Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
MAYISHAPPYDER
•
ติดตาม
16 ม.ค. 2024 เวลา 07:16 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
เมื่อความกลัวกลายเป็นความเชื่อที่อันตรายต่อผู้คน
Dir. Jang Jae-hyun (2019)
*มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*
Svaha: the sixth finger (สวาหะ ศรัทธามืด) ภาพยนตร์ระทึกขวัญลึกลับสัญชาติเกาหลีใต้ เรื่องราวเกี่ยวการการสืบหาความจริงที่มาของลัทธิที่ตั้งขึ้นมาชื่อว่า “ลัทธิเนินกวาง” และการสืบคดีของตำรวจเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเด็กผู้หญิง
ภาพยนตร์ฉายให้เห็นชีวิตของอีกึมฮวา (รับบทโดยอีแจอิน) เด็กผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับพี่สาวฝาแฝด ถูกเลี้ยงดูโดยการดูแลของปู่กับย่า แต่เธอกำลังถูกติดตามจากจองนาฮันหรือท่านควางมก (รับบทโดยพัคจองมิน) ซึ่งเขาเป็นสมาชิกของลัทธิเนินกวางของคิมเจซอก ที่มีศาสนาจารย์พัคอุงแจ (รับบทโดยอีจองแจ) ศาสนาจารย์ของสถาบันวิจัยศาสนาตะวันออกไกลที่กำลังตามสืบที่มาของลัทธิเนินกวางนี้
ภาพยนตร์พาเราไปสืบหาความจริงของลัทธิเนินกวางพร้อมกับศาสนาจารย์พัค การเป็นลัทธิที่ดูผิว ๆ แล้วเหมือนจะไม่มีอะไรแปลก คอยเผยแพร่คำสอนการใช้ชีวิต การสวดมนต์ภาวนา หรือรวมไปถึงการช่วยเหลือสาธารณะจนมีคนนับถืออยู่เป็นจำนวนหนึ่ง
แต่บางอย่างที่แปลก คือมันไม่มีอะไรแปลกเลย
โจเซฟที่พูดกับศาสนาจารย์พัค
เพราะความเป็นปกติเกินไปจนไม่มีใครสังเกตหรือสงสัยจึงทำให้ลัทธินี้สามารถดำเนินการมาได้ตลอด โดยที่ไม่มีใครรู้เบื้องหลังหรือที่มาที่ไปของลัทธินี้ แต่เมื่อภาพยนตร์เริ่มพาเรามากะเทาะเปลือกของลัทธิที่ไม่แปลกนี้ ก็ทำให้เราได้พบกับความดำมืดของลัทธิ เมื่อลัทธิที่เป็นเหมือนเครื่องยึดเหนี่ยวปลอบประโลมผู้คน กลับกลายเป็นสิ่งที่อันตรายต่อคนกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะกับเด็กผู้หญิงที่เกิดในปี 1999 กับการตามล่าและลงท้ายด้วยการฆ่าเด็กผู้หญิงเหล่านั้น เป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องจากคนของลัทธิเนินกวาง
ด้วยการรับคำสั่งจากคิมเจซอก ด้วยเหตุผลที่ว่า “เพราะพวกเธอถูกบอกว่าเกิดมาชั่วร้าย และความตายไม่ใช่จุดจบ มันคือการเริ่มต้นใหม่” นั้นดูจะเป็นข้ออ้างเพียงข้อหนึ่ง จนภาพยนตร์พาเรามากะเทาะเปลือกลึกข้างในของลัทธิอีกครั้ง เมื่อเราได้พบกับคิมเจซอก และก็ทำให้เราได้รู้แรงจูงใจถึงการก่อคดีฆาตกรรมเด็กผู้หญิงที่เกิดปี 1999 นั้นเป็นเพราะคำพยากรณ์ที่บอกว่า “อีก 100 ปีให้หลัง วันที่เธอจะหลั่งเลือดจากนั้นเขาก็จะตาย” ตั้งแต่นั้นเขาจึงตามหาเด็กผู้หญิงที่เกิดปี 1999
โดยเขาใช้วิธีอุปการะเด็กผู้ชายที่เคยมีคดีฆาตกรรมพ่อตัวเองมาก่อน และตั้งให้เขาเหล่านั้นกลายเป็นเทพผู้พิทักษ์ ใช้คนกลุ่มนี้เป็นเครื่องมือในการฆาตกรรมเด็กผู้หญิงไม่ว่าพวกเธอจะอยู่ในเกาหลีใต้ หรืออยู่ต่างประเทศ โดยอ้างว่าการกระทำนี้เป็นการต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายเพื่อโลกใบนี้ และเป็นภารกิจของสวรรค์
