Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Theerat Dol Bunnag
•
ติดตาม
17 ม.ค. 2024 เวลา 12:36 • ความคิดเห็น
“แนวคิดเกี่ยวกับ การลงโทษ.. “ (repost)
มีท่านหนึ่งกรุณาถามมาว่า..
#ปุจฉา
ผมเคยได้ยินมาว่า..
”การลงโทษที่รุนแรงจะช่วยลดอาชญากรรมได้.. “
แต่ก็เคยได้ยินมาอีกว่า..
“การลงโทษประหารชีวิต ไม่ช่วยลดอาชญากรรม.. “
แล้วตกลง มันเป็นยังไงกันแน่ครับ...
เหมือนย้อนแย้งกันอยู่..
#วิสัจฉนา
หลักอาชญาวิทยาพื้นฐานก็คือ... คนคิดจะทำผิด หรือไม่ทำผิด.. เขาจะตัดสินใจจากปัจจัย 2 อย่างก่อน..
นั่นคือ ข้อเสียที่จะเกิด (punishment) กับข้อดี (reward) ที่จะได้มา..
ถ้ามีข้อดีมากกว่า.. เขาจะทำ
ถ้าข้อเสียมากกว่า.. เขาจะไม่ทำ”
รัฐจึงควรสร้างปัจจัยที่เป็นข้อเสีย (punishment) ให้มาก.. มากจนคนร้ายคิดว่ามันมีข้อเสียมากกว่าข้อดี.. เขาจะไม่ก่อลอาชญากรรม..
ตรรกที่คิดกันง่ายๆก็คือ การกำหนดโทษไว้ให้สูงๆ.. เพราะเชื่อว่า ถ้ามีโทษหนักแล้ว.. คนจะเกรงกลัว ไม่กล้าทำผิด..
นั่นเข้าใจผิด..ที่ไปตีความว่า ข้อเสีย (punishment) คือ “การลงโทษหนัก” เท่านั้น
แท้จริงๆแล้ว punishment หมายถึง ข้อเสียทุกอย่าง.. ที่ทำให้เขาไม่ชอบ ไม่พอใจ.. เช่น การถูกจับดำเนินคดี.. ไม่ใช่แค่โทษหนักเพียง อย่างเดียว..
ฉะนั้น การบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัด.. จนทำให้คนร้ายเชื่อว่า..
“ใครทำผิด เป็นถูกตำรวจจับแน่ๆ.. คนที่ถูกจับต้องถูกอัยการฟ้องแน่ๆ.. และคนที่ถูกฟ้อง ศาลต้องลงโทษแน่ๆ..”
ถ้าบังคับใช้กฎหมายได้เคร่งครัดแบบนี้.. จะทำให้คนเกรงกลัวไม่กล้าทำผิด.. ไม่ว่า โทษนั้นจะเบาหรือหนัก..
ต่างประเทศก็เคยมีผลงานวิจัยมาแล้วว่า..
#คนร้ายกลัวถูกจับมากกว่ากลัวโทษหนัก
ประเทศที่มีบทลงหนักและบังคับใช้จริงจัง บางทีลงโทษในที่สาธารณะด้วย เช่น ตัดมือ ยิงเป้า เฆี่ยนโบย ..คนทำผิดโดนจับโดนบังคับโทษจริง.. คนเลยกลัว...
#การลงโทษหนักจึงมีผลลดอาชญากรรมได้จริง..
อย่างไรก็ดี.. สาเหตุและลักษณะเฉพาะของคนร้ายแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป.. ทำให้แม้จะมีโทษหนักและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง...
การลงโทษหนัก ก็อาจไม่มีผลให้ลดอาชญากรรมลงได้..
คุกและการลงโทษหนัก.. มักใช้ได้ดีกับคนทำผิดที่พลาดพลั้งกระทำผิดเป็นครั้งคราว.. ไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน (มืออาชีพ)
คนร้ายบางคนรู้อยู่ว่า โทษจำคุกนั้นจริงแล้วใช้เวลาไม่นาน.. เดี๋ยวก็ลดโทษออกมา.. เคยเข้ามา 2-3 ครั้งแล้ว พอทนได้..
เขาก็ไม่กลัว..
คนทำผิดบางคนเป็นโรคทางสมอง.. ควบคุมอารมณ์ไม่ได้..ตัดสินใจสั้น จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปตามความรู้สึก.. ที่แรงจนควบคุมตนเองไม่ได้..
เขาไม่สนใจเรื่องโทษเลยครับ ตอนนั้น..
คนร้ายบางคน.. รู้ว่าโทษหนัก.. เขาไม่กลัว และก็ไม่อยากถูกจับ.. เช่น มือปืน..
ก็เลยวางแผนทำผิดและหลบหนีอย่างรัดกุม..พร้อมเตรียมจัดหาอาวุธมาต่อสู้... บางทีก็ฆ่าเหยื่อเสีย.. จะได้ปกปิดการกระทำผิดของตน..
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานยากขึ้น..
ที่สำคัญคือ..มีกลุ่มที่ไม่รับรู้ ไม่สนใจว่าโทษจะหนักเบาอย่างไร เพราะสาเหตุที่ทำผิดเนื่องมาจากสภาพความเจ็บป่วยทางจิต.. เขาจะมีกระบวนการคิดตามอาการของเขา..
ที่เคยเจอนะ.. เขาเล่าว่า..
“ผมจงใจแทงคอมันครับ.. อยากให้มันตาย เพราะมันเป็นคนเลวที่พระเจ้าสั่งมาให้กำจัด.. จะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่นในสังคม.. “
เขาเชื่อแบบนี้จริงๆครับ.เรียกกลุ่มนี้ว่า พวก..”บ้าดี” .. จะบอกว่าเขามีจิตใจชั่วร้าย ก็ไม่เชิงนะ 55
ส่วนกลุ่มคนที่ทำผิดติดนิสัย .. มีความคุ้นเคยกับเรือนจำหลายแห่งเป็นอย่างดี.. เพราะตลอดชีวิตเข้าออกเรือนจำเป็นปกติ..
คนกลุ่มนี้มีเพื่อนในเรือนจำมากกว่าข้างนอก.. และเชื่อว่า เพื่อนข้างในจริงใจกว่าสังคมข้างนอก..
ถือว่า การทำผิด เป็นการทำมาหาเลี้ยงชีพตามปกติที่ถนัดที่สุด..
กลุ่มนี้มีทฤษฎีกฎหมายของเขาเองว่า..
“ตราบใดที่ไม่มีพยานรู้เห็นการทำผิด.. เราคือผู้บริสุทธิ์”
สำหรับคนกลุ่มนี้แล้ว “คุก” ทำอะไรเขาไม่ได้ครับ.. กลับจะชอบด้วยซ้ำ ได้เข้าไปไปพักผ่อน.. เจอเพื่อนเก่าๆ
.. #อย่าคิดว่าเขาจะเข็ดกลัวหรือหลาบจำเพราะเขาไม่ใช่เด็กๆแล้ว..
#โทษประหารจึงไม่ช่วยลดอาชญากรรมด้วยเหตุนี้..
#ปุจฉา
เมื่อโทษประหาร ไม่ได้ทำให้สังคมปลอดภัยขึ้น.. ไม่ได้ช่วยลดอาชญากรรมด้วย..
ถ้าเช่นนั้น ก็ยกเลิกซะดีมั้ยครับ..
#วิสัจฉนา
การลงโทษประหารอาจไม่ได้เป็นไปเพื่อการลดอาชญากรรมก็ได้ ..
การใช้โทษประหาร อาจจะไม่ได้เน้นให้สังคมสงบสุขปลอดภัย.. ไม่มีใครกล้าทำผิดก็ได้นะ..
บางที ..โทษประหารชีวิต อาจจะเน้นความพึงพอใจของเหยื่อ จากการได้แก้แค้นทดแทน ในความเจ็ปปวดและความสูญเสียที่ได้รับก็ได้..
หลักการลงโทษเพื่อแก้แค้นทดแทน (retribution) เป็นหลักเก่าแก่ที่ใช้กันมาแต่โบราณจนปัจจุบัน.. ไม่ได้เชย หรือล้าสมัยนะครับ..
หลักนี้ เน้นเยียวยาความรู้สึกของเหยื่อมากกว่า เน้นความปลอดภัยของสังคม..
ส่วนความปลอดภัยของสังคมเป็นหลักการลงโทษเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู (deterrence) .. หลักนี้เน้นสังคมมากกว่า การให้ความเป็นธรรมกับเหยื่อครับ..
ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า เราควรคงโทษประหารไว้ หรือควรยกเลิกอย่างเด็ดขาด..แต่การลงโทษเพื่อแก้แค้นทดแทน อาจเป็นคำตอบสำหรับคนที่เห็นว่าโทษประหารควรมีอยู่ ก็ได้..
#ปุจฉา
นี่ๆ.. กำลังจะบอกว่า เราควรจะใช้โทษประหารชีวิตต่อไปหรอครับ..
#วิสัจฉนา
ผมไม่ได้ตัดสินว่าโทษประหารควรมีอยู่มั้ย .. เพราะไม่ได้ขึ้นกับว่าผมอยากให้มีหรือไม่..
เราจะคิดอย่างไร.. จะแสดงความเห็นอย่างไร ก็ทำไป.. เป็นเสรีภาพในการแสดง..
แต่สุดท้าย จะยกเลิกโทษประหารมั้ย ไม่ได้อยู่ที่พวกเราครับ.. มันก็ขึ้นกับนโยบายของรัฐบาลว่าจะเอายังไง..
ก่อนที่ยุโรปจะยกเลิกโทษประหารกันหมดอ่ะ.. ประชาชนเขาก็ไม่ได้เห็นด้วยนะครับ.. แต่รัฐบาลเลือกที่จะยกเลิกเพื่อประโยชน์ในการรวมตัวเป็นสหภาพยุโรป..
ทุกวันนี้งานวิจัยเรื่องโทษ.