Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธรรมะ คือ คุณากรณ์
•
ติดตาม
9 ม.ค. 2024 เวลา 23:20 • ปรัชญา
เรื่องแรกมีผู้แชร์มาในกลุ่มไลน์ว่า
มีการไถ่ชีวิตนักโทษออกจากคุก โดยใช้ชื่อหลวงปู่เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง โดยการไถ่ชีวิตนักโทษนั้น เจตนาก็คือเอามาบวช ตามรายละเอียดที่เขาลงไว้ก็คือ หลวงปู่เสนท่านรู้ว่ามีพระอรหันต์ที่ติดคุกอยู่ จึงต้องการที่จะไถ่ตัวออกมาบวช ในราคาคนละ ๒๖,๐๐๐ บาท..!
เรื่องนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีสติสัมปชัญญะเป็นปกติ ก็ต้องรู้ว่าไม่ชอบมาพากลอยู่แล้ว เนื่องเพราะว่ายังไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของการใช้กฎหมายประเทศไทย คำว่าไถ่ชีวิต แปลว่าต้องใช้กับนักโทษประหาร ซึ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะว่าการที่ศาลตัดสินให้รับโทษ จะมากจะน้อยก็ตาม เป็นไปโดยพระราชอำนาจด้านตุลาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บุคคลที่จะอภัยโทษให้
มีแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น ถ้าหากว่าจะมีการอภัยโทษ ก็ยังต้องมีการส่งรายชื่อขออภัยโทษขึ้นไปตามลำดับ ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็ไปไถ่ชีวิตออกมาได้ เหมือนกับเราไปไถ่ชีวิตวัวควาย..!
ประการที่สอง นักโทษที่อยู่ในคุกก็แปลว่าเป็นฆราวาสธรรมดา เพราะว่าต้องออกมาบวช ในความเป็นฆราวาสธรรมดา ไม่มีใครทรงความเป็นพระอรหันต์ได้ แค่พระอนาคามีก็แย่มากแล้ว คำว่าแย่มากในที่นี้ก็คือ จะก่อทุกข์ก่อโทษให้คนอื่นอย่างสาหัส
ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายศึกษาในธรรมบท เรื่องของนางสิริมาที่เป็นหญิงแพศยา เพราะว่าในอดีตชาติเคยด่านางภิกษุณี ซึ่งเวียนเทียนอยู่แล้วท่านบ้วนน้ำหมาก แต่พอดีลมกรรโชกมา ทำให้น้ำหมากส่วนหนึ่งกระเซ็นไปติดผ้าที่ตนเองห่มอยู่ จึงด่าไปว่า "นางหญิงแพศยาที่ไหนบ้วนน้ำหมากมาเปื้อนผ้าของเรา" โดยที่ไม่รู้ว่าภิกษุณีนั้นเป็นพระอรหันต์ การด่าเพียงเท่านั้น ทำให้ต้องเกิดเป็นหญิงแพศยาถึง ๕๐๐ ชาติติดต่อกัน..!
ดังนั้น..การที่พระอรหันต์จะทรงอยู่ในร่างฆราวาส จึงเป็นเรื่องที่จะสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นมากโดยใช้เหตุ โดยเฉพาะมีโทษหนักมาก อย่างนางขุชชุตตรา แค่เลียนแบบทำท่าว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าที่มาแสดงธรรมนั้น ท่านถือบาตรแล้วเดินหลังค่อม แค่ทำท่าให้เจ้านายดูเท่านั้นว่าเป็นแบบนี้ แต่ว่าเป็นกรรมในการปรามาสพระปัจเจกพุทธเจ้าท่าน
จึงต้องไปเกิดเป็นหญิงหลังค่อม ทำให้พระอรหันต์ไม่สามารถที่จะทรงอยู่ในร่างของปุถุชนได้ เพราะว่าจะสร้างกรรมใหญ่ให้เป็นที่เดือดร้อนของผู้อื่น ส่วนใหญ่จึงโดนตัดให้ตายลงไป ถ้าตามตำรา ท่านว่าจะต้องเสียชีวิตภายใน ๗ วัน..!
แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกว่า จากประสบการณ์ของท่านเองนั้น ถ้าสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในเวลากลางวัน ก็จะไม่ได้เห็นตะวันตกดิน ถ้าสำเร็จเป็นพระอรหันต์ในเวลากลางคืน ก็จะไม่ได้เห็นตะวันขึ้น จะต้องมีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งให้เสียชีวิตลงไป โดยที่ผู้อื่นไม่ได้รับทุกข์รับโทษจากการเสียชีวิตของท่าน
แม้กระทั่งพระอนาคามีบางท่าน ถ้าอยู่ในสถานะล่อแหลม อาจจะก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษแก่ผู้อื่นมาก
ก็โดนตัดให้ตายได้เช่นกัน แต่ถ้าเราดูอย่างท่านเจ้ามหานามศากยะ ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นพระอนาคามี ท่านอยู่ในฐานะอันสูงอยู่แล้ว สามารถที่จะดำรงอยู่ได้เป็นเรื่องปกติ เพราะก็คงไม่มีใครที่จะหาเรื่องไปด่าพระมหากษัตริย์ เหมือนไอ้พวก "สามกีบ" สมัยนี้ ขออภัย..ไปไกลเกิน..!
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ขอให้มั่นใจว่าน่าจะเป็นเรื่องการหลอกลวงกัน โดยอาศัยชื่อหลวงปู่เสนท่านนำหน้าเพื่อขอรับบริจาคเงิน บุคคลที่เห็นดีเห็นงามทำบุญไปแล้ว ก็นึกเสียว่าเราทำบุญบวชพระไปก็แล้วกัน
ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้ทำก็ขอให้ทราบว่า เราไม่สามารถที่จะไปไถ่ใครออกจากคุกได้ ยกเว้นว่ารัฐบาล ก็คือทั้งรัฐสภาและวุฒิสภาออกเป็นพระราชบัญญัติ คือกฎหมายใหม่ขึ้นมา แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวลงพระปรมาภิไธย ก็สามารถที่จะไถ่ออกมาได้ แต่คงจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว..!
คัดลอกบางส่วนจาก.. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย