13 ม.ค. เวลา 15:07 • ไลฟ์สไตล์

ปม มาจากวัยเด็กทั้งนั้นแหละ..

ผู้หญิงคนในภาพที่เป็นแม่
เป็นคนทำให้เด็กน้อยที่ยืนข้างๆ
รู้สึกว่าตัวเองมีปม
เด็กน้อยคนนั้นคือฉันเองแหละ : )
เคยพูดกับคนในวงเหล้าเสมอ
ว่าคนเราดื่มเหล้ามีไม่กี่เรื่อง
1.ครอบครัว
2.ความรักที่ผิดหวัง
และสำหรับฉันคือ ครอบครัว
ช่วงเวลาวัยเด็ก จนถึง วัยรุ่น
ฉันใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองมาตลอด
คงเป็นเพราะพ่อต้องไปทำงานช่วงเย็นจนถึงเกือบสว่างทุกวัน
และแม่ก็ต้องไปทำงานกับพ่อเสมอ
เลิกเรียนกลับมา จะเป็นภาพเงินที่วางอยู่เป็นตู้รองเท้าเสมอ
เพราะฉะนั้นเวลาที่มีเรื่องดีใจหรือเสียใจที่โรงเรียน
ไม่มีใครอยู่ให้ฉันพูดมันออกมาได้เลย..
" ปมของฉันก่อตัวขึ้นแล้ว "
กลายว่าฉันไม่พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้พ่อหรือแม่ฟังเลย ฉันคิดว่าการเก็บมันไว้คงจะดีที่สุด พ่อกับแม่ไม่มีเวลามากพอจะฟังเรื่องราวบ้าๆบอๆของฉันหรอก
เพราะงั้นเวลาฉันมีปัญหา ฉันไม่พูดให้ใครฟังเลย
ฉันผ่านสิ่งเหล่านั้น ด้วยความคิดที่พอจะคิดได้ของฉันมาตลอด เพราะฉันไม่มีความคิดจากคนอื่นเลย..
ก็ใช้ชีวิตอย่างนั้นเรื่อยมา
พ่อกับแม่ก็ยังทำงานเหมือนเดิม
บางครั้งสงสัยมากๆเลย
ว่าทำไมปล่อยฉันไว้คนเดียวขนาดนี้นะ ?
และจากเด็กผู้หญิงคนนั้นกลายมาเป็นหญิงสาวที่กลับมาจากมหาลัย และยังต้องเห็นภาพเงินที่วางไว้บนตู้รองเท้าเหมือนเดิม
" ปมของฉันคืออะไร ? "
คือการไม่ได้พูดชีวิตประจำวันให้ใครฟังเลย
จากแรกๆคิดว่าไม่พูดเพราะไม่มีใครว่างฟัง
กลายมาเป็น ไม่พูดเพราะไม่อยากให้คนอื่นมองว่าไร้สาระ
กลายมาเป็น ไม่พูดเพราะคงไม่ได้รู้สึกดีหรอกหากมีคนฟัง
กลายมาเป็น สุดท้ายฉันก็ผ่านไปได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพูด เพราะไม่มีใครพาฉันผ่านไปได้
ฉันกลายเป็นคนเชื่อแต่ตัวเอง
เพราะโชคดีที่ทุกครั้งไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรฉันผ่านมันได้ด้วยดีเสมอ ฉันไม่ยอมให้ใครเข้ามารู้เรื่องที่ทุกข์ที่สุด สุขที่สุดของฉันเลย มันคือปม ..
และการที่เชื่อแต่ตัวเอง มีปัญหาและเก็บไว้คนเดียว บางทีฉันรู้สึกโดดเดี่ยวทั้งที่ฉันเป็นคนร่าเริง
จนมาถึงวันหนึ่งที่ฉันเจอปัญหา
ที่ยากเกินกว่าจะเก็บไว้คนเดียว ฉันหาทางออกไม่ได้
คนที่พบเจอฉันในสถานการณ์นั้น คือ แม่
แม่รับรู้ความเสียใจ ผิดหวัง ของฉัน ซึ่งฉันรู้สึกโกรธนะ เพราะมันแปลว่าครั้งนี้ฉันไม่เก่งพอจะผ่านไป และคนที่ไม่เคยรู้ว่าฉันรู้สึกนึกคิดอะไรจะช่วยฉันได้ยังไง ?
จนวันหนึ่งที่เส้นด้ายทุกเส้นขาด
ฉันระบายทุกเรื่องที่อยู่ในใจให้แม่ฟัง
แม่ร้องไห้ แม่บอกว่ามีอะไรทำไมไม่บอกแม่บ้าง
- ไม่รู้สิ ไม่เห็นจะทำให้รู้สึกว่าอยากฟัง -
แม่พยายามทำความเข้าใจ ถามไถ่ฉันเสมอจากเหตุการณ์นั้น ซึ่งมันก็ทำให้ปมเริ่มคลายได้ทีละนิด
สุดท้ายความจริงก็ปรากฏ
ความจริงที่ว่าเหตุผลที่พ่อแม่ต้องไปทำงาน
ซึ่งการทำงานนั้นปล่อยฉันไว้คนเดียวเสมอ
ในมุมของแม่ .. แม่แค่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้ลูก เพื่ออยากให้ลูกสุขสบาย เพื่อดูแลผู้ชายที่แม่รัก
มันเป็นเหตุผลที่โคตรจะเข้าใจง่ายเลย
แต่ทำไมฉันไม่เข้าใจมันเลยนะ
ทุกคนทำสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดในช่วง ขณะนั้นเสมอ
แม้ว่าอีกสิบปีสิ่งนั้นอาจเป็นสิ่งที่แย่ที่สุด
แต่ขณะนั้น เราคิดว่าเราทำสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
แล้วมันผิดแค่ไหนกันนะ ?
ทุกวันนี้ พ่อและแม่สร้างความสุขสบายให้ฉันอย่างดีมากๆ
นั่นอาจคือผลผลิตจากการปล่อยฉันไว้คนเดียวในช่วงนึง
(รึเปล่านะ)
และให้พูดตามตรง ฉันรู้สึกโชคดีมากๆ กับความมั่นคงนั้น
และ ปมของฉันมันคืออะไรกันแน่ ฉันคิดว่าตัวเองมีปมได้ยังไงนะ?
ความคิดฉันกลับกลาย
ฉันไม่ผูกขาดกับการเชื่อตัวเองขนาดนั้นแล้ว
แต่ฉันกลับลองเชื่อความคิดอื่นดูบ้าง
คำตอบที่ฉันได้คือ ฉันเขลาเกินกว่าจะเข้าใจ
ฉันเด็กเกินกว่าจะคิด วิเคราะห์ แยกแยะ สิ่งใดๆในโลกได้
มันทำให้ฉันต้องเรียนรู้ เพื่อให้รู้อีก ให้รู้อีก
หากปมนั้นมันทำให้ฉันเชื่อในตัวเอง
ปมนั้นก็สร้างฉันในแบบที่ฉันพอใจ
หากปมนั้นมันทำให้รู้จักที่จะเข้าใจคนอื่นด้วย
ปมนั้นก็เป็นปมที่ทำให้ฉันเติบโต
หากปมนั้นเคยทำให้ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างฉันผ่านได้ด้วยตัวคนเดียว
ปมนั้นก็ทำให้รู้ว่าไม่จริง มีข้อแอบแฝงอีกมากมายที่ทำให้ฉันผ่านไป
หากปมนั้นทำให้ฉันเคยเชื่อว่าแม่ไม่รักฉัน
ปมนั้นก็ทำให้รู้ว่าฉันเขลาเกินกว่าจะเข้าใจความรักนั้น
การรู้จักและการเชื่อ ในตัวเอง คือสมบัติล้ำค่านะ
แต่การรู้จักและการเชื่อ ในคนอื่น คือพรจากโลกนี้
ปมของฉันถูกคลายแล้ว
จากฉัน โดยฉัน แด่ฉัน
โฆษณา