13 ม.ค. 2024 เวลา 06:02 • ไลฟ์สไตล์

NEW BALANCE 574 LEGACY นี่คือ 574 ที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา

วันขอพูดถึงเจ้า 574 รองเท้าที่ฮิตที่สุดรุ่นนึงตลอดกาลของ New balance และเป็นรุ่นที่ผมชอบที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะด้วยความที่เค้าเป็นรองเท้าที่ทาง Brand วาง concept ให้เป็นรองเท้าที่เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ด้วยการปรับนิดหน่อยจากรุ่นพี่ ทั้ง 575 576 รวมถึง 996 ทั้งด้านคุณภาพวัสดุที่ลดคุณภาพลงนิดหน่อย (นิดหน่อยจริงๆ นะ😁) และเปลี่ยนมาใช้ฐานการผลิตในเอเชียที่มีต้นทุนต่ำกว่า
ดังนั้น ที่ปัจจุบันด้วยราคาป้าย 2,990 บ. ในรุ่นมาตรฐาน หากเปรียบเทียบกับรองเท้าลำลองรุ่นอื่นๆ ใน Brand และกับ Brand อื่นๆ ในตลาด ก็ไม่ได้ถือว่าราคาถูกหรือแพงกว่ากันสักเท่าไหร่ บวกกับหน้าตาที่ใส่ได้กับทุกการแต่งตัว เลยทำให้ 574 กลายเป็นรองเท้าที่ ฮิต ที่สุดรุ่นนึงของ New balance
สำหรับเจ้า New balance 574 LEGACY ต้องถือว่าเป็นการพัฒนาปรับปรุงล่าสุดของ 574 ที่ชัดเจน เพราะถ้าดู time line ของเค้าแล้ว จากปี 1988 ที่มี 574 Classic และ 574 แบบทั่วไป และมีการ Collab มากมาย มาจนประมาณปี 2013 ทาง New balance ได้มี Midsole แบบใหม่ นั่นคือ Fresh foam จึงได้เริ่มนำมาใช้กับรองเท้าหลายๆรุ่น หนึ่งในนั้นคือ 574
โดยในปี 2015 ได้ออกรุ่น 574s หรือ 574sport พร้อมๆกับ 574fresh foam (ซึ่งไม่ได้เข้ามาขายในไทย) ซึ่ง 574s นี้ เป็น 574 ที่ upper ยังมีลวดลายตามแบบฉบับ 574 เพียงแต่ทำให้หน้าเท้าเรียวขึ้น ดูทันสมัยขึ้น แต่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
ประมาณ ปี 2017 หลังจากที่มี 574sport v1 ออกมา ในปีนี้ ก็ได้คลอด 574sport v2 ออกมา ซึ่งปรับเปลี่ยนหน้าตาไปเล็กน้อยโดยปรับ toebox ให้กว้างแบบ 574 classic ปรับ Midsole ให้มีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้นและ Midsole หนาขึ้นเล็กน้อย ทำให้ใส่สบายมากขึ้น
แม้ว่า 574s v1 และ v2 จะเป็นการปรับเปลี่ยนที่ชัดเจนของรองเท้ารุ่นนี้ ที่พยายามทำให้ดูทันสมัยและใส่สบายขึ้นจากการเปลี่ยน Midsole จาก EVA + ENCAP มาเป็น Fresh foam ตามสมัยนิยม พร้อมกับราคาที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,000 บ.
แต่สิ่งที่ตามมาคือ อารมณ์ความเป็น 574 มันหายไป เพราะอัตลักษณ์ของ 574 แท้ๆ คือการเป็นรองเท้าที่ใส่ได้ทุกสถานการณ์ ทน และใส่สบาย แม้จะออกแข็งมากกว่านุ่มหนึบ แต่นี่คือตัวตนของ 574
จนมาถึงปี 2022 เมื่อ 574 LEGACY ได้กำเนิดขึ้นตอนกลางปี ด้วยรูปทรง Upper ที่มองดูก็รู้ทันทีว่านี่คือ 574 มารวมกับ Insole Midsole และ Outsole ที่ปรับเปลี่ยนใหม่หมด แต่ยังคงรูปร่างของ 574 classic ไว้ได้อย่างดี ซึ่ง Insole ปรับมาใช้ วัสดุที่เหมือน PU ที่มีความหนึบมากกว่าเดิม (เหมือน 2002r) ปรับ Midsole ทั้งพื้นในส่วนของ EVA ที่หนาขึ้นเล็กน้อยโดยที่ความหนาของ ENCAP ยังเท่าเดิม และปรับ Outsole ให้มีดอกยางที่ใหญ่ขึ้น หนาขึ้น และใช้ยางคนละแบบกับ 574 ทั่วไปคือนุ่ม หนึบกว่า
ภาพรวมออกมาจึงทำให้เจ้า LEGACY ลงตัวอย่างเป็นที่สุด เพราะใส่สบายขึ้น นุ่มหนึบขึ้นมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดและจุดนี้ก็แตกต่างจาก 574sport v1 v2 อย่างสิ้นเชิง เพราะด้วยความที่ midsole เป็น fresh foam เป็นพื้นที่เน้นไปทางรองเท้ากีฬา ซึ่งออกไปทางนุ่มมากกว่า ทำให้เหมือนไม่ใช่ 574 สักเท่าไหร่
และเมื่อเจ้า 574 LEGACY ได้อารมณ์การใส่ที่ดีมาก มารวมกับราคาค่าตัวที่ 2,990 ในรุ่นมาตรฐาน และ 3,590 ในรุ่นพิเศษ ทำให้มันคุ้มค่ามากขึ้นไปอีก (ราคาปี 2023)
เอาล่ะ บทสรุปสุดท้ายถ้าจะเปรียบแบบให้เห็นภาพเจ้า 574LEGACY มันคือ 574 ที่ยังคงความเป็นอัตลักษณ์ของ 574 ไว้ได้อย่างครบถ้วน ที่ยังเพิ่มเติมคือความนุ่ม หนึบ ใส่สบายมากขึ้น และถ้าจะบอกว่ามันคือ 2002r ที่แปลงร่างมาก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงสักเท่าไหร่
#newbalance #newbalance574 #newbalance574legacy #newbalance574sport #newbalance574freshfoam #newbalance2002r #newbalance1906r
โฆษณา