16 ม.ค. 2024 เวลา 08:04 • ธุรกิจ

ตระกูลจิราธิวัฒน์จับมือพันธมิตรนักลงทุนสถาบันเปิดตัว ‘CG Capital’

บริษัทผู้บริหารกองทุน Private Equity เจาะกลุ่มธุรกิจโรงแรม อสังหาฯ ประเดิมกองทุนแรก 10,000 ลบ.
กับ The Standard Residences, Phuket Bang Tao (เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา) และ The Peri Hotel Phuket Bang Tao (เดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา)
"ช่วงที่มีโควิด ผมได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตที่ภูเก็ต ช่วงหาดบางเทา ที่นี่อากาศดี รถไม่ติด มีทุกอย่างครบ และได้เห็นฝรั่ง กับคนต่างชาติอย่างสิงค์โปร์ ฮ่องกงกับคนกรุงเทพฯหลายคนได้ย้ายมาอยู่ตรงนี้อย่างถาวรเลย พอดีได้มีโอกาสคุยกับคุณป๊อป สรวิศ ก็เลยได้มีโอกาสได้มาเริ่มพัฒนาตรงนี้
เมื่อรวมกับประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการของกลุ่ม CPN ทั้ง Porto De Phuket และ Central ทำให้เรารู้ศักยภาพของที่นี่ว่าเป็นย่านที่ค่อนข้าง Top Perform จนกลายเป็นที่ๆไม่ใช่ว่าบิน 2-3 วันและบินกลับ แต่อยู่ได้เป็นปีเลย ยิ่งรวมกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม Laguna และ Boat Avenue ทำให้เรามองว่าทำเลตรงนี้คือ ทองหล่อของภูเก็ต
ซึ่งที่ดิน 40 ไร่แปลงนี่เราก็ได้ดีลที่ดี และมองเห็น Vision ที่ดีร่วมกันจาก กลุ่ม Boat Avenue โดยกลุ่มยงสกุล ซึ่งเป็น Landlord จนได้ที่ดินแปลงนี้มา ซึ่งเป็นการลงทุนจากเงินลงทุนของตระกูลจิราธิวัฒน์
โดยให้ทาง The Standard ทำหน้าที่ในการบริหาร ซึ่งเป็น 2 องค์ประกอบที่มี Lifestyle Combination ในแบบเดียวกัน [12 ไร่จาก 40 ไร่จะพัฒนาเบื้องต้นเป็น The Standard Residences และ The Peri Hotel ส่วนที่เหลือคาดว่าจะเป็น Mixed Use] ซึ่งเชื่อว่า CG Capital
จะเป็นกลไกส่วนหนึ่งที่สำคัญในการร่วมพัฒนาทำเลบางเทา ให้เป็นทองหล่อของภูเก็ตสมดังที่มองเอาไว้..." คุณภูมิ และคุณสรวิศ ผู้ก่อตั้งบริษัท CG Capital จำกัด
ซีจี แคปปิตอล (CG CAPITAL) บริษัทผู้บริหารกองทุน Private Equity สร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าแค่ลงทุนซื้อหุ้นในตลาด ตระกูลจิราธิวัฒน์ โดยทีมบริหารของผู้ก่อตั้ง “ภูมิ จิราธิวัฒน์” นำทัพนักลงทุนสถาบันชั้นนำ ประเดิมตั้งกองทุนแรก 10,000 ล้านบาท มุ่งลงทุนกลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ในไทย ปักหมุด 4 เมืองท่องเที่ยวหลัก
พร้อมประกาศลงทุนโครงการแรกกับ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) แบรนด์บูทีคโฮเทลและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลก มูลค่า 5,000 ล้านบาท ในรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส ที่มี The Standard Residences, Phuket Bang Tao (เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา) และ The Peri Hotel Phuket Bang Tao (เดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา)
นายภูมิ จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท CG Capital จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวไทยหลังวิกฤตโควิด-19 สามารถพลิกฟื้นกลับมาขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดจากสิ้นปี 2566 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประเทศไทยจำนวนสูงถึง 28 ล้านคน
และมีแนวโน้มที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้นเท่าช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 และขยายตัวต่อไปได้อย่างแน่นอน จึงมองว่าแนวโน้มธุรกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคท่องเที่ยวยังมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว จึงตัดสินใจจัดตั้งบริษัท ซีจี แคปปิตอล ขึ้นมา ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบริหารการลงทุนในรูปแบบกองทุน Private Equity
นายสรวิศ ชัยโรจน์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริหาร บริษัท CG Capital จำกัด ที่มีประสบการณ์จากการพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทคูน เอสเตท กล่าวว่า บริษัทได้จัดตั้งกองทุนแรกมูลค่า 10,000 ล้านบาท
ซึ่งมีผู้ลงทุนหลักประกอบด้วย 1.ครอบครัวจิราธิวัฒน์ 2.ธนาคารชั้นนำ 3.นักลงทุนสถาบันระดับโลก โดยมีวัตถุประสงค์ลงทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งจะมีทั้งการลงทุนในโรงแรม คอนโดมิเนียม สวนสนุก สวนน้ำ และ Mixed-use ที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นในเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพ ภูเก็ต สมุย และพัทยา โดยคาดว่าจะลงทุนปีละ 3-5 โครงการ
นายภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 นี้ บริษัทจะเปิดตัวโครงการแรกที่ลงทุน ประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัย Branded Residences ภายใต้เครือโรงแรมบูทีคไลฟ์สไตล์ระดับโลกอย่าง Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) โดยใช้ชื่อว่า The Standard Residences, Phuket Bang Tao (เดอะ สแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ ภูเก็ต บางเทา)
และ The Peri Hotel Phuket Bang Tao (เดอะ เภรี โฮเต็ล ภูเก็ต บางเทา) ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือแบรนด์ Standard International เช่นเดียวกัน ทำเลที่ตั้งถือเป็นไข่แดงของย่านเชิงทะเล-บางเทา ซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ต ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
อีกทั้งใกล้แหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารดังในภูเก็ต อาทิเช่น โบ้ท อเวนิว, ลากูน่า กอล์ฟ คลับ, ปอร์โต เดอ ภูเก็ต, และสวนน้ำบลูทรี มูลค่าโครงการมากกว่า 5,000 ล้านบาท จะเปิดตัวภายในเดือนเมษายน 2567 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณปี 2569
“เราจัดตั้งกองทุนแรกนี้ขึ้นมา เพราะมีความเชื่อมั่นว่าภาคธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศไทยยังมีอนาคตที่ดี และเชื่อว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวจะเติบโตต่อเนื่องทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ รวมถึงกลุ่ม Expat และ Digital Nomad ที่มองประเทศไทยเป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ ของโลก
ซึ่งการเข้าไปลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง เป็นการช่วยสนับสนุนการพัฒนาของธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย และจะส่งผลให้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีตามไปด้วยในระยะยาวบนความผันผวนที่ต่ำกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ปัจจุบันการลงทุนในรูปแบบ
Private Equity ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำของโลก เพราะมีความคล่องตัวในการบริหาร มีขั้นตอนและหลักเกณฑ์การลงทุนที่เป็นระบบ และให้การเติบโตทางมูลค่าที่แตกต่าง ทำให้นักลงทุนสถาบันชั้นนำทั่วโลกให้น้ำหนักในพอร์ตกันมากขึ้น” นายสรวิศกล่าวปิดท้าย
แม้ว่าภูเก็ตจะเป็น Global Tourist & Living Destination ที่มี Line up การเปิดตัวโครงการอสังหาฯใหม่ทุกประเภทอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปีนี้ จนกลายเป็นตลาด Red Ocean ที่รวมสารพัด Flagship Projects จากดีเวลลอปเปอร์ทั้งกทม. ท้องถิ่น ไปจนถึงต่างชาติ จากกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่หันไปให้ความสำคัญกับการมองหาตลาดใหม่ ที่มีศักยภาพโดยเฉพาะชาวต่างชาติ
และเศรษฐีเมืองกรุงที่มองหาบ้านตากอากาศไว้เป็นหลังที่ 2 เช่นเดียวกับกลุ่มนักลงทุนที่มองหาช่องทางการสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่กำลังเพิ่มเข้ามายังภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง
แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้มีโครงการอสังหาฯในรูปแบบ Branded Residences เปิดตัวใหม่มากนัก โดยโครงการ The Standard Residences Phuket Bangtao ที่ตั้งอยู่ใจกลาง Laguna Phuket ไม่ไกลจากหาดบางเทา นับว่าเป็นโครงการระดับ Global Magnet แห่งแรกที่พร้อมเปิดตัวในปีนี้
โดยทำเลหาดบางเทา รวมถึงย่านใกล้เคียงอย่างเชิงทะเล นับว่าเป็นทำเลดาวรุ่งพุ่งแรง ที่เรียกได้ว่าหากดีเวลลอปเปอร์ไหนอยากจะสร้าง Awareness ในภูเก็ตก็ต้องมีโครงการในย่านนี้ เพราะเป็นทำเล ที่รายล้อมไปด้วย Lifestyle Mall อย่าง Boat Avenue กับ Proto de Phuket แหล่งแฮงค์เอาท์ Beach Resort รวมถึงสนามกอล์ฟ Laguna
โดยชายหาดบางเทายังขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในภูเก็ต ซึ่งทำเลนี้ยังเป็นหนึ่งในทำเลที่มีโครงการในรูปแบบ Branded Residences ให้เลือกซื้อ
โดยเฉพาะจากกลุ่ม Landlord สำคัญอย่างเครือ Laguna ที่มีโครงการดังอย่าง Banyan Tree Grand Residences, Angsana Oceanview Residences, และ Cassia Phuket ที่กำลังเปิดขายในทำเลหาดบางเทา
ทั้งนี้ในปัจจุบันภูเก็ตนับว่าเป็นจังหวัดที่มีด้านโครงข่าย Infrastructure ที่แข็งแกร่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตมากมายครบถ้วน ทั้ง โรงพยาบาล 9 แห่ง (ล่าสุดมีบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่กำลังจtมาเปิด) โรงเรียนนานาชาติ 13 แห่ง ห้างสรรพสินค้า 8 แห่ง
สนามกอล์ฟ 6 แห่ง และชายหาด 26 แห่ง ทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย อีกทั้งรัฐบาลยังมีแผนสร้าง Infrastructures ใหม่ๆมากมาย เช่น โครงการทางด่วนพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ โครงการทางด่วนพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง โครงการระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้ารางเบา
โครงการท่าเทียบเรือขนาดใหญ่รองรับการขนส่งสินค้า รวมถึงการขยายสนามบินภูเก็ตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติมองเห็นถึงศักยภาพของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเหมาะสมทั้งในแง่ของการย้ายถิ่นฐานเข้ามาพักอาศัยทั้งระยะสั้นเพื่อพักผ่อนและระยะยาวเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง
โดยที่ผ่านมาอสังหาฯภูเก็ตมีกำลังซื้อสำคัญจากกลุ่มชาวรัสเซีย ที่มีสัดส่วนการซื้ออสังหาภูเก็ตถึงกว่า 80% จากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งทำให้มีชาวรัสเซียเดินทางเข้ามาพักอาศัยในภูเก็ต และมีการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อหนีภัยสงคราม และซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ในประเทศไทยเพื่ออยู่อย่างถาวร ซึ่งนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเพราะที่ผ่านมาชาวต่างชาติส่วนใหญ่มักจะซื้อเพื่อลงทุนเป็นหลัก
โดยกลุ่ม CG Capital นับว่าเป็น Independent Business ของกลุ่มจิราธิวัฒน์ ที่เรียกได้ว่าเป็น Fund Management Business ที่บริหารทุนของนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ที่จะ Maximize Profit ให้นักลงทุน [มี Target Return ที่สูงถึง 18% ต่อปี เทียบเท่ากับ Private Equity Fund ของกลุ่มธุรกิจอสังหา] มีความคล่องตัวในการดำเนินงานมากกว่า
ซึ่งไม่ได้มี Conflict กับกลุ่ม Central และบริษัทในเครือแต่อย่างใด หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งใน Part ชอง Central Group ก็ได้ หากกลุ่ม Central มี Project ที่เหมาะสม ทาง CG Capital ก็อาจจะเข้ามาเป็นผู้ลงทุนได้เช่นกัน หากว่าเป็นกลุ่ม Hospitality โรงแรม สวนน้ำ
หรือธุรกิจอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งในอนาคตจะดูรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมตามแต่ละสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้ในเรื่องของ Exit Plan การลงทุนซื้อขายโรงแรมในไทยนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นหมื่นล้านบาท ซึ่งรูปแบบในการ Exit นั้นยังต้องรอความชัดเจนสักพัก
.
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ โปรดรอตืดตามจากการแถลงข่าวร่วมกันอีกครั้งกับพันธมิตรในวันที่ 6 กพ. นี้
โฆษณา