12 ม.ค. 2024 เวลา 10:54 • ธุรกิจ

อะไรเอ่ย จุดเกรงใจกลางทะเลของ Engineer 5G

“หน้าที่ของเราคือ เอาชนะให้ได้ทุกด่านครับ” เป็นวิธีคิดของทีม Engineer AIS ที่ ที่ยืนยันว่า ลูกค้าต้องสามารถใช้งานได้อย่างที่ต้องการ ทุกที่ ทุกเวลา งานของเราจึงต้องไม่มีข้อจำกัด และเครือข่ายของเราจะต้องกว้างสุด ไกลสุด สูงสุด และลึกสุด แบบไม่เกรงใจใคร
ช่วงหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมา เป็นบทพิสูจน์ได้อย่างดีว่า การท่องเที่ยวไทยในทุกพื้นที่กลับมาคึกคักใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด และเทคโนโลยีการสื่อสารก็คือ 1 ในหัวใจสำคัญที่ช่วยเสริมปรากฏการณ์นี้ เพราะเป็นได้ทั้งเครื่องมือใช้จอง ยืนยัน จ่ายเงิน และสื่อสาร โพสต์ โหลด แชร์
ซึ่งก็พบว่าปีนี้ 1 ในแหล่งท่องเที่ยวที่ติดอันดับนักเดินทางจากทั่วโลกมารวมตัวกันมากที่สุดก็คือ บริเวณชายหาดทะเลไทย ที่มีพื้นที่รวมกว่า 3,000 กิโลเมตร ทั้งฝั่งอ่าวไทย ซึ่งสามารถสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศได้มากกว่า 1.21 ล้านล้านบาทในปีที่ผ่านมา
การบริหารคุณภาพเครือข่ายสื่อสารบริเวณชายฝั่งและกลางทะเล หรือ SEA COVERAGE จึงเป็นภารกิจหลักที่ทีม Engineer ทุ่มเท เพื่อให้สามารถสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจชายฝั่งดังกล่าวได้อย่างดีที่สุด แต่อะไรที่เป็นจุดท้าทาย และจุดเกรงใจกลางทะเลที่ว่า คืออะไร ลองไปฟังจากทีมงานกัน
วสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าทีม Engineer เล่าว่า การขยายโครงข่ายทางทะเล หรือ SEA COVERAGE มีความท้าทายในการทำงานมากพอสมควร เพราะลักษณะเฉพาะทางภูมิศาสตร์ ตั้งแต่ชายฝั่ง เกาะ ไปจนถึงพื้นที่กลางทะเล รวมไปถึงแหล่งพลังงาน ทำให้ทีมต้องใช้ทักษะ และประสบการณ์ในการออกแบบสถาปัตยกรรมโครงข่าย การผสมผสานระบบสื่อสัญญาณ (Transmission) พร้อมเลือกใช้นวัตกรรม โซลูชัน รูปแบบของพลังงานทดแทนจากธรรมชาติอย่างเหมาะสม
“โจทย์คือ ต้องสร้างความต่อเนื่องของสัญญาณกลางทะเลให้ได้มากที่สุด นี่คือที่มาของการทดลองทดสอบนวัตกรรมที่เรียกว่า Super Cell ซึ่งเป็นการยิงสัญญาณมาหากันให้ได้จากฝั่งไปจนถึงเกาะที่อยู่กลางทะเล วันนี้เราทำได้สูงสุดถึงประมาณ 70 กิโลเมตรแล้ว และเชื่อมต่อจุดที่เมื่อก่อนยังเชื่อมสัญญาณไม่ถึงกัน เราจึงท้าทายกันภายในว่า ต้องเอาชนะจุดเกรงใจกลางทะเลให้ได้ ซึ่งวันนี้เราเอาชนะจุดเกรงใจได้แล้วครับ”
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเครือข่ายสื่อสารดี มีคุณภาพ ก็จะทำให้การใช้บริการ Digital ดีไปด้วย และย่อมตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมที่มีผลกับเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น
กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Sector) ที่วันนี้เมื่อเครือข่ายสื่อสารครอบคลุมพื้นที่การใช้งานมากกว่า 95% นอกจากกลุ่มนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร จะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ดิจิทัลบนโครงข่าย AIS 5G แล้ว หน่วยงานภาครัฐ อาทิ หน่วยงานอุทยานแห่งชาติ กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำ ยังสามารถเชื่อมต่อการใช้งานระบบสื่อสาร และบริการดิจิทัล อาทิ IoT และการจัดเก็บฐานข้อมูล (Tourism Smart Data) เพื่ออำนวยความสะดวกให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการอย่างผู้ให้บริการเรือยอร์ช (Yacht Route) เรือเฟอร์รี่ (Ferry Line) ที่โครงข่ายสื่อสารของ AIS มีความครอบคลุม ใช้งานได้ต่อเนื่องทุกเส้นทางการเดินทาง พร้อมนำนวัตกรรมอย่าง Super Cell มาทดลองทดสอบให้บริการจริงแล้ววันนี้ โดยสามารถส่งสัญญาณเชื่อมโยงระหว่างจุดต่อจุดได้สูงสุดกว่า 70 กิโลเมตร
กลุ่มอุตสาหกรรมประมง (Fisheries Sector) และความปลอดภัย ในพื้นที่สองชายฝั่งทะเลของประเทศทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน โดยอุตสาหกรรมประมงมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจภาคพื้นทะเล หรือ Ocean Economy เป็นอย่างมาก ทั้งกลุ่มประมงพื้นบ้านหรือประมงชายฝั่ง ที่ใช้เรือขนาดเล็กทำการประมงในระยะทางประมาณตั้งแต่ 3-12 ไมล์ทะเล
และกลุ่มประมงเพื่อการพาณิชย์ หรือ ประมงน้ำลึก ที่ออกไปจับปลานอกเขตประมงชายฝั่ง แน่นอนว่ากลุ่มนี้ต้องการการติดต่อสื่อสาร ทั้งในด้านธุรกิจกับแพรับซื้อปลา การดูแลความปลอดภัย หรือการติดต่อครอบครัวบนฝั่ง และยังรวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งทหารและตำรวจที่ดูแลความมั่นคงทางทะเล ซึ่ง AIS สามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่ดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน
กลุ่มชุมชนตามแนวชายฝั่งและบนเกาะ (Local Community Sector) ที่พัฒนาเครือข่ายครอบคลุมจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 98% แล้ว ทั้งมือถือ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ตอบสนองเรื่องการทำธุรกิจของผู้ประกอบการท้องถิ่น และระบบสาธารณูปโภคที่ใช้ดิจิทัลเข้ามายกระดับ
“AIS SEA COVERAGE” ที่ไม่มีจุดเกรงใจจะพร้อมเป็น key driver ในการสนับสนุน อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่งเสริมเศรษฐกิจภาคพื้นทะเล ให้เติบโตและแข็งแกร่งแบบไม่เกรงใจใครอย่างแน่นอนครับ” วสิษฐ์ พร้อมกับทีม ยืนยันตอนท้ายแบบมั่นอกมั่นใจ
โฆษณา