ทีมชาติไทย ประเทศที่เตรียมตัวน้อยที่สุดในเอเชียนคัพครั้งนี้
ไม่ได้พูดเกินเลย ถ้าจะบอกว่า ชาติที่เตรียมพร้อมน้อยที่สุดในเอเชียนคัพครั้งนี้ คือทีมชาติไทย เพราะจนถึงป่านนี้เรายังไม่รวมตัวซ้อมกันเลย ทั้งๆ ที่อีก 10 วัน ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดของเอเชียจะเริ่มแข่งขันแล้ว
มีหลายเรื่องมาก ที่เป็นปัญหา จนผู้คนไม่เข้าใจว่า เราจัดการได้ดีที่สุดแค่นี้เองหรือ?
เรื่องแรก ตามคอมม่อนเซนส์ของทีมชาติทั่วไป ถ้าคุณต้องไปแข่งในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ต่างบ้านต่างเมือง คุณต้องไปเก็บตัวสักระยะที่ประเทศนั้น หรือประเทศใกล้เคียงก่อน เพื่อให้นักเตะปรับตัวกับอากาศ และไทม์โซนได้
ในเอเชียนคัพครั้งนี้ก็เช่นกัน ถ้าไม่นับทีมชาติตะวันออกกลาง ที่เดินทางเข้ากาตาร์ง่ายๆ ชาติอื่นๆ ยกเว้นประเทศไทย ต่างวางแผนไปเก็บตัวกันเนิ่นๆ อย่างน้อยต้องเกิน 1 สัปดาห์
- ญี่ปุ่น เต็งหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ บินถึงกาตาร์ วันที่ 5 มกราคม พวกเขามีเวลาเก็บตัว 9 วัน ก่อนที่จะแข่งนัดแรกกับเวียดนาม วันที่ 14 มกราคม
- เกาหลีใต้ บินไปอาบูดาบี ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม เพื่อปรับตัวกับภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนจะบินเข้ากาตาร์ โดยแข่งนัดแรกกับบาห์เรน วันที่ 15 มกราคม
- ออสเตรเลีย บินไปอาบูดาบี ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม
- อุซเบกิสถานบินเข้ากาตาร์เลยตั้งแต่ 2 มกราคม
- อินเดียคือทีมแรกสุดที่ไปถึงกาตาร์ ไปตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม
- ทีมที่เราจะเจอนัดแรก คีร์กีซสถาน บินไปเก็บตัวที่ดูไบ ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมแล้ว พวกเขาเก็บตัวในตะวันออกกลาง 1 เดือนเต็มๆ เพื่อให้พร้อมที่สุด ก่อนจะเจอไทยนัดแรก
ส่วนชาติในอาเซียน เดินทางถึงกาตาร์ แล้ว 2 ทีมคือ มาเลเซีย (2 มกราคม) และ เวียดนาม (5 มกราคม)
ขณะที่อินโดนีเซีย พวกเขาไปเก็บตัวที่ตุรกีตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม โดยเหตุผลที่เลือกตุรกี เพราะไทม์โซนเดียวกับกาตาร์ นักเตะสามารถปรับจูนนาฬิการ่างกายได้ ยังไงก็ดีกว่าเก็บตัวอยู่ที่บ้านตัวเองแน่ๆ เพราะเวลาที่อินโดนีเซีย เร็วกว่ากาตาร์ 4 ชั่วโมง
เราจะเห็นเลยว่า ทุกทีมให้ความสำคัญกับการไปเก็บตัวอย่างมาก สมาคมแต่ละประเทศให้เวลาโค้ชในการเตรียมตัวและหาแผนการเล่นที่ดีที่สุด เพราะนี่คือทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่สุดของทวีป แข่ง 4 ปีครั้ง ถ้าคุณทำเป็นเล่น ประมาทคู่ต่อสู้ ไม่มีวันหรอกที่จะเอาชนะได้
เอาเป็นว่า ทีมชาติทั้งหมด ให้ความสำคัญกับการเก็บตัวมากๆ ยกเว้น ประเทศไทยของเรา
โปรแกรมทีมชาติไทย จะอยู่ที่ไทยไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 11 มกราคมค่อยบินไปกาตาร์ โดยเราจะแข่งนัดแรกกับคีร์กีซสถาน วันที่ 16 มกราคม หรือว่าง่ายๆ มีเวลาให้นักเตะได้ปรับตัวกับอากาศ และ ไทม์โซน แค่ 5 วันเท่านั้น
ไทยคือทีมที่จะเดินทางเข้าตะวันออกกลาง ช้าที่สุดในบรรดา 24 ทีมที่ร่วมแข่งขัน คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมประเทศไทย มันถึงทำแบบที่สากลโลกเขาทำกันไม่ได้
ไม่ดูญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย หรือไง ทีมระดับนั้นเขายังเดินทางไปล่วงหน้าตั้งหลายวัน ทั้งๆ ที่เขาเก่งกว่าเราตั้งเยอะ
อีกประเด็นหนึ่งคือ "โปรแกรมอุ่นเครื่องก่อนทัวร์นาเมนต์" เราเตะกับญี่ปุ่น วันที่ 1 มกราคม จากนั้นก็จบ ไม่มีนัดอื่นอีกแล้ว ทั้งๆ ที่ประเทศอื่น เขามีโปรแกรมกันแทบจะทั้งนั้น
เวียดนาม อุ่น คีร์กีซสถาน, อินโดนีเซีย อุ่น อิหร่าน, เกาหลีใต้ อุ่น อิรัก, มาเลเซีย อุ่น ซีเรีย ฯลฯ แต่ละประเทศ เลือกอุ่นเครื่องกับทีมที่คล้ายๆ กับคู่แข่งในกลุ่มของตัวเอง
ไทย จะเจอกับ คีร์กีซสถาน (เอเชียกลาง), โอมาน และ ซาอุดิอาระเบีย (เอเชียตะวันตก) แต่เราไม่มีโปรแกรมอุ่นเครื่องกับทีมเหล่านี้เลย แต่เราเลือกอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติไทยชุด u-23 เตะกันเองภายในว่างั้นเถอะ
ถ้าเราเจอทีมจากอาเซียนก็ว่าไปอย่าง ซ้อมกับรุ่นน้อง u-23 ก็ดูสมเหตุสมผล แต่นี่ก็ไม่ใช่เสียหน่อย ถามว่ามันจะได้ประโยชน์อะไรจากเกมนัดนี้?
ยิ่งเห็น ก็ยิ่งไม่เข้าใจจริงๆ ว่าบริหารกันยังไง ฟุตบอลไทยถึงได้เละเทะขนาดนี้ ลืมไปหรือเปล่าว่า เอเชียนคัพ คือรายการใหญ่ที่สุดของเอเชีย เป็นรายการที่ได้ฟีฟ่าเวิลด์แรงกิ้ง เป็นรองแค่ฟุตบอลโลกเท่านั้น
ถ้าคุณจะเก็บตัวกับทัวร์นาเมนต์ไหนนานๆ สัก 10 วัน มันควรเป็นรายการนี้ ไม่ใช่คิงส์คัพ ไม่ใช่ซีเกมส์ ไม่ใช่ AFF คือลำดับความสำคัญไม่ถูกกันเลยหรือ
แล้วที่สำคัญไม่เห็นใจเฮดโค้ชอย่างมาซาทาดะ อิชิอิ กันเลยรึไง เข้ามาคุมทีมได้แค่เดือนเศษ ได้เล่นกับญี่ปุ่นนัดเดียว แต่ไม่มีเวลาเตรียมพร้อมให้เขาเลย เวลาซ้อมยังแทบไม่มี แบบนี้คือคุณส่งเขาไปตายในเอเชียนคัพหรือเปล่า
มาสู่คำถามต่อไปว่า แล้วทีมชาติไทยทำอะไรอยู่ ทำไมเราไม่บินไปเร็วๆ เหมือนประเทศอื่นล่ะ
คำอธิบาย คือ เพราะเรามีเกมตกค้างไทยลีก ระหว่างแบงค็อก ยูไนเต็ด กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 6 มกราคม (วันนี้)
แบงค็อก กับ บุรีรัมย์ มีนักเตะทีมชาติรวม 8 คน ดังนั้นสมาคมต้องการให้เกมลีกนัดตกค้างเตะจบก่อน ทุกทีมแข่งครบ 15 นัด จากนั้นค่อยรวมตัวกันแล้วบินไปกาตาร์พร้อมๆ กัน กับผู้เล่นทีมอื่น
โปรแกรมของแบงค็อก กับ บุรีรัมย์ ถูกเลื่อนมาตั้งแต่ไทยลีกนัดที่ 6 วันที่ 29 กันยายน เพราะว่าฝนตกหนักที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต แต่สุดท้ายไทยลีกหาช่องลงไม่ได้ ต้องเลื่อนมาแข่งขันกันในวันที่ 6 มกราคมเท่านั้น ถ้าไม่แข่ง ก็จะปิดเลกแรกไม่ได้ เพราะค้างอยู่คู่เดียว
คำถามคือ มันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า ไม่มีเวลาขนาดนั้นเลยจริงๆ หรือ?
คำตอบคือ มันมีสล็อตเวลา ที่สองทีมนี้จะแข่งขันได้ เช่น เบรกทีมชาติรอบเดือนตุลาคม ที่ไทยแพ้จอร์เจีย 8-0 ในช่วงนั้น ทีมชาติไม่เรียกตัว นักเตะบุรีรัมย์ และแบงค็อก แม้แต่คนเดียว
ไหนๆ ก็ไม่ไปเตะทีมชาติแล้ว ทำไมวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ว่างอยู่ขนาดนั้น ทั้งคู่ไม่แข่งกันเองไปเลย คือทางฟีฟ่าไม่ได้ห้ามนะ ว่าสโมสรห้ามแข่งในช่วงฟีฟ่าเดย์ ที่อังกฤษ ลีกวัน ลีกทู ก็เตะกันในวีกฟีฟ่าเดย์เป็นปกติ คือถ้าจับแบงค็อก กับ บุรีรัมย์เจอกันไปเลยตั้งแต่ตอนนั้น ก็ไม่เหลือเกมตกค้างแล้ว
หรือถ้าคิดวางแผนให้ดีกว่านั้นอีก ไทยลีกปีนี้ นัดแรกสุดแข่งวันที่ 11 สิงหาคม เรา "เลื่อนขึ้น" สักวีกนึงได้ไหม ไปเริ่มวันที่ 4 สิงหาคมแทน เราก็จะได้ gap เวลามาเพิ่ม 1 สัปดาห์ สำหรับเหตุฉุกเฉินแบบนี้
หรือไม่ช่วงคิงส์คัพ ก็ไม่ต้องหยุดเพิ่ม 1 สัปดาห์ให้เก็บตัว คือเอาเวลานั้น แข่งบอลลีกตามปกติดีกว่าไหม
คือมันมีวิธีจัดการให้โปรแกรมลงตัวตั้งมากมาย ไม่ใช่ยืดเยื้อมาจนต้องเตะเกมตกค้างในวันที่ 6 มกราคมแบบนี้
ทีนี้ สมมุติว่า หาสล็อตไม่ได้จริงๆ ต้องแข่งวันที่ 6 มกราคมเท่านั้น มันก็มีทางเลือกอื่นอีก เช่น เราสามารถให้นักเตะอีก 18 คนที่เหลือ บินไปกาตาร์ก่อนได้ไหม แล้วให้อีก 8 คนของแบงค็อก กับบุรีรัมย์ ค่อยบินทยอยตามมาสมทบ
อินโดนีเซียก็ทำแบบนี้ บินไปเก็บตัวที่ตุรกีก่อนล็อตแรก แล้วคนที่เล่นกับสโมสรในยุโรปก็ค่อยๆ ตามมาสมทบ เราใช้วิธีนี้ก็ได้เหมือนกันนะ
แต่สุดท้าย ในบรรดาทางเลือกทั้งหมด เราเลือกชอยส์ที่แย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เหลือเชื่อจริงๆ
สำหรับโปรแกรมทีมชาติไทยต่อจากนี้ นักเตะจะถูกเรียกเก็บตัวที่โนโวเทล ฟิวเจอร์ พาร์ก รังสิต วันที่ 7 มกราคม จากนั้นก็จะเริ่มซ้อม แล้วอุ่นเครื่องกับทีม u-23 วันที่ 10 มกราคม แล้วบินไปกาตาร์วันที่ 11 มกราคม
เราเห็นความผิดพลาดอะไรในเรื่องนี้บ้าง
1) รวมตัวช้า ซ้อมช้า ชาติอื่นเขาเตรียมพร้อมไปไหนถึงไหนแล้ว
2) อิชิอิ มีเวลาหาทีมชุดเอเชียนคัพ ไม่ถึง 1 สัปดาห์ สำหรับโค้ชใหม่ ที่ไม่คุ้นเคยกับทีม นี่เป็นงานที่สาหัสทีเดียว
3) เดินทางไปถึงกาตาร์ช้ากว่าใครเพื่อน มั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ ว่าจะปรับตัวกับอากาศ และไทม์โซนได้ในเวลาสั้นๆ
4) โปรแกรมอุ่นเครื่อง ได้ดีที่สุดคือทีม u-23 ทั้งๆ ที่ชาติอื่น ได้เกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติที่คล้ายๆ กับคู่แข่งในกลุ่มตัวเอง
เราเป็นทีมที่ไม่พร้อมอะไรเลย แผนงานผิดพลาดไปหมด จะไม่ให้คนเขาด่า ไม่ได้หรอกครับ
นักเตะเราเอาจริงๆ ก็ไม่เลว มีตัวเจลีก ตั้ง 2 คน, มีตัวเบลเยี่ยม, ตัวเดนมาร์ก คือเราก็พอลุ้นเข้ารอบในกลุ่มเราได้ แต่ต่อให้ฝีเท้าดีแค่ไหน ต่อให้นักเตะมีแพสชั่นมากเท่าไหร่ เมื่อไม่ได้ซักซ้อมกลยุทธ์ โค้ชยังหา 11 ตัวจริงดีที่สุดไม่ได้ ก็นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะเข้ารอบไปได้อย่างไร
เมื่อสามวันก่อน ตอนที่สื่อกาตาร์ คำนวณว่าใครจะเป็นแชมป์ แล้วฟันธงว่าไทยจะตกรอบแรก มันก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์ ที่เขาจะคิดแบบนั้น
จริงๆ ในเรื่องนี้ อย่างน้อยผมก็คาดหวังให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ทิ้งทวนผลงานสักหน่อย ก่อนจะลงจากตำแหน่ง ออกมาพูดอะไรบ้าง ขอโทษบ้าง Take Action บ้าง ไม่ใช่ปล่อยตัวล้อฟรีแบบนี้ คุณจะไม่ลงสมัยหน้าก็จริง แต่ตอนนี้คุณคือผู้นำสูงสุดของบอลไทย นี่ไม่เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ รึไง ว่ามันพินาศแค่ไหน หรือว่าแค่ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
ข่าวล่าสุด ที่ประเทศไทย ไม่มีสถานีโทรทัศน์ไหน ซื้อลิขสิทธิ์เอเชียนคัพ ทั้งๆ ที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มอยู่แล้ว คือมันก็ต้องมาทรงนี้แหละ ในเมื่อคุณจัดการแบบก๊อกแก๊กแบบนี้ ไม่ได้แสดงถึงความจริงจัง ใครจะไปกล้าซื้อลิขสิทธิ์ ซื้อมาถ้าไทยแพ้รวด แข่ง 3 นัดตกรอบ แบบนี้คนจ่ายเงินจะเอาอะไรไปคุ้ม (แต่สุดท้ายผมว่า เราก็จะได้ดูอยู่ดี โดยจะไปดีลกันจบใน 1-2 วันสุดท้ายนั่นล่ะครับ)
แน่นอน เมื่อการแข่งมาถึง ในฐานะคนไทยเราก็ต้องเชียร์ทีมชาติอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุด ผมอยากให้เราทำได้เท่ากับคราวที่แล้ว นั่นคือ 16 ทีมสุดท้ายก็ยังดี
แต่พอเห็นการจัดการที่ล้มเหลว ลำดับความสำคัญไม่ถูก ก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าผิดหวัง คิดว่าผ่านรอบแบ่งกลุ่มก็ยังน่าจะเหนื่อย
อยากรู้ว่า Mindset ของคุณคิดถึงทีมชาติเป็นที่ตั้งอันดับแรกหรือเปล่า?
ลองไปดูชาติอื่น ตอนนี้นักเตะระดับ ซน ฮึง-มิน, คิม มิน-แจ, ทาคุมิ มินามิโนะ, วาตารุ เอ็นโด วินาทีนี้ พวกเขาเริ่มซ้อมกันแล้วนะครับ เริ่มเก็บตัวกันแล้ว นักฟุตบอลที่เล่นกับทีมดังในยุโรปขนาดนั้น ยังต้องเตรียมตัวอย่างละเอียดก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม
แล้วทีมชาติไทย "ทีมโถ 4" และ "เต็ง 17" ในเอเชียนคัพ เราเอาความมั่นใจมาจากไหน ว่าเตรียมตัวเละแบบนี้ แล้วจะชนะคู่แข่งได้ คุณดูถูกทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียเกินไปหรือเปล่า?
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
