12 ม.ค. เวลา 01:46 • กีฬา

ถอดบทเรียนการที่ มาร์ค บอสนิช ปฏิเสธออสเตรเลียเพื่อสโมสร ผลออกมาเป็นอย่างไร?

มาร์ค บอสนิช ปฏิเสธทีมชาติออสเตรเลีย
ในวงการฟุตบอลไทยตอนนี้คงจะไม่มีเรื่องไหนเดือดไปกว่าเรื่องของ เอกนิษฐ์ ปัญญา แนวรุกชาวไทย ที่เพิ่งจะถอนตัวออกจากทีมชาติไทยชุดลุยศึกเอเชียนคัพไปหมาด ๆ ซึ่งเจ้าบุ๊คถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือคนใหม่ของทัพช้างศึกในครั้งนี้แต่เจ้าตัวก็ได้ทำการถอนตัวออกไป โดยที่มีเหตุผลเบื้องต้นออกมาว่า เขาต้องการที่จะโฟกัสไปที่สโมสรต้นสังกัดอย่าง อูราวะ เรดส์ ไดมอนส์ มากกว่า
เพราะต้องการทำผลงานในช่วงเก็บตัวเตรียมซีซั่นใหม่ให้ดีต่อหน้าผู้จัดการทีมคนใหม่ อย่างไรก็ดี เรื่องที่นักเตะขอถอนตัวจากการรับใช้ทีมชาติแล้วไปโฟกัสกับที่สโมสรต้นสังกัดไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรนัก เพราะเรื่อง ๆ นี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับนายทวารชาวออสเตรเลียอย่าง มาร์ค บอสนิช มาแล้ว แล้วเรื่องราวของ บอสนิช จะเป็นอย่างไร? และจากการที่เขาตัดสินใจแบบนี้ ชีวิตของเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง? ตามอ่านต่อแบบเต็ม ๆ ได้ที่นี่
ทางเลือกของ มาร์ค บอสนิช
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1993 บอสวิช ต้องพบกับทางเลือกที่สำคัญมากครั้งหนึ่งในชีวิตหลังเจ้าตัวที่ในตอนนั้นเล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ต้องเลือกว่าเขาจะเล่นให้กับสโมสรหรือทีมชาติออสเตรเลียในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
ในขณะที่ปีเดียวกันนี้ระหว่างฤดูกาลก็มีโปรแกรมช่วงพักเบรคทีมชาติให้บอสนิชเก็บเอาไว้เป็นหนึ่งในตัวเลือกด้วย อยู่ที่ว่าเขาจะเลือกรับใช้ซอคเกอร์รูส์ช่วงเวลาไหน ระหว่างคัดฟุตบอลโลกหรือว่าช่วงเบรกทีมชาติ สุดท้าย เจ้าตัวทำการเลือกอยู่กับสโมสรต้นสังกัด เนื่องจากวันแข่งคัดบอลโลกกับวันเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกคือวันเดียวกัน
ผลเป็นอย่างไร
จากการที่ บอสนิช ปฏิเสธลงเล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลียในครั้งนั้น ทำให้เขาได้รับกระแสวิจารณ์อย่างหนักกับการตัดสินใจของเขาที่เลือกทีมสโมสรหรือว่าตัวเองก่อนทีมชาติ มิหนำซ้ำ การตัดสินใจของเขา ยังกลายเป็นเปิดโอกาสให้กับ มาร์ค ชวาร์เซอร์ อดีตนายด่านของ เชลซี ลงเฝ้าเสาแทน แถมเขายังเป็นฮีโร ช่วยเซฟ 2 จุดโทษในเกมรอบคัดเลือกกับ อาร์เจนตินา
เกมที่สอง ทำให้ออสเตรเลียผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของฟุตบอลโลกครั้งนั้นได้สำเร็จด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ มันกลายเป็นปมในใจของเขาอย่างแน่นอน เมื่อเขาได้เห็นคนอื่นทำได้ดี ทั้ง ๆ ที่ตรงนั้น ควรจะเป็นที่ของเขา แต่เขากลับเลือกเส้นทางที่ผิดพลาดและมันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว
ชีวิตของบอสนิชหลังปฏิเสธทีมชาติ
หลังจากการปฏิเสธเล่นให้กับทีมชาติในเกมคัดฟุตบอลโลกปี 1993 แม้ว่าในเวลาต่อมา บอสนิช จะได้โอกาสกลับมาเล่นให้กับทีมชาติอีกครั้งแต่มันก็เป็นเพียงระยะสั้น ๆ เท่านั้น โดยในช่วงปี 2001-2003 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของ บอสนิช หลังเขาต้องออกจาก แอสตัน วิลล่า ไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไปไหนได้ไม่รอด ก่อนจะย้ายทีมอีกครั้งไปอยู่กับเชลซี จากนั้นเขาก็ถูกปล่อยออกจากทีมเหมือนเดิม
เรียกได้ว่าเขาไม่สามารถกลับไปอยู่จุดสูงสุดของเขาได้อีกแล้วหลังจากเรื่องทีมชาติครั้งนั้น จนต้องทำให้ช่วงปี 2003-2008 เขาต้องพักเบรกจากอาชีพฟุตบอลแถมยังดูเกมการแข่งขันน้อยลงมาก ๆ ด้วย เนื่องจากเมื่อเขาดู เขาก็อดคิดถึงเรื่องราวในอดีตไม่ได้ ก่อนที่ในปี 2008 เขาจะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งในประเทศบ้านเกิดกับ เซ็นทรัล โคสต์, ซิดนีย์ โอลิมปิก และรีไทร์ไปในปี 2010 นอกจากนี้เจ้าตัวยังออกมายอมรับด้วยว่าในช่วงมรสุมชีวิตเขาได้หันไปพึ่งพายาเสพติด เพื่อช่วยบรรเทาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาอีกด้วย
ความรู้สึกของ มาร์ค บอสนิช หลังการตัดสินใจครั้งนั้น
“หากว่าผมมีโอกาสได้เล่นให้กับทีมชาติออสเตรเลียอีกครั้ง ผมจะไม่มีวันทำมันผิดพลาดด้วยการปฏิเสธอีกแล้ว ในปี 1993 มีความผิดพลาดเกิดขึ้นผมทำการปฏิเสธเล่นให้กับออสเตรเลียและผมก็ให้คำมั่นกับตัวเองแล้วว่าผมจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เมื่อปี 1993 ผมเล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า
และนั่นก็ทำให้คนเข้าใจผิดว่าผมเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว ผมพลาดลงเล่นกับฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ แคนาดา 2 เกม เพราะช่วงนั้นโปรแกรมมันติดกันมาก เกมนัดเปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกดันมาตรงกับเกมแรกที่จะเล่นกับ แคนาดา ซึ่งสุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้ลงเล่นกับทั้งทีมชาติและสโมสรของผมด้วย ผมได้แต่นั่งมอง และปล่อยเกมใหญ่ 2 เกมนั้นผ่านไปโดยที่ไม่มีผม
ผมพยายามที่จะทำให้ทุกอย่างมันถูกต้องนะ แต่สุดท้ายมันก็พังไปหมด ผมจะไม่ให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นอีก ใครล่ะที่จะไม่เสียใจบ้าง แต่ความจริงก็คือ ตอนที่ผมย้ายมาอังกฤษ ผมยังเด็กและเด็กๆทุกคนก็คิดเหมือนกันแบบนี้ ซึ่งผมอยากจะที่จะได้รับในสิ่งที่ตัวของผมเคยได้รับเหมือนกัน ผมมีชีวิตที่มีเสน่ห์นะ
เคยเล่นให้กับแอสตัน วิลล่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี พร้อมกับคว้าแชมป์ 4 รายการ ผมมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและหวังว่าจะมีอะไรอีกมากมายตามมา ผมไม่ได้ติดขัดเรื่องเงินอะไรเลยนะ ผมเล่นในช่วงเวลาที่การคว้าแชมป์เป็นสิ่งที่สำคัญ ผมไม่เคยเล่นเพื่อเงิน ผมเล่นฟุตบอลเพราะผมรักฟุตบอล ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมจะทำได้แล้ว”
1
🔶ดูข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์นี้ 👉 https://sytgn.com/latestnews
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://th.sytesports.com/latest-sweepstakes/
🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends
#asian cup #australia #australia national football team #mark bosnich
โฆษณา