4 ม.ค. เวลา 12:37 • กีฬา

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค นักเตะอัจฉริยะที่ชีวิตตกอับเพราะย้ายผิดทีม

ใครจะไปคิดว่า เด็กอัจฉริยะอย่างดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค จะกลายเป็นส่วนเกินของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนแทบไม่ได้เล่นฟุตบอลมา 3 ฤดูกาลเต็มๆ
ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2018-19 อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมคือทีมที่แข็งแกร่งสุดๆ นักเตะแต่ละคนในชุดนั้น กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ทั้งสิ้น ไม่แปลกใจที่พวกเขาจะทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จ
มาไธจ์ส เดอ ลิกต์ , เฟรงกี้ เดอ ยอง, อันเดร โอนาน่า, ดูซาน ทาดิช, ฮาคิม ซิเย็ค ฯลฯ แต่ละคนเก่งๆ ทั้งนั้น
นักเตะอีกหนึ่งคนที่สำคัญมากกับทีม เป็นผู้เล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ คอยสร้างสรรค์เกม มีชื่อว่า ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค
ฟาน เดอ เบ็ค เป็นนักเตะที่เก่งกาจมาก เขาคือเด็กปั้นจากอะคาเดมี่ของอาแจ๊กซ์โดยตรง ตำแหน่งถนัดที่สุดคือมิดฟิลด์ตัวรุก แต่ถอยไปยืนมิดฟิลด์ตัวรับได้ ในสมัยเยาวชน โยฮัน ครัฟฟ์ ตำนานของอาแจ๊กซ์กล่าวชื่นชมว่า นี่คือดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์รอบทิศ
ในสมัยอยู่อาแจ๊กซ์ ผู้จัดการทีม เอริค เทน ฮาก รู้ว่าจะใช้งานฟาน เดอ เบ็คยังไง หลายๆ ครั้ง ตอนดูซาน ทาดิช ถอยต่ำลงมาเล่นฟอลส์ไนน์ ตัวฟาน เดอ เบ็ค จะดันเข้าไปในเขตโทษเพื่อจบสกอร์
สื่ออังกฤษ เปรียบเทียบสไตล์ของฟาน เดอ เบ็ค ว่าคล้ายคลึงกับแฟรงค์ แลมพาร์ด คือเหมือนจะเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง แต่ตอนเล่นจริงๆ จะสอดเข้าไปยิงประตูได้บ่อยๆ
ในที่สุด เดือนสิงหาคม 2020 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่ายเงิน 35 ล้านปอนด์ ซื้อมาจากอาแจ๊กซ์ ณ เวลานั้นฟาน เดอ เบ็ค อายุ 23 ปี ดูทิศทางแล้ว น่าจะใช้การได้อีกนานหลายปี ราคาแค่นี้ ไม่แพงเลย
2
แต่ไม่ใช่ทุกคน ที่จะเห็นชอบกับการย้ายทีมครั้งนี้ หลุยส์ ฟาน กัล บอกว่า "ผมไม่คิดว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นตัวเลือกที่ดีนัก เพราะถ้าคุณมีพอล ป็อกบา กับ บรูโน่ เฟอร์นันเดสอยู่ในทีม แล้วฟาน เดอ เบ็ค จะไปเล่นตรงไหน เอาจริงๆ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์นะ ผมเชื่อว่ายังมีอีกหลายทีม ที่น่าจะเหมาะกับเขามากกว่านี้"
3
-----------------
[ ฤดูกาลที่ 1 ของฟาน เดอ เบ็ค กับแมนฯ ยูไนเต็ด 2020-21 ]
ฟาน เดอ เบ็ค ย้ายมาด้วยความคาดหวัง แต่ดูเหมือนคำพูดของหลุยส์ ฟาน กัล จะแม่นยำจริงๆ เมื่อโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่คิดจะใช้งานเขา
โซลชา มีแผนในใจอยู่แล้ว คือ 4-2-3-1 มิดฟิลด์ตัวกลางสองคน เขาชอบสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด หรือไม่ก็พอล ป็อกบา ขณะที่มิดฟิลด์ตัวรุก ก็เป็นบรูโน่ เฟอร์นันเดส เท่ากับฟาน เดอ เบ็ค แทบไม่มีโอกาสลงสนามเลย เพราะไม่สามารถสอดแทรกผู้เล่นที่โซลชาชื่นชอบได้
จากที่เคยลงเล่นทุกนัด ทุกถ้วย กับอาแจ๊กซ์กลายมาเป็น ตัวสำรองที่ไม่ค่อยได้เล่น ฟอร์มก็หล่น ความมั่นใจก็ร่วง
1
ฟาน เดอ เบ็ค ได้ลงเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีก แค่ "4 นัดเท่านั้น"
ตั้งแต่เล่นฟุตบอลอาชีพมา ถ้าไม่นับปีแรกสุดที่เล่นกับอาแจ็กซ์ตอนอายุ 18 นี่คือปีที่ ฟาน เดอ เบ็คได้เล่นฟุตบอลน้อยที่สุดแล้ว
พอล ปาร์กเกอร์ อดีตนักเตะปีศาจแดง วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนถึงโซลชา ว่าไม่รู้จะไปยึดมั่นกับการใช้มิดฟิลด์ตัวสายเกมรับ 2 คนทำไมบ่อยๆ พวก เฟร็ด หรือ แม็คโทมิเนย์ ทำไมส่งฟาน เดอ เบ็ค เล่นร่วมกับบรูโน่ไม่ได้
ถ้าไปดูตารางคะแนนในฤดูกาล 2020-21 แมนฯ ยูไนเต็ดฟอร์มแย่จะตาย อยู่อันดับ 8 ในลีก แทนที่จะเปลี่ยนแนวทาง เอากองกลางที่เล่นเกมบุกดีๆ มาช่วยกันปั้นเกมกับบรูโน่ หรือแรชฟอร์ด แต่เลือกจะปล่อยฟาน เดอ เบ็ค ให้นั่งแกร่วข้างสนามตลอดปีเฉยเลย
การที่โซลชาหมางเมิน ไม่เชื่อใจ ฟาน เดอ เบ็ค ไม่ใช่เรื่องที่ผู้คนคิดกันไปเอง ตัวอย่างเช่น ในยูโรป้าลีกนัดชิงชนะเลิศ ที่เจอบียาร์เรอัล สามารถเปลี่ยนตัวได้ 5 คนแท้ๆ โซลชายังเลือกคนอื่นๆ โดยไม่ให้โอกาสฟาน เดอ เบ็ค ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียว ทั้งๆ ที่โซลชาเองก็รู้ว่า ฟาน เดอ เบ็ค มีประสบการณ์ที่ดีในเกมยุโรป
2
พอคุณไม่ได้เล่นกับสโมสร จะให้โค้ชทีมชาติ เรียกตัวติดทีมก็ไม่ได้อีก ในยูโร 2020 (แต่แข่งปี 2021) ฟาน เดอ เบ็ค จึงหลุดทีมอย่างน่าเจ็บใจ ถ้าเขาอยู่อาแจ๊กซ์ต่อล่ะก็ ยังไงก็ติดทีมแน่ๆ
2
1 ปีที่ผ่านมา ฟาน เดอ เบ็ค ทรมานมาก เพราะเขาต้องจากบ้านเกิด จากครอบครัว มาอยู่ในอังกฤษคนเดียวช่วงที่มีการล็อกดาวน์โควิดพอดี แถมในสนามก็โดนมองข้ามอีก
-----------------
[ ฤดูกาลที่ 2 ของฟาน เดอ เบ็ค กับแมนฯ ยูไนเต็ด 2021-22 ]
หลังจากผ่านฤดูกาลที่น่าเจ็บช้ำ ก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ โซลชาให้คำมั่นสัญญากับฟาน เดอ เบ็คว่า ปีนี้ล่ะ จะให้ลงเล่นมากขึ้นชัวร์ๆ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถรักษาคำพูดได้
ตัวหลักของทีมยังคงเป็น ป็อกบา, แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด และ บรูโน่ เช่นเดิม นอกจากนั้นยังมีเนมานย่า มาติช มาสอดแทรกตำแหน่งอีกในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยโซลชาบอกว่า "ก็มาติชเป็นผู้เล่นที่ทำผลงานดีที่สุดตอนปรีซีซั่น เราก็ไม่มีทางเลือก"
2
12 เกมแรกของฤดูกาล 2021-22 ฟาน เดอ เบ็ค ได้ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีก 0 นัด ทั้งๆ ที่ร่างกายสมบูรณ์ ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ไม่ได้โอกาสลงสนาม
เมื่อโดนดองบ่อยเข้า นี่เป็นครั้งแรกที่ฟาน เดอ เบ็ค ออกอาการไม่พอใจ โซลชาบอกว่า "ดอนนี่ไม่แฮปปี้ แต่เขาทำให้ผมย้อนคิดถึงตัวเอง เวลาถูกเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จับเป็นสำรอง คือถ้าสุดท้ายทีมชนะ ผมเองก็ร่วมดีใจด้วย ซึ่งดอนนี่เป็นคนประเภทนั้น"
1
หลังจากผ่านไป 12 เกมแรกของซีซั่น โซลชาโดนไล่ออก สโมสรแต่งตั้งไมเคิล คาร์ริก คุมทีมเฉพาะกิจ 2 นัด ก่อนส่งไม้ต่อให้ราล์ฟ รังนิก
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ทั้งคาร์ริก และ รังนิก ไม่มีใครใช้งาน ฟาน เดอ เบ็ค เป็นตัวจริงแม้แต่เกมเดียว คือเปลี่ยนโค้ชก็แล้ว ก็ยังไม่ถูกใช้
1
คำถามคือ ฟาน เดอ เบ็คไม่เก่งพอ สู้คนอื่นไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือ กับผู้เล่นที่พาอาแจ๊กซ์เข้ารอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกมาแล้วเนี่ยนะ?
พอล เฮิร์สต์ นักข่าวจากเดอะ ไทม์ส รายงานว่าปัญหาหลักไม่ได้อยู่ที่เรื่องฝีเท้า แต่อยู่ที่เรื่องคาแรคเตอร์ "สตาฟฟ์ของแมนฯ ยูไนเต็ด รู้สึกว่าดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ไม่มีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับแรงกดดันกับการเล่นทีมใหญ่ได้ ส่วนตัวฟาน เดอ เบ็คเองก็รู้สึกช็อก ที่ถูกปฏิบัติแบบนี้"
นักข่าวบางคนบอกว่า ฟาน เดอ เบ็ค ไนซ์เกินไป ดูซอฟต์เกินไป ไม่ดิ้นรนเรียกร้อง เพื่อให้ตัวเองเป็นตัวจริงให้ได้ พอเป็นแบบนั้น ก็เลยโดนมองข้ามไปบ่อยๆ มีคนบอกว่าถ้าเล่นกับทีมใหญ่ คุณต้องแสดงแพชชั่นออกมาให้เยอะที่สุด เป็นคนใจดีมันไม่พอ
1
สุดท้ายเมื่อรังนิกไม่ใช้ ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องส่งฟาน เดอ เบ็ค ให้เอฟเวอร์ตันยืมตัวในครึ่งฤดูกาลที่เหลือ
ช่วงแรกๆ ฟาน เดอ เบ็คได้ลงตัวจริงติดๆ กัน แต่ก็มาโชคร้าย ได้รับบาดเจ็บต้นขา พักยาว 2 เดือน พอหายกลับมาปั๊บ ก็ปิดฤดูกาลแล้ว เอฟเวอร์ตันจึงส่งตัวคืนกลับมาให้ปีศาจแดง
-----------------
[ ฤดูกาลที่ 3 ของฟาน เดอ เบ็ค กับแมนฯ ยูไนเต็ด 2022-23 ]
ทีมปีศาจแดงแต่งตั้งเอริค เทน ฮาก เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ นี่เหมือนสวรรค์มาโปรด เพราะเทน ฮาก คือคนที่ปลุกปั้นฟาน เดอ เบ็คให้โด่งดัง ดังนั้นก็น่าจะมีคู่มือการใช้ติดมือมาด้วย
สัญญาณดีๆ คือ ฟาน เดอ เบ็ค ได้ลงสนามบ้าง มีตัวจริงสอดแทรกบางนัด แต่ทว่ากลับโชคร้าย 2 หนติดกัน เริ่มจากเป็นโรคงูสวัด ลงเล่นไม่ได้ 6 เกม จากนั้นพอหายมาปั๊บ ในเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ด เจอบอร์นมัธ เขาได้ลงตัวจริง แต่มาโดนมาร์กอส เซเนซี่ เสียบใส่อย่างหนักจนเข่าบิด
ฟาน เดอ เบ็ค ร้องไห้ตอนโดนหามออกจากสนาม เพราะเข่าบิดแบบนี้ แปลว่าเขาต้องพักยาวทั้งฤดูกาล
1
ชะตาชีวิตของฟาน เดอ เบ็ค อุตส่าห์จะมีโชคแล้วแท้ๆ ที่ได้เทน ฮาก มาคุมทีม ถ้าหากเขาเล่นดีต่อเนื่อง ก็อาจยึดตัวจริงได้ แต่ดันมาโดนเสียบจนเจ็บหนักเล่นไม่ได้นานหลายเดือน คุณภาพฝีเท้าของเขาจึงหยุดการพัฒนาอีกครั้ง
-----------------
[ ฤดูกาลที่ 4 ของฟาน เดอ เบ็ค กับแมนฯ ยูไนเต็ด 2023-24 ]
ในช่วงซัมเมอร์ ฟาน เดอ เบ็ค เร่งความฟิตของตัวเอง จนหายสมบูรณ์ สามารถเล่นปรีซีซั่นได้ และเขาก็มีผลงานน่าประทับใจ ด้วยการยิงประตูชัยให้แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ โอลิมปิก ลียง 1-0
แต่พอเริ่มฤดูกาล ทุกอย่างก็เข้าอีหรอบเดิม คือ ไม่ถูกส่งลงสนาม เขาโดนตัดทิ้งแบบงงๆ เหมือนเป็นส่วนเกินของทีม
คำถามคือ ฟาน เดอ เบ็คไปทำอะไรผิด เขาก็ตั้งใจซ้อม และดูเข้ากับเพื่อนๆ ได้ ไม่ใช่ Toxic ในทีม นอกจากนั้น ก็ไม่เคยทำอะไรผิดกฎหมาย คือนึกไม่ออกจริงๆ ว่าทำไม ถึงโดนมองข้ามขนาดนั้น
สื่ออังกฤษวิเคราะห์กันว่า จุดแข็งของฟาน เดอ เบ็ค คือการเล่นฟุตบอลกับทีม ที่เน้นการครองบอลเยอะๆ แบบอาแจ๊กซ์ เล่น Possession Game แต่ไม่เหมาะกับทีมที่เล่นเกมโต้กลับเร็วแบบแมนฯ ยูไนเต็ด ดังนั้น ต่อให้เทน ฮาก จะชอบฟาน เดอ เบ็ค แต่ก็ไม่รู้จะใช้งานตรงไหนอยู่ดี
1
และด้วยการหยุดเล่นฟุตบอลไปเกือบ 3 ปี ทำให้ฟอร์มตกไปเยอะ พอมาเทียบตำแหน่งกองกลางตัวรุก ก็สู้บรูโน่ไม่ได้ ไปชนกับกลางรับ ก็สู้คาเซมิโร่ หรือแม็คโทมิเนย์ไม่ได้ สุดท้ายไม่รู้จะหยิบใช้อย่างไร
1
สรุปแล้ว ตลอด 19 นัดในพรีเมียร์ลีก ฟาน เดอ เบ็ค ฤดูกาลนี้ ฟาน เดอ เบ็คได้ลงเล่น 2 นาทีถ้วน ในเกมที่แพ้คริสตัล พาเลซ คาบ้าน 1-0 แต่เกมที่เหลือจากนั้น ไม่เคยได้สัมผัสเกมอีกเลย
1
ถึงตรงนี้ฟาน เดอ เบ็คก็รู้แล้วว่า เขาต้องไป อยู่ต่อกับแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว
3
ยูโร 2024 จะเริ่มขึ้นหลังจบฤดูกาลนี้ ถ้าหากเขาย้ายทีม แล้วเร่งฟอร์มแบบสุดๆ ได้ล่ะก็ อาจมีปาฏิหาริย์ ถูกเรียกติดทีมก็ได้ใครจะรู้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าอยู่แมนฯ ยูไนเต็ดต่อ ก็ไม่มีหวัง
-----------------
[ อำลาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ]
บทสรุปคือ ฟาน เดอ เบ็ค ตัดสินใจย้ายทีมแบบยืมตัว ไปแฟรงค์เฟิร์ต ในบุนเดสลีกาเยอรมัน โดยมีอ็อปชั่นซื้อขาดอยู่ที่ 12.1 ล้านปอนด์ เรียกได้ว่าขาดทุนจากที่ซื้อมากับอาแจ๊กซ์ แบบสะบั้นเลยทีเดียว
แต่ในมุมของแมนฯ ยูไนเต็ด เก็บไว้ก็ไม่ได้ใช้ ปล่อยให้ยืมดีกว่า อย่างน้อยก็ลดค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 120,000 ปอนด์ลงไปได้
เรื่องราวตลอด 3 ฤดูกาลครึ่ง ของฟาน เดอ เบ็คกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ยุติลงตรงนี้ เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง ในเกมพรีเมียร์ลีก ทั้งหมด "6 นัด" เท่านั้น เป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก กับนักเตะที่มีค่าตัว 35 ล้านปอนด์
และถ้ามองในแง่การซื้อขาย นี่เป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของทุกฝ่าย
ฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด เสียเงิน เสียทอง มหาศาล ค่าตัว 35 ล้านปอนด์ บวกค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 120,000 ปอนด์ น่าเจ็บใจที่สุดท้ายไม่สามารถใช้งานอะไรได้เลย ลองคิดเล่นๆ ถ้าเอาเงินก้อนนี้ บวกค่าตัวเจดอน ซานโช่ ก็เอาไปซื้อ ดีแคลน ไรซ์ หรือ จู๊ด เบลลิงแฮมได้แล้วนะนั่น
ขณะที่ฝั่งฟาน เดอ เบ็ค ก็ได้บทเรียนชีวิตเช่นกันว่าเวลาจะเลือกย้ายทีม ต้องพิจารณาดีๆ ว่าสโมสรนั้นให้โอกาสตัวเองลงสนามมากแค่ไหน แล้วระบบการเล่น มันเอื้อกับทักษะของตัวเองหรือเปล่า คู่แข่งของตัวเองในตำแหน่งเดียวกันคือใคร ฯลฯ มีเรื่องให้ต้องคิดหลายมุมมากๆ
1
การตัดสินใจย้ายเพื่อไปทีมที่ใหญ่ขึ้น หรือเอาเงินที่มากขึ้น อาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุดก็ได้ ซึ่งมันน่าเสียดาย ว่าฝีเท้าที่กำลังจะพุ่งทะยาน ต้องมาหยุดชะงักเอาแบบนี้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทุกอย่างก็ชัดเจนแล้ว ทุกคนต้องมูฟออนกันไป
ฟาน เดอ เบ็ค ต้องลืมทุกอย่างที่ผ่านมา แล้วพยายามกอบกู้ชื่อเสียงของเขาคืนมาให้ได้อีกครั้ง คิดในแง่ดี ยังไงซะ เขาก็เพิ่งอายุ 26 ปี ยังมีเวลาพิสูจน์ตัวเองอยู่เยอะ เส้นทางนักฟุตบอลยังไปต่อได้ ไม่จบสิ้นแค่นี้แน่นอน
และการย้ายไปแฟรงค์เฟิร์ตครั้งนี้ เขาจะได้ตอบคำถามในใจตัวเองได้ด้วย ว่าสุดท้าย เขาเองที่ไม่เก่งพอ หรือจริงๆ แค่อยู่ผิดที่เท่านั้น
โฆษณา