Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
1 ม.ค. 2024 เวลา 12:16 • การ์ตูน
EP : 336 ล่ารักอาคากิ..... repost
ถ้าพูดถึงมังงะเรื่อง ฤทธิ์ดาบไร้ปราณี หรือBlade of the Immortal คนที่ได้อ่านก็จะรู้ดีว่าเรื่องนี้มีความดิบทางภาพและเนื้อเรื่องค่อนข้างสูง ส่งผลให้ชื่อของ อ. hiroaki samura นั้นเป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้างจนเป็นนักเขียนในดวงใจของใครหลายๆคนเลยนะครับ และหากใครทีเป็นแฟนงานของ อ. หรือติดตามผลงานของ อ. มาระดับนึงจะรู้ว่า อ. มักจะเขียนงานภาพออกมาเป็นแนว ero guro อยู่เสมอ
ซึ่งแนวนี้มันก็คือภาพวาดแนวโป๊เปลือยที่มีความแปลก วิปลาส ขยะแขยง รวมอยู่ในภาพเดียวกันพูดง่ายๆ ภาพโป๊อันรุนแรงเกินกว่าแนวปกติครับ ผลงานภาพวาดหลายภาพในแนวนี้ของ อ. มักมีให้เราเห็นอยู่เสมอ จนตัวผมเองติดภาพความรุนแรงในการนำเสนอของ อ. ไว้ในใจ หรือจะพูดให้เข้าใจกันง่ายๆว่า ผลงานของ อ. ในสายตาผมนั้น ดุ โหด เปลือย วิปลาส และแปลก นั่นคือสไตล์งานของ อ. ที่ผมขอสรุปออกมาครับ
แต่มันกลับมีงานของ อ. ที่ฉีกแนวกว่าที่ผมบอกเคยออกมาให้พวกเราได้อ่านกันครับ ฉีกแนวอย่างไรนะเหรอ ถ้าผมจะบอกว่ามันเป็นงานที่จะทำให้คุณเหวอแดก และปรับความคิดของคุณไม่ทัน หรือลบภาพผลงานในความคิดในหัวคุณไปอย่างสุดซอยเลยทีเดียว เพราะเรื่องที่ผมกำลังนำเสนอทุกท่านอยู่ ณ ตอนนี้เป็นผลงานของ อ. ที่กำลังพูดถึงความรักครับ ใช่ครับ ความรักของคนหนุ่มสาว ไม่นะครับ ไม่วิปริต แปลก ชวนอ๊วก หรือ รักลากไส้อะไรนะครับ รักแบบหนุ่มซิงไม่เคยมีแฟนนะครับ ใช่ครับ กับเรื่องนี้ครับ “ล่ารัก อาคากิ” เนี่ยแหล่ะครับ
ตั้งแต่ทีแรกที่ผมได้เห็นหน้าปกของเรื่องนี้พร้อมกับชื่อของ อ. ผมก็มีอาการงง ออกมาแล้วครับว่ามันใช่เหรอ ซึ่งถ้าผมไม่เผอิญมาเห็นว่าเป็นงานของ อ. บอกให้ตายยังไงผมก็ไม่เชื่อครับ หน้าปกมันไม่มีกลิ่นอายอะไรที่บ่งบอกเลยว่านี่คืองานของ ผู้วาดฤทธิ์ดาบไร้ปราณีที่ดิบได้ใจ หน้าปกการ์ตูนออกแนว ป๊อปอาร์ท แบบนี้มันควรจะเป็นผลงานของใครซักคนที่เราไม่รู้จักมากกว่านะครับ
และถ้าใครคิดว่านี่คือผลงานแรกๆของ อ. ก่อน ฤทธิ์ดาบไร้ปราณี จะเขียนออกมาละก็ เข้าใจผิดครับ นี่คือผลงานที่เขียนระหว่างออก ฤทธิ์ดาบไร้ปราณีครับ(1993-2012) เพราะเรื่องนี้เขียนและพิมพ์ออกมาในปี 2002 ครับ ทำให้ลายเส้นเรื่องนี้ตรงเป๊ะกับลายเส้นยุครุ่งเรื่องของ อ. ซึ่งเป็นลายเส้นในปัจจุบันแบบชัดเจนครับ
เพราะฉะนั้นก่อนที่ทุกท่านจะอ่านหนังสือเล่มนี้ อย่างแรกถอดจิต เฮ้ยถอดความคิดว่าข้างในเล่มนี้มันจะต้องโหดๆ ไปก่อนนะครับ เพราะตามที่ผมบอกว่านี่คือการ์ตูนแน รัก คอมเมดี้ หลุดๆเรื่องนึงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก เพราะการเล่าเรื่อง มุกตลก หรือ เนื้อหามันไม่ถึงกับตลาดจ๋าหรืออ่านง่ายนัก แต่แม้จะบอกอย่างนี้ แต่มันก็ยังเป็นการ์ตูนรักอยู่เพียงแต่มันมีสไตล์ที่แตกต่างจากการ์ตูนรักเรื่องอื่น หรือแนวทำนองนี้อยู่พอสมควรครับ
ในเล่มนี้มีเรื่องทั้งหมด 2 เรื่อง + กับ 1 เรื่องท้ายเล่มเกี่ยวกับ อ. เขาครับ ซึ่งไม่รู้ว่ามันเรียงเรื่องเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นหรือเป็นความตั้งใจหรืออย่างไรไม่รู้ครับ เพราะ 2 เรื่องหลักในเล่มนี้ เรื่องแรกก็คือเรื่อง ล่ารักอาคากิ ตามชื่อหนังสือซึ่งมีเนื้อหาทั้งหมด 5 ตอนด้วยกัน ที่ผมสังเกตอย่างนี้ก็เพราะ เรื่องที่ 2 ที่ต่อจาก “ล่ารักอาคากิ” นั้นคือเรื่อง “บันทึกแห่งน้ำตา” ครับ
ซึ่งเรื่อง บันทึกแห่งน้ำตานี้ เป็นเรื่องที่เขียนก่อน ล่ารักอาคากิครับทำให้ผมงงว่าทำไมไม่เรียงตามลำดับการเขียน และ มีอยู่หน้านึงในล่ารักอาคากิ ที่อ.เขียนบอกว่าที่เขียนล่ารักอาคากิ ออกมาก็เพราะเรื่อง บันทึกแห่งน้ำตา เรียกแรกนั้นเขียนออกมาแล้วคนอื่นชอบเลยเขียนอีกเรื่อง พอบอกอย่างนี้ก็เลยงงเข้าไปใหญ่ว่าทำไมเรียงเรื่องเป็นแบบนี้ครับ อันนี้แค่สงสัยเฉยๆครับ
“ล่ารักอาคาจิ” เป็นเรื่องราวของเด็กมหาลัยวัยใกล้จบและจบแล้วกลุ่มนึง โดยมีตัวเดินเรื่องหลักๆคือ หนุ่มโสดไม่เคยมีความรักอย่าง โทโนะ ผู้ซึ่งหลงรักสาวรุ่นพี่อย่าง อาคากิ แต่เธอดันมีแฟนอยู่แล้ว และเหมือนโชคช่วย ช่วงนี้แฟนของอาคากิ ต้องเดินทางไปกิจกรรมที่ต่างประเทศเลยเปิดโอกาสให้โทโนะสานสัมพันธ์
แต่โทโนะเป็นหนุ่มซิง ไม่มีความสามารถในด้านการจีบสาว แม้เขาจะโตมากับเพื่อนสาวพราวเสน่ห์อย่างโคะบารุคาว่า ซึ่งกำลังทำวงดนตรีกับเพื่อนๆอยู่และก็รุ่งมากเสียด้วย แล้วอย่างนี้ โทโนะ จะทำอย่างไรให้ครั้งนี้ได้หัวใจ อาคากิ มาครองละ เรามาช่วยลุ้นกันหน่อยนะครับ
ต้องบอกว่าแม้เรื่องนี้จะเป็นแนวรักโรแมนติกคอมเมดี้ แต่เป็นคอมเมดี้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากครับ ด้วยการเล่าเรื่องที่ไม่ต้องปูเนื้อหาอะไรมากนัก ผสมกับมุกตลกที่ค่อนข้างเร็ว ผสมกับที่มาที่ไปและเนื้อเรื่องที่ให้ความรู้สึกว่าพยายามจับโยงมารวมกันโดยไม่คำนึงถึงเหตุผลมากนักครับ ผลคือถ้าคนไม่เก็ท หรือเส้นลึก หรือจับที่มาที่ไปไม่ได้
คงมีหลายจังหวะที่คนอ่านจะไม่เข้าใจว่าตัวละครกำลังต้องการสื่อสารอะไรกับเราอยู่ครับ เนื้อเรื่องมันไม่ได้เหนือจริงหรืออะไรหรอกนะครับ แต่เป็นมุกและจังหวะต่างๆในเรื่องที่ไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จให้เราอ่านง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ และหัวเราะง่ายๆครับ
มีหลายจังหวะที่ผมกำลังงงกับการหยิบยกบางเหตุการณ์มาเล่าโดยตัวละครที่ดูเหมือนไม่ตลาดกันสุดๆครับ แต่มีการฝังมุกตลกในการเล่าเรื่องและการทำให้เรามีความรู้สึกแบบว่า เฮ้ย แบบนี้ก็ได้เหรอวะ ประมาณนั้นอยู่เยอะในเรื่องนี้ครับ ตัวผมนะเก็ทและขำอยู่หลายตอนนะครับ บางทีที่ขำก็เพราะตามที่บอกว่าอ่านแล้ว เฮ้ย ทำกันอย่างนี้กันเลยเหรอ แบบนั้นนะครับ
ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่แปลกในงานแบบนี้ครับ แต่พอเอาเหตุผลว่านี้คืองานของ อ. เขาก็พอจะเข้าใจเพิ่มขึ้นว่า โอเค เราไม่ได้อ่านงานของ อ. แนวนี้มาก่อน และ อ. เขาอาจมีแนวทางสไตล์เกี่ยวกับเรื่องรักที่อยากนำเสนอ ก็เป็นอะไรทำให้ผมพยักหน้าเห็นด้วยและขำออกมาในบางมุกได้ครับ
คราวนี้มากันที่อีกเรื่องนึงครับ สาวน้อยนักเขียนการ์ตูนพเนจร “บันทึกแห่งน้ำตา” เรื่องนี้ตามบทนี่คือเรื่องแรกในซีรีย์รักหวานแหว๋วที่ อ. เขียนออกมา แต่ถูกนำมาวางให้อ่านเป็นเรื่องที่ 2 และเรื่องนี้มีจำนวนตอนที่น้อยกว่า ล่ารัก อาคากิ ครับและเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักที่โครตไหลไปเรื่อยเลยครับ แม้จะบอกว่าเป็นเรื่องรักเหมือนกันแต่ผมมั่นใจว่าหากคุณดูชื่อตอนและอ่านหน้าแรกๆของเรื่องนี้ไปแล้ว คุณจะเดาตอนจบไม่ถูกแน่ๆครับ
บันทึกแห่งน้ำตา เป็นเรื่องราวของ นักนัทซึมิ ฟุนาบาชิ(นางเอก)อายุ 18 ปีที่เป็นนักเขียนให้กับ สนพ ผู้หญิง ฉบับนึง เธอเป็นอีกนักวาดที่ได้รับการยอมรับ แต่ด้วยการอ่อนประสบการณ์เรื่องความรัก บก ที่รับผิดชอบอยู่เลยแนะนำบางอย่างให้เธอไป ก่อนที่เธอจะทำตาม แต่ มันไม่ใช่แบบนั้น ข้ามเรื่องนี้ไป
และเพราะมุมมองที่เธอได้มาจากคำแนะนำที่โครตมีสาระของ บก ของเธอทำให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนสไตล์การวาดบางอย่าง ซึ่ง บก ท่านนี้ก็ฟันธงว่ารุ่งแน่ๆ แจ่มกว่าเดิม ไม่ผิดเลยที่แนะนำเธอไป แต่สรุปคนอ่านไม่ชอบ ยอดตก เธอถูกตัดจบ ออกจ๊าไม่มีเงินจนต้องออกจากบ้านเช่า และหลังจากนี้ชีวิตเธอจะหมุนเปลี่ยนไปอย่างที่เธอและคนอ่านคาดไม่คิดครับ
เรื่องนี้ต้องบอกว่าสไตล์การเล่าโดดเด่นมากครับ เนื้อเรื่องฉับไว นำเสนอสิ่งต่างๆของนางเอกได้อย่างตรงเป้าและแบบว่าโช๊ะๆๆๆ เลยประมาณนั้น เนื้อหาคาดเดาหน้าต่อไปไม่ได้เลย และมีความโดดเด่นมากเรื่องมุกตลกที่เล่นตลกไปกับชีวิตของนัทซึมิ คนนี้
ผมอ่านเรื่องนี้ไปแล้วนึกถึงหนังอยู่ 2 เรื่องโดยเรื่องแรกคือเรื่อง 37 Seconds (2019) ที่นึกถึงเรื่องนี้ก็เพราะตัวเอกของหนังเรื่องนี้เป็นนักวาดการ์ตูนผู้หญิงเหมือนกันแต่ต่างที่ในหนังเรื่องนี้เธอมีความพิการทางร่างกายและฉากที่เธอนำการ์ตูนเรื่องใหม่ไปเสนอกอง บก แห่งนึงซึ่งขายการ์ตูนติดเรทแต่โดน บก ที่รับการ์ตูนมาอ่านถามกลับไปหาเธอว่า เธอเคยมี sex หรือยัง
และบอกว่าให้เธอไปมี sex มาก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกันใหม่ ซึ่งในการ์ตูนเรื่องนี้ นัทซึมิ ก็โดนพูดทำนองนี้จาก บก เหมือนกัน เพียงแต่ ในหนัง 37 นั้นนั่นเป็นประเด็นใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตและมุมมองเธอ แต่ในเรื่องนี้เหมือนเป็นโจ๊กซะมากกว่า แต่ท้ายสุดนั่นก็นำความเปลี่ยนแปลงมาให้กับเธอชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
หนังอีกเรื่องที่ผมรู้สึกได้เลยว่ามันเปรียบเทียบและมีสไตล์การเล่าเรื่องแบบเดียวกันนั่นก็คือเรื่อง Memories of Matsuko (2006) ซึ่งหากใครได้ดูเรื่องนี้แล้วจะบอกว่ามันจะคล้ายๆกับเรื่องนี้ ที่ในหนังเราจะไม่รู้ว่าตัวเอกต้องไปเจออะไรบ้าง และเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้น การดำเนินเรื่องในการ์ตูนจะพาเราไปเจอสิ่งที่ นัทซึมิ ต้องเจอไปเรื่อยๆ โดยที่เราไม่คาดคิดว่า เธอจะได้ไปอยู่ตรงนั้น เพราะแบบนั้น และคนรอบๆตัวเธอที่พาเธอไปก็สุดโต่งกันหลายๆอย่างมากครับ เรื่องมันถึงเตลิดกันไปขนาดนั้น
ผมชอบเรื่อง บันทึกแห่งน้ำตามากนะครับ อ่านสนุกมาก เนื้อหาไม่เยอะ แต่พาเราไปถึงจุดปลายทางได้อย่างดี ตอนจบออกมาได้ดีเลยครับ อาจไม่หวือหว๋ามากแต่ฉากจบที่ดีไซน์ด้วยการกรทำบางอย่างแบบนี้ผมว่ามันลงตัวของตัวมันเองดีครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมมองว่าเรื่องนี้อ่านสนุกกว่า และมุกเข้าใจง่ายกว่า ล่ารัก นะครับหรือเพราะผมอ่าน ล่ารัก มาก่อนทำให้ปรับตัวในการเข้าถึงการเล่าเรื่องแบบนี้และมุกแบบนี้ได้ดีขึ้นก็ไม่รู้ครับ
ล่ารักอาคากิ เป็นการ์ตูนเล่มเดียวจบ LC ของ สยามอินเตอร์คอมมิค ครับ ออกมาปี 2550 ตอนนี้ต้องหามือสองอ่านอย่างเดียวแล้วแหล่ะครับ โดยสรุปนี้คือมังงะเล่มเดียวจบที่สร้างมุมมองงานของ อ. เขาที่แปลกไปกว่าที่ผมเคยอ่านครับ ไม่เคยคาดคิดว่า อ. จะวาดอะไรแบบนี้เป็นตอนๆ ไม่ใช่แทรกในมังงะของ อ. ได้ ยิ่ง อ. เป็นสายโหดๆแล้วมาใช้มุกอะไรแบบนี้แล้วมันสร้างความแตกต่างได้มากครับ
ยิ่งเรื่อง บันทึก นี่ผมยอมใจแกจริงๆ ทุกอย่างลงตัวแบบคาดเดาไม่ได้ เดาไม่ออกว่าจุดเริ่มต้นแบบนี้จะลงท้ายไปอย่างไร ถือว่าเป็นการ์ตูนที่อ่านสนุกครับ แนะนำเลยต่อให้ไม่ใช่แฟน อ. แต่ถ้าชอบความสดใหม่ละก็เล่มนี้ตอบโจทย์ ขอแค่คุณอ่านหน้าแรกๆ ของเล่มนี้ไปได้ก่อนรับรองติดลมครับ
ภาพ 8.7/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 9/10
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวเบาสมอง #การ์ตูนแนวดราม่า #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวรัก #9คะแนน #ล่ารักอาคากิ #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค #เล่มเดียวจบ #การ์ตูนแนวรวมเรื่องสั้น #เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย