28 ธ.ค. 2023 เวลา 02:58 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อินเดีย

ตลาดหุ้นอินเดียน่าลงทุนหรือไม่?📈

🌎ล่าสุด ณ ปัจจุบัน ประเทศอินเดียมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก ประมาณ 1,428 ล้านคน แซงหน้าประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเยอรมันนี เท่านั้น (GDP : 3.74 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งหากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดียเป็นไปตามการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆ ที่ระดับ 6 – 7% ต่อปี อีกไม่กี่ปีข้างหน้า พวกเขาจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกในอันดับที่ 3 นำหน้าญี่ปุ่นและเยอรมันนีอย่างไม่ยากเย็นนัก
✴️อินเดียมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาภายในประเทศ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอันดับที่ 9 ของโลก
✴️อินเดียมีรายได้จากการส่งออกถึง 7.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก
✴️อินเดียมีรายได้จากการผลิตและส่งออกสินค้า/บริการด้านไอที 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นอันดับที่ 2 ของโลก
✴️อินเดียนำเข้าสินค้าและบริการ 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มากเป็นอันดับที่ 7 ของโลก
📜‘S&P Global’ และ ‘Morgan Stanley’ คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจของประเทศอินเดียจะเติบโตจนแซงหน้าญี่ปุ่นและเยอรมันนี กระทั่งก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ในอีกไม่เกิน 10 ปีนับจากวันนี้ ประชากรชาวอินเดียอยู่ในวัยแรงงานถึงกว่า 875 ล้านคน (61% จากจำนวนประชากรทั้งหมด) และจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,000 ล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า อีกทั้งมีการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวถึง 56% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
งานวิจัยของ ‘Bain & Company’ กล่าวว่าภายในปี 2030 ประชากรชาวอินเดียมากกว่าครึ่งหนึ่งจะเป็นผู้มีรายได้ปานกลางค่อนสูง และเมื่อถึงวันนั้น ชาวอินเดียผู้มีรายได้ปานกลางทั้งหมดจะมีสัดส่วนถึง 25% ของกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางทั่วโลก
📊กลับมายังตลาดหุ้น ณ ปัจจุบัน ‘Nifty 50’ ถือเป็นดัชนีหลักของตลาดหุ้นอินเดีย ซึ่งรวมเอา 50 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดคำนวณจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมาไว้ด้วยกัน ‘Nifty 50 index’ ในช่วงระยะเวลา 20 ปีย้อนหลังมีการเพิ่มสูงขึ้นถึง 941% หรือเทียบเป็นอัตราผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ย 13.12% ต่อปี หากคุณเข้าลงทุนในดัชนีดังกล่าวนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้วก็นับว่าเป็นตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนอย่างงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
🏢บริษัทจดทะเบียนใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกในประเทศอินเดียจาก ‘Nifty 50 index’ สัดส่วนนั้นประกอบด้วยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน 27%, หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 10%, หุ้นกลุ่มพลังงาน 9%
🔹HDFC Bank (HDFCBANK) : 13.26%
🔹Reliance Industries (RELIANCE) : 9.11%
🔹ICICI Bank (ICICIBANK) : 7.42%
🔹Infosys (INFY) : 5.89%
🔹ITC (ITC) : 4.37%
🔹Larsen & Toubro Ltd (L&T) : 4.26%
🔹Tata Consultancy Services (TCS) : 4.05%
🔹Axis Bank (AXISBANK) : 3.38%
🔹Kotak Mahindra Bank (KOTAKBANK) : 2.93%
🔹Bharti Airtel (BHARTIARTL) : 2.90%
✅หากวันนี้เราสนใจลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย นอกจากการลงทุนทางตรงที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญค่อนข้างสูง นักลงทุนทั่วไปก็ยังมีทางเลือกที่จะลงทุนผ่านกองทุนรวมไทยที่มีนโยบายการบริหารจัดการแบบอ้างอิงดัชนีหลักๆของตลาดหลักทรัพย์อินเดีย (Passive Fund) ตามบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทั่วไปได้ หากแต่วันนี้เราจะมาแนะนำ 2 กองทุน ETF (Exchange Traded Fund) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย เผื่อว่ามีนักลงทุนท่านใดอาจถูกจริตกับการลงทุนเอง มีการกระจายความเสี่ยง และซื้อง่ายขายคล่องมากกว่ากองทุนรวมครับ
1️⃣ WisdomTree India Earnings Fund (EPI)
จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) มีนโยบายการบริหารกองทุนแบบเชิงรับ (Passive) อ้างอิงดัชนี ‘MSCI India Index’ ผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 10 ปีอยู่ที่ 139.61% หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนทบต้น 9.13% ต่อปี หุ้นอินเดียที่ถือครองเป็นสัดส่วนมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ
🔸Reliance Industries Ltd : 7.91%
🔸HDFC Bank Limited : 6.56%
🔸ICICI Bank Ltd : 5.12%
🔸Infosys Ltd : 4.97%
🔸Tata Consultancy Services Ltd : 2.92%
2️⃣ iShares MSCI India ETF (INDA)
จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) มีนโยบายการบริหารกองทุนแบบเชิงรับ (Passive) อ้างอิงดัชนี ‘MSCI India Index’ ผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 10 ปีอยู่ที่ 100.16% หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนทบต้น 7.19% ต่อปี หุ้นอินเดียที่ถือครองเป็นสัดส่วนมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ
🔸Reliance Industries Ltd : 8.06%
🔸Infosys Ltd : 5.35%
🔸ICICI Bank Ltd : 5.27%
🔸HDFC Bank Ltd : 4.84%
🔸Tata Consultancy Services Ltd : 3.61%
🇮🇳 ประเทศอินเดียไม่ว่าคุณจะมองในมุมไหน พวกเขาจะยังคงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกแห่งอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย สุดท้ายหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการลงทุน การค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือการอ่านเพื่อผ่อนคลาย ได้ไม่มากก็น้อย อย่าลืมศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และกระจายความเสี่ยงอยู่เสมอนะครับ สิ่งสำคัญมากที่สุดในโลกการลงทุนก็คือการตัดสินใจบนพื้นฐานความรู้และความเข้าใจของตนเองให้มากที่สุด เงินเราเอง รับผิดชอบเอง
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 😊
Investment Planner License: 130484
โฆษณา