27 ธ.ค. 2023 เวลา 13:00 • การ์ตูน

100 Girlfriends who really, really, really, really, really Love You

เอาล่ะ ฟังผมพูดก่อน ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับ ผมไม่เคยคิดว่าผมจะชอบอนิเมะแนวนี้เลย ผมชอบรอมคอมก็จริง แต่มันจะต้องดีเยี่ยมอย่างมากขนาดที่มันสะเทือนวงการ อย่าง Kaguya-Sama: Love is War ผมชอบรอมแมนติก ผมก็เลยชอบแบบ BokuYaba แต่ ผม ไม่ ชอบ ฮาเร็ม! ดังนั้นมันต้องมีอะไรที่พิเศษอย่างมากที่ทำให้ผมติดตาม 100 Girlfriends who really, really, really, really, really Love You และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
อนิเมะฮาเร็มที่ผมดูอย่างจริง ๆ จัง ๆ มีเพียงเรื่องเดียวครับ นั่นก็คือ Quintessential Quintuplets ซึ่งผมสามารถเขียนโพสยาว ๆ อีกโพสหนึ่งอธิบายให้ท่านเข้าใจว่าทำไมเรื่องนั้นมันถึงดี ผมไม่นับว่า Monogatari Series เป็นฮาเร็ม เพราะมันไม่ใช่หัวใจหลักของหัวใจหลักมากมายของซีรีส์ครับ พูดตรง ๆ ผมแทบจะดูหมิ่นฮาเร็มด้วยซ้ำ จริงอยู่ว่าผมเคยผ่านฮาเร็มมาตอนเป็นเด็ก แต่ก็เพราะเป็นเด็กที่กำลังแตกหนุ่มที่มีความสนใจตัวการ์ตูนผู้หญิงก็เท่านั้นเองครับ (อันนี้เปิดใจพูดตรง ๆ)
โอเค ผมเคยดู Rent a Girlfriend ซีซั่น 1 แต่ผมขอไม่พูดถึงมันละกันนะครับ
Karane กับ Hakari
แต่ 100 Girlfriends มันพิเศษอย่างบอกไม่ถูกครับ ผมชอบมันมากขนาดที่อยากจะบอกให้เพื่อน ๆ ดู แต่ก็ยากเพราะเพื่อน ๆ คงจะหันมองหน้าผมด้วยสายตาดูถูก วันก่อนเพื่อนผมมาบ้านหลายคนเพื่อเลี่ยงคริสต์มาสกัน มันยืม YouTube ผมเปิด BGM มันเข้าไปในหน้าหลักของผม แล้วหันมามองผมแบบดูหมิ่น เพราะผมประวัติการเสิร์จ 100 Girlfriends ของผม
ผมรีบปกป้องตัวเองทันที พูดด้วยเสียงดัง ๆ ที่สุด แม้ว่าตอนนั้นผมยังไม่หายเมาคางจากคืนก่อนที่ไปเลี้ยงอำลากับเพื่อนอีกกลุ่มมา กับอาการป่วยที่หนักขึ้นจากการเดินทางไปญี่ปุ่นว่า “มันดีจริง ๆ เว้ยมึง เชื่อกู มึงต้องกู แม่งโคตรฮา” แน่นอนว่ามันไม่เชื่อครับ ผมก็เข้าใจว่าทำไมมันไม่เชื่อ แต่ขณะนั้น มีเพื่อนอีกคนผ่านมาเห็นหน้าจอผม แล้วชี้ แล้วบอกว่า “อนิเมะเรื่องนั้น! โคตรดีเว้ย!” ผมโล่งอกขึ้นมาทันที ผมไม่ใช่คนเดียวจริง ๆ ที่เห็นว่า อนิเมะเรื่อง 100 Girlfriends เป็นอนิเมะที่ได้รับความนิยมอยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าคนที่มองว่าตัวเองเป็น “แฟนอนิเมะที่ซีเรียส” ยังจะดูแคลนสุดยอดอนิเมะเรื่องนี้อยู่ และผมคิดว่ายังมี “แฟนอนิเมะที่ซีเรียส” หลาย ๆ คนที่ยังไม่ยอมเปิดใจดูอนิเมะชั้นยอดเรื่องนี้ ดังนั้น ผมขอใช้โควตาแนะนำอนิเมะประจำฤดูกาล (แม้ว่าจะจบฤดูกาลไปแล้วก็ตาม) แนะนำอนิเมะเรื่อง 100 Girlfriends who really, really, really, really, really love you ครับ (เขียนบ่อย ๆ ก็เหนื่อยเหมือนกันนะครับ)
สำหรับคนที่ไม่รู้ นี่คือเรื่องย่อแบบสั้น ๆ นะครับ เรื่องมีอยู่ว่า ไอโจ เร็นทาโร่ พระเอกของเรื่อง สารภาพรักหญิงกับครบ 100 คน และกินแห้วทั้ง 100 ครั้ง ทั้งที่เขาเองก็ไม่ใช่คนที่แย่อะไรเลยครับ เมื่อเขาหมดหนทาง เขาจึงไปที่ศาลเจ้า และดันได้คุยกับเทพแห่งความรักของศาลเจ้านั้น ปรากฏว่า เทพดันพลาดท่า เขียนให้เร็นทาโร่มีเนื้อคู่ 100 คนที่เขากำลังจะได้เจอในเร็ว ๆ นี้ แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ผู้หญิงคนไหนที่เขาไม่เลือก คนนั้นจะตาย!
Rentaro
มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด และดูเป็นฮาเร็มโดยทั่วไปจริง ๆ ครับ แต่เรื่องนี้จับความสนใจของผมตั้งแต่ฉากแรก ตั้งแต่ฉากที่เร็นโทโร่โดนปฏิเสธครั้งที่ 100 ผมหยุดดูไม่ได้จริง ๆ ครับ อาจจะเพราะว่ามันเป็นคอมมีดี้โดยธรรมชาติของมัน และเมื่อนั้นผมจึงรู้ได้โดยทันที 100 Girlfriends ไม่ใช่ฮาเร็มธรรมดา แต่เป็นการ์ตูนล้อแนวฮาเร็มที่แท้จริงครับ
อนิเมะรอมคอมเรื่องหนึ่งในใจของผมคือคากูยะซามะ ซึ่งผมพูดถึงบ่อยครั้งมาก แต่ผมคิดว่าเป็นตัวอย่างที่ดีครับ เรื่องของเรื่องก็คือ ผู้เขียนคากูยะซามะอย่างอาจารย์อากะซากะ อากะ เขียนคากุยะเพราะเขาคิดได้ว่าเขาไม่มีชีวิตรักตอนมัธยม เลยสร้างมังงะที่มาแทนความทรงจำที่ขาดหายไปในชีวิตวัยรุ่นของเขา แต่นอกจากนั้น เขาเขียนออกมาเพราะจะล้อเลียนมังงะและอนิเมะแนวรอมคอมอย่างแท้จริงครับ และทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
Kaguya-sama: Love is War
แต่นอกจากนั้น เมื่ออาจารย์อากะซากะล้อเลียนแนวรอมคอมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาเล่นการ์ด UNO Reverse แล้วบอกว่า หากในโลกนี้ไม่มีมังงะรอมคอมที่ถูกต้อง ฉะนั้น “I’ll do it myself” และทำให้เราเห็นว่า รอมคอมที่แท้จริงเป็นอย่างไร และพลิกเรื่องคากูยะซามะให้กลายเป็นรอมคอมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์มังงะและอนิเมะ ประมาณว่า ผู้เขียนต้องการจะบอกว่า “ถ้าจะเขียนรอมคอม มันต้องเขียนแบบนี้โว้ย”
มันไม่แตกต่างกันระหว่างคากูยะซามะที่ล้อเลียนรอมคอม และ 100 Girlfriends ที่ล้อเลียนฮาเร็ม เริ่มแรก 100 Girlfriends ล้อเลียน และเมื่อทำสำเร็จแล้ว ผู้เขียนดึงการ์ด UNO Reverse แล้วบอกว่า “ถ้าจะเขียนฮาเร็ม มันต้องเขียนแบบนี้โว้ย” และเราจึงได้รับและประสบพบเจอกับฮาเร็มที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการมังงะและอนิเมะครับ
Karane
ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นครับ ไม่ใช่ว่าผมเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านฮาเร็มหรืออะไรนะครับ แต่เหตุผลที่ผมไม่ชอบฮาเร็มเพราะความเชื่องช้าในพัฒนาการของตัวละคร มันต้องใช้เวลาทั้งซีซั่นหรือมากกว่านั้นในการเลือกใครสักคนเป็น Best Girl และอีกอย่างที่ผมไม่ชอบส่วนตัวคือ ผมเลือกไม่ได้ว่าจะเชียร์ใครครับ แหะ ๆ แต่ที่สำคัญที่สุด พระเอกของอนิเมะฮาเร็มมักจะเป็นตัวละคร Self Insert ที่ให้ผู้ชมแทนเอาตัวเองเข้าไป ดังนั้นพระเอกจึงไม่ค่อยมี Personality เท่าไหร่ และทำให้มันน่าเบื่อครับ
แต่ 100 Girlfriends หักทุกกฎของฮาเร็ม อนิเมะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ให้เราเลือกหรือทายว่าใครจะได้เป็น Best Girl เพราะเร็นทาโร่แก้ปัญหานั้นด้วยการ เลือกมันทุกคนเลย ทำให้ฮาเร็มนั้นไม่ใช่ฮาเร็มแบบใครจะได้เป็นแฟนพระเอกตอนไหนเพราะอะไร แต่ทุกคนเป็น Best Girl เป็นฮาเร็มแบบที่ทุกคนเป็นแฟนของพระเอก
อีกอย่างที่ผมไม่ค่อยชอบเกี่ยวกับฮาเร็มก็คือการต่อสู้กันในเรื่องของความรักระหว่างตัวละครหญิง ยิ่งเป็นการต่อสู้แย่งพระเอกที่ไม่มี Personality ขนาดที่ผมไม่เข้าใจว่า ไอหมอนี่มันมีอะไรดีนักหนา ซึ่งในตอนแรก ๆ ผมคิดว่าจะเป็นแบบนั้นในอนิเมะ 100 Girlfriends แต่เมื่อผ่านตอนที่สองมาแล้ว ก็รู้ได้ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน เพราะพระเอกเลือกทุกคนแล้ว มันไม่มีอะไรจะต้องแข่งหรือพิสูจน์กันอีก มันไม่มีการแข่งขันเพราะมันไม่มีผู้แพ้ แต่เพราะทุกคนคือผู้ชนะตั้งแต่ต้นครับ
Hakari
มันไม่ใช่การแข่งขัน ไม่มีอะไรต้องแย่งกัน เพราะทุกคนมีสถานะเท่ากัน ไม่ว่าใครจะมาก่อนหรือมาหลัง ทุกคนก็คือแฟนสาวของไอโจ เร็นทาโร่! นอกจากพระเอกจะไม่ต้องเลือกแล้ว ผู้ดูก็ไม่ต้องเลือกเหมือนกันครับ หากจะถามผมว่าใครคือ Best Girl ผมก็ไม่จำเป็นจะต้องเลือกตอบว่าฮาคาริเป็น Best Girl เพราะผมสามารถเลี่ยงได้ว่า ทุกคนคือ Best Girl นั่นเอง
แปป ผมเพิ่งบอกว่าฮาคาริคือ Best Girl เหรอ ผมว่าผมพิมพ์ผิด ผมชอบชิสุกะมาก ไม่เพียงเพราะเธอน่ารัก แต่เธอตลกมาก ๆ แต่จริง ๆ คนอื่น ๆ ก็ควรได้เป็น Best Girl นะครับ ทุกคนเข้าใจใช่ไหมครับ มันเลือกไม่ได้ และ 100 Girlfriends ก็ไม่ได้ยัดเยียดผู้ชมให้เลือก
Shizuka
เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะได้เห็นสิ่งที่เราไม่ได้เห็น นั่นคือ ความรักที่แฟนสาวมีให้กันอย่างแท้จริงครับ และทุกอย่างมันราบลื่น เพราะว่า Chad ของเรา สุดยอดพระเอกของฮาเร็ม และผมคิดว่า เป็นสุดยอดพระเอกของอนิเมะทุกเรื่อง ไอโจ เร็นทาโร่ is Him
ฮาเร็มหลาย ๆ เรื่องทำนางเอกมากมายออกมามี Personalities ที่หลากหลายให้ผู้ชมเลือกเชียร์ แต่มากไปกว่านั้นคือการให้ผู้ชมเลือกว่าอยากจะเดทกับใคร กล่าวคือ การที่ทำพระเอกออกมาเหมือนกระดาษขาวไร้ Personality แบบให้ Self Insert มันทำให้เราอยากจะเป็นพระเอก เพื่อที่จะได้เลือก Best Girl แต่ 100 Girlfriends ล้อเรื่อง Tropes ตัวละคร เช่นซึนเดเระ อย่างคาราเนะ หรือคุเดระ อย่างนาโนะ และเล่นตลกกับ Tropes เหล่านั้นแบบเล่นการ์ด UNO +4!
แต่มันเวิร์คครับ ผมชอบทุกตัวละคร นางเอกทุกคนที่นำเสนอในเราเห็น ทุกคนได้รับเวลาเฉิดฉายเป็นของตัวเอง นางเอกแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย มันทำให้เราหลงรักตัวละครเหล่านี้ แน่นอนว่า 100 Girlfriends ไม่ซีเรียส และมีกลิ่นอายของ Gag Manga อยู่ ทำให้เรื่องนี้ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรเท่าไหร่ แต่การได้เห็นตัวละครเหล่านั้นแชร์จอด้วยกัน และอยู่ด้วยกัน มันกลายเป็นเคมีที่ลงตัวอย่างบอกไม่ถูกครับ อย่างที่บอก เราไม่ต้องเลือก เพราะมันเลือกไม่ได้
Nano
นอกจากนี้ 100 Girlfriends ดึง UNO Reverse อีกใบ ทำให้เราไม่ได้อยากเป็นพระเอกเพื่อที่จะเลือกนางเอกแล้ว แต่ทำให้เราอยากอยู่กับพระเอก!
โอเค โอเคฟังผมก่อนนะ ผมมีที่มาที่ไป เร็นทาโร่ พระเอกของเรื่อง ถูกออกแบบมาในตอนเริ่มให้เป็นพระเอกเฉิ่ม ๆ ทั่วไป เพื่อล้อวงการฮาเร็ม ตัวละครที่ไม่ได้หน้าตาดี ทุกอย่างกลาง ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ อย่างที่บอก ก็เพื่อให้เรา Self Insert เข้าไป แต่เมื่อเราเรียนรู้เกี่ยวกับพระเอก ได้ยินสิ่งที่เขาพูด และได้เห็นสิ่งที่เขาทำเพื่อแฟนสาวของเขาทุกคน เราอดที่จะเอาใจช่วยเขาไม่ได้ เพราะนี่คือ Giga Chad สุดยอดพระเอก และสมควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาแฟนหนุ่มที่เปลี่ยนโลกนี้
Rentaro the GOAT
นอกจากที่ 100 Girlfriends จะ Break the Fourth Wall บ่อยพอ ๆ กับ Deadpool ตัวละครเหล่านั้นก็เข้าใจว่าตัวเองอยู่ในฮาเร็ม รวมถึงเร็นทาโร่ และเขาไม่ยอมที่จะเป็นพระเอกฮาเร็มทั่ว ๆ ไป เขาไม่เหมือนคนอื่น เร็นทาโร่เข้าใจพัฒนาการของเนื้อเรื่องฮาเร็ม และเขาจะไปสุดเส้นทางเพื่อที่จะรักษาความสุขของแฟนสาวเขาทุกคน โดยการทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พล็อตพัง ๆ ของอนิเมะฮาเร็มเกิดขึ้น
อย่างแรกและอย่างที่สำคัญที่สุดที่เร็นทาโร่เข้าใจ และแก้ไขโดยทันที คือเรื่องการแข่งขันและต่อสู้กันระหว่างแฟนสาวของเขาแต่ละคน เขาเข้าใจอย่างสุดซึ้งว่าสิ่งแรกที่เขาต้องทำก็คือการรักษาและปกป้องเคมีของกลุ่มแฟนสาวของเขา ทำให้แฟนสาวแต่ละคนเปิดใจและเป็นตัวของตัวเองเข้าหากัน สิ่งที่สำคัญนอกจากการทำให้แฟนสาวของเขาทั้งหลายรักเขา คือการทำให้แฟนสาวทั้งหมดรักกัน!
Rentaro the Giga Chad
แม้ว่าเขาจะบอกว่าคนรักทุกคนเท่ากัน ทุกครั้งที่เขาเพิ่มสาวแฟนเข้ามาในฮาเร็ม เราจะรู้ได้โดยทันทีว่าเขาไม่ได้ย้ายความรักที่เขามีอยู่ต่อสาว ๆ คนเก่ามาให้คนใหม่ หรือแบ่งความรักมาให้ แต่เขารักแฟนสาวของเขาที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น พูดง่าย ๆ ก็คือ หากมังงะเล่นกับเรื่อง 100 แฟนสาวได้จริง ๆ เมื่อเขาได้แฟนครบ 100 คนแล้ว เท่ากับว่าเขามีความรัก 100% 100 อัน!
มันไม่ใช่ 10,000% เพราะนั่นจะหมายความว่าเขามีความรักให้แฟนสาวของคนแรกคนละ 5,000% และเมื่อมีแฟนสาวเพิ่มขึ้นมา ก็จะเอาความรักจะ 5,000% มาแบ่งให้ เอาเป็นว่า ถ้าความรักเต็มที่ 100% เขาให้ 100% เต็มทุกคน เท่ากัน ไม่ลดลงแม้แต่น้อย และเขาแสดงให้เราเห็นแบบ Super Sigma Giga Chad MC
Rentaro the Harem MC God
นอกจากนี้ เร็นทาโร่ไม่ได้เลือกที่จะเป็นแฟนสาว ๆ ทุกคนเพียงแค่เพราะว่าพวกเธอเป็นเนื้อคู่ที่เทพส่งมาให้ หรือเพราะว่าหากเขาไม่เลือกใคร คนนั้นจะตาย ประเด็นตรงนั้นหายไปทันที เพราะเขาไม่ได้รับรักทุกคนเพราะเขามีหน้าที่จะต้องทำ แต่เขาทำเพราะเขารักทุกคน
100 Girlfriends มานางเอกเยอะมาก ตามชื่อเรื่อง ซึ่งนางเอกแต่ละคนสมควรได้รับความรักของพระเอก และพวกเขาก็รักกันประหนึ่งครอบครัวใหญ่ด้วย ผนวกกับสุดยอดพระเอกแห่งประวัติศาสตร์ การได้เห็นตัวละครเหล่านี้พูดคุย อยู่ด้วยกัน ประสบพบเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ด้วยกัน มันเลยเป็นเรื่องที่จี้มาก ด้วยบท และเคมีตัวละครก็เพียงพอที่จะทำให้มันตลก
แต่การนำเสนอมุกแต่ละมุกมันเกินคาดครับ สิ่งที่เจ๋งของเรื่องนี้คือการ Breaking the Fourth Wall ก็จริง แต่มันทำออกมาได้อย่างมีรสชาติและรสนิยม มันไม่ได้เล่นมุกซ้ำ ๆ แบบซ้ำ ๆ แต่สร้างสรรค์ หรือสรรค์หาวิธีการนำเสนอมุกแบบแปลก ๆ จริง ๆ แล้วมันคือ อนิเมะ Sitcom ดี ๆ นี่เอง ผมไม่แน่ใจว่ามันมีคำนี้หรือยัง เพราะมันก็ไม่ใช่การ์ตูนแก็กเสียทีเดียว
Kusuri
ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นความคิดสร้างสรรค์พรรค์นี้ในคอมมีดี้ครั้งสุดท้ายคือในเรื่อง Bocchi the Rock แต่เอาจริง ๆ ผมคิดว่า Bocchi the Rock มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่า แต่ 100 Girlfriends ก็ไม่แพ้กันเลย มันเล่นตลกด้วยมุมมองที่ต่างกัน ดังนั้นผมคงจะไม่ถูกมากนักในการเทียบสองเรื่องนี้เข้าด้วยกัน ความฮาของ 100 Girlfriends ด้วยการ Parody ของมัน และไม่เพียงแต่ Parody แนวฮาเร็ม แต่ Parody วงการอนิเมะและมังงะทั้งหมด หากจะให้เทียบ ก็คือคล้ายกับกินทามะเลยครับ!
ซีเรียสขึ้นมาหน่อยครับ ผมชอบคอมมีดี้ แต่อนิเมะคอมมีดี้ไม่ค่อยเวิร์คขนาดนั้น กินทามะคือสุดยอดอนิเมะคอมมีดี้ มันทำเช่นนั้นได้เพราะว่ามันสามารถใช้จุดเด่นของการเป็นอนิเมะถึงจุดสุดยอด ผมจะเข้าไปดูอนิเมะคอมมีดี้อย่างระมัดระวัง และหลาย ๆ ครั้งไม่คิดที่จะให้โอกาสอนิเมะที่ออกแบบมาให้ขำหลาย ๆ เรื่อง ผมจึงไม่สนใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรก
ผมเห็นอนิเมะเรื่องนี้จริง ๆ ตอนอยู่ที่โรงแรมแถวฟูจิ 100 Girlfriends ตอนที่ 10 ฉายอยู่พอดี เลยนอนดูอยู่ครึ่งตอน ตอนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่เริ่มรู้ว่า อ่อ มันเป็นอนิเมะตลก เมื่อกลับมาจากญี่ปุ่นแล้ว ผมมีความดาวน์เยอะอยู่ เพราะต้องจากประเทศจากครอบครัวไปเรียนต่อปริญญาเอก ซึ่งใช้เวลานานกว่าไปเรียนปริญญาโท ผมจึงเต็มไปด้วยความเศร้าและซึม
Hahari
อาจจะเป็นเพราะเช่นนั้น ที่ผมเริ่มหาอนิเมะตลกดู และเห็นว่า 100 Girlfriends ขึ้นมาใน Social Media ของผมเยอะขึ้น ผมจึงตัดสินใจให้โอกาสมัน และผมคิดถูกครับ ที่เลือกมาดู 100 Girlfriends มันช่วยให้ผมหายซึมได้ ผมกลับมาหัวเราะได้และลืมเรื่องอนาคตไปได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่อนิเมะเรื่องนี้อยู่บนจอผม ผมเสพติดมัน ผมหัวเราะเสียงดังกว่าทุกครั้ง ดังขนาดที่ว่าคนในบ้านน่าจะได้ยิน แม้ว่าห้องทำงานของผมจะไม่ติดกับของนอนใครนอกจากห้องตัวเอง
มันจึงเป็นอนิเมะที่ช่วยผมมากในช่วงเวลาที่ผมต้องการมากที่สุด มันจึงเป็นอนิเมะที่มีคุณค่าทางจิตใจของผมมาก ผมรู้สึกขอบคุณคนเขียนที่เขียนมังงะเรื่องนี้ ขอบคุณผู้สร้างที่สร้างอนิเมะเรื่องนี้ และขอบคุณตัวเองที่ยอมให้โอกาสมัน อาจจะซีเรียสไปหน่อย แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ และเฝ้ารอให้ซีซั่นสองเกิดขึ้น
ผมไปตามอ่านมังงะต่อทันทีเมื่ออนิเมะจบลง ไล่นั่งอ่านไปเรื่อย ๆ และจินตนาการว่าอนิเมะจะทำฉากเหล่านี้ในหน้าหนังสืออย่างไร คิดแล้วก็อดขำไม่ได้ เพราะมันบ้าคลั่งเหลือเกิน แต่ละมุก และละตอนมันบ้า ผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรนอกจาก นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย!
Rentaro the HIM
ผมอ่านมังงะอยู่หลายเรื่อง คิดว่าตัวเองก็ดูอนิเมะไม่น้อย แต่พอผมคิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับอนิเมะประจำปี 2023 ผมก็คิดว่าอนิเมะและมังงะอย่าง ฟรีเร็น คือ Masterpiece นอกจากนี้ One Piece เล่าเรื่องที่ยิ่งใหญ่ สร้างโลกที่กว้างขวาง ตัวละครที่น่าติดตาม โชเน็นหลาย ๆ เรื่องมีอนิเมชั่นชั้นยอดแบบตระการตา แต่ผมกลับไม่สามารถดึงความคิดหนึ่งออกจากหัวไปได้เลยครับ นั่นคือ:
100 Girlfriends who really, really, really, really, really love you is Peak Fiction. Thank you for listening to my TED Talk
100 Kanojo = PEAK
โฆษณา