏ .. เป็นผู้ออกแบบลวดลายสถาปัตยกรรม และให้คำปรึกษาตกแต่งภายใน
.. คุณนาคนิมิตร ผูกลวดลายตัวอาคารให้มีความเป็นสากล โดยการผสมผสานลวดลายสไตล์อินเดีย สไตล์วิกตอเรีย และสุโขทัย เพื่อให้มีรูปแบบเฉพาะของมนสิการ
ทางเดินด้านในช่วงนิทรรศการ ... เป็นอุโมงค์โค้งมน แบบอุโมงค์ทางเดินริมฝั่งแม่น้ำ Arno ด้านหน้าของ Uffizi Museum ที่ฟลอเรนซ์ อิตาลี
หอประดิษฐานพระบรมโลกนาถ พระพุทธรูปองค์สีทอง ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ตลอดจนพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาต่างวาระ 18 พระองค์ และ ภาพปัก พระบรมโลกนาถ ... รูปแบบสถาปัตยกรรมแรกเริ่มทั้งภายนอกและภายใน ออกแบบโดย อ.อัจฉราวดี วงศ์สกล
... โดยต้องการให้ตัวอาคารมีความร่วมสมัย ไม่เป็นแนวประเพณีจนเกินไป ยอดหลังคาได้แรงบันดาลใจมาจากโบสถ์วัดพุทธไธศวรรย์ จ.อยุธยา เป็นศิลปะอยุธยาตอนต้น ผสมผสานศิลปะแบบขอม ด้านหน้าอาคารมีกันสาด ลวดลายอาคารแบบนีโอคลาสสิก
Photo : Bangkok Business News
นิทรรศการภายใน หอมนสิการ
ภายในอุโมงค์ช่วงแรก เป็นเส้นทางเล็ก ๆ แสงสลัว..... จำลองเส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า (The Buddha’s Path: An Exhibition Passageway)ในรูปแบบนิทรรศการร่วมสมัย ที่จะดึงผู้เข้าชมให้เหมือนย้อนเวลาไปที่อินเดีย เมื่อ 2,500 ปีก่อน
ผู้เข้าชมจะเหมือนเดินอยู่ในอุโมงค์ย้อนเวลา แล้วเสพงานศิลปะร่วมสมัย ภาพ แสง สี เสียงบรรยาย และวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์ ให้ได้ซึมซับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 พาย้อนสู่ครั้งพุทธกาล .. การบรรยายผ่านหูฟัง จะทำให้ผู้เข้าชมได้รู้ถึงห้วงเวลาต่าง ๆ จากพุทธประวัติ ซึ่งเป็นพระพุทธประวัติในรูปแบบนิทรรศการร่วมสมัย (Journey to the Life of Buddha)
Photo : Bangkok Business News
.. ผู้ชมจะย้อนเวลาสู่สมัยพุทธกาล เล่าเรื่องของเจ้าชายสิทธัตถะ ค้นพบวิถีแห่งความเสียสละกว่าที่พระพุทธองค์จะทรงบรรลุเป็นพระพุทธเจ้า ที่จะปลุกจิตสำนึกในธรรมแท้ ผ่านการจัดแสดงแบบ Interactive เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ห้องพุทธกาล ช่วงที่ 5 กล่าวถึงการ “หนี” จากพระราชวังเพื่อออกผนวช บำเพ็ญเพียรค้นหาทางรอดจากกงล้อแห่งวัฏสงสาร
Photo : Bangkok Business Nees
ช่วงที่ 6 “การทรมานร่างกายครั้งประวัติศาสตร์” จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้ง (เสมือนจริง) พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา ตามความเชื่อในแบบลัทธิดั้งเดิม จนพระวรกายผ่ายผอม เพื่อค้นหาธรรมแห่งการหลุดพ้น
หอจัตุรัสหรือ "หอกราบ" .. เป็นส่วนที่เป็น ไฮไลท์ ของสถานที่นี้ ซึ่งจะอยู่ ณ สุดทางเดินช่วงแรกของ The Buddha’s Path
"หอกราบ" ..ตกแต่งด้วยสีทองตัดกับผ้าไหมสีแดง ประดิษฐาน “พระบรมโลกนาถ” พระพุทธรูปศิลปะแบบอินเดีย ที่มีลักษณะเสมือนจริงกับมนุษย์ เพื่อให้ผู้บูชาสามารถน้อมจิตได้ใกล้ชิดพระพุทธองค์ในแบบกายเนื้อมนุษย์มากยิ่งขึ้น พระพักตร์มีความงดงามและสงบเย็น พระเนตรเปี่ยมด้วยความเมตตา ยังความสงบเมื่อได้มอง
“พระบรมโลกนาถ” .. มีขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ปิดทองคำบริสุทธิ์งดงามผุดผ่อง โดยหนึ่งในมวลสารที่ใช้หล่อพระพุทธรูป คือ มวลสารดินจากกุสินารา และทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งพิธีเททองหล่อพระจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ บริเวณหน้าหอมนสิการ
ด้านซ้ายมือประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุ ที่เสด็จมาด้วยพุทธปาฏิหาริย์ใน 3 วาระ รวมทั้งสิ้น 18 พระองค์
ด้านขวาจัดวางภาพปักพระบรมโลกนาถ ที่ปักโดย สุวลักษณ์ เสนานุช มีขนาดความกว้าง 67.2 ซม. สูง 85.6 ซม. จำนวนฝีเข็มกว่า 651,000 ฝีเข็ม ใช้ไหมทั้งหมด 49 สี โดยปักครั้งละ 3 เส้น (ปกติทั่วไปจะใช้ 2 เส้น)
… มีความหมายคือ พระรัตนตรัย เส้นที่ 1 แทนพระพุทธ เส้นที่ 2 แทนพระธรรม และเส้นที่ 3 แทนพระสงฆ์ ซึ่งผู้ปักภาพบริกรรม คำว่า “นิพพาน” ทุกฝีเข็ม และถือศีล 8 ตลอดระยะเวลาการปัก 8 เดือน
Photo : Bangkok Business News
เมื่อกราบสักการะพระบรมโลกนาถใน หอจัตุรัสแล้ว ผู้ชมจะเดินผ่านเส้นทางนิทรรศการขาออก กลับสู่ยุคปัจจุบัน ให้พิจารณาการใช้ชีวิตบนเส้นทางแห่งความดีงาม รวมเวลาประมาณ 15 นาที
สิ่งที่ฉันคิดเมื่อออกมาจาก “หอมนสิการ” คือ .. ชีวิตของเราทุกคนย่อมจบสิ้นลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง ความสุขคืออะไร เรามีชีวิตเพื่ออะไร .. เป็นคำถามที่ถูกถามซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า
.. คงต้องใช้เวลาในการพิจารณา และค้นหาคำตอบ .. หรืออาจจะไม่สามารถค้นพบเลยก็เป็นได้
ด้านนอกหอมนสิการ มีอาคารจัดแสดงนิทรรศการ “Spiritual Life” เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพระพุทธศาสนา ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า หลักการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องต่อพระบรมศาสดาและพระพุทธสัญลักษณ์
และมีอาคารสอนและปฏิบัติสมาธิ โดยอาจารย์สอนสมาธิ จัดสอนฝึก นั่งสมาธิเบื้องต้นให้กับผู้ที่สนใจ
ด้านหลัง เป็นสถานที่เรียนรู้ฝึกสมาธิเบื้องต้นแบบไม่มีพิธีรีตอง บนพื้นที่กว้างขวาง .. เพื่อให้สัมผัสความสงบใจ ประสบการณ์ทั้งหมด จะนำมาสู่การไตร่ตรองอย่างแยบคายในหลักการดำเนินชีวิตอย่างมีศีลธรรม การไตร่ตรองโดยแยบคายคือคำแปลของคำว่า “มนสิการ”
เปิด : อังคาร–ศุกร์ 10.00 - 17.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 09.30 - 18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : คนไทย 20 บาท ต่างชาติ 50 บาท : เด็ก นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงวัย ผู้พิการ นักบวช เข้าฟรี
โฆษณา