ภาพยนตร์พาเราไปเห็นเบื้องหลังอันโหดเหี้ยมของลัทธิ การใช้ศาสนามาบังหน้าตั้งตนเป็นผู้วิเศษเหนือจากคนอื่น แล้วทำการปลุกปั่นให้คนกลุ่มหนึ่งต้องกลายเป็นฆาตกรเพียงเพราะคำทำนาย อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย นอกจากปลุกปั่นการฆ่าคนแล้วยังสะกดจิตว่าสิ่งที่ทำนั้นเพื่อเป็นการเปลี่ยนโลก ทำแล้วก็จะพบกับชีวิตที่นิพพาน กลายเป็นความเน่าเฟะที่ถูกห่อด้วยความเชื่อ ความเชื่อที่เป็นอันตรายต่อผู้คน
นอกจากนี้ภาพยนตร์ยังพาเราไปเห็นช่องว่างของการเปิดกว้างทางศาสนา เมื่อทุกคนสามารถเข้าถึงศาสนาความเชื่อที่แต่ละคนฝักใฝ่ได้อย่างเสรี แต่อีกมุมมันกลับกลายเป็นช่องว่างให้เหล่านักต้มตุ๋นหรือพวกที่แสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อของคนมาใช้หากิน บ้างหลอกลวงทรัพย์สินเงินทอง หรือรวมถึงการล่วงละเมิดทางเพศ ร้ายแรงที่สุดอาจจะเป็นเหมือนกับลัทธิเนินกวาง
นอกจากนั้นยังส่งผลต่อศาสนาหลักที่ตั้งอยู่ ถูกตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือ ความศรัทธา เพราะถึงแม้จะเป็นศาสนาหลัก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะน่าเชื่อถือทั้งหมด เพราะหากเราลองหันมามองสังคมปัจจุบันข่าวอะไรทำนองนี้ก็ยังเกิดขึ้นในสังคมเสมอ ทั้งพระที่โกงเงินวัด บาทหลวงลวงละเมิด หรือจะเป็นเหล่าผู้วิเศษทั้งหลายที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ในทุกวัน อย่างฉากหนึ่งในภาพยนตร์ บทสนทนาระหว่างพระหัวปลาหมึกกับศาสนาจารย์พัค
“ขอบคุณสำหรับของขวัญที่มีค่า”
“ผมทราบมาว่าพระสงฆ์อยากให้มีวัตถุในครอบครองน้อยที่สุด เพื่อแสดงความจริงใจ”
“การแสดงออกอย่างจริงใจ ที่มีราคาหกพันวอนใช่ไหม”
บทสนทนานี้เมื่อเราได้ยินและเห็นการแสดงออกของพระหัวปลาหมึก ก็ทำให้เราสงสัยในเจตนาของเขาเหมือนกันว่าแท้ที่จริงแล้วเขาพูดประชดเพราะน่าจะไม่พอใจกับสินน้ำใจหรือเปล่า และบวกกับ scene ก่อนที่ถ่ายให้เห็นของอำนวยความสะดวกในวัด ทั้งเครื่องชงกาแฟทันสมัย เทคโนโลยีแบรนด์ดัง ซึ่งเมื่อเทียบกับของราคาไม่กี่พันวอนก็เทียบไม่ติด ดูแล้วจะเป็นการยึดติดกับสิ่งของซะมากกว่า ไม่เพียงแต่การสร้างลัทธิใหม่เพื่อมาหาผลประโยชน์ แต่กับศาสนาที่มีอยู่ก็ดูแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่อง Svaha: the sixth finger (สวาหะ ศรัทธามืด) เป็นเพียงการนำเสนอตัวอย่างของลัทธิที่เกิดความกลัวแล้วสร้างความเชื่อแบบผิด ๆ ทั้งแง่ศีลธรรมและกฎหมายถึงแม้ภาพยนตร์จะพาให้เรามาเห็นจุดจบของลัทธิ แต่ก็ใช้ว่าคนที่คิดหาผลประโยชน์จากความเชื่อความกลัวของมนุษย์จะหมดไป ถึงจะไม่มีกลุ่มนี้ก็มีกลุ่มอื่นมาแทนที่ในรูปแบบต่าง ๆ
รูปภาพ:
hancinema.net
บทความ: maysiryn
#MAYISHAPPYDER #svaha #รีวิวหนัง
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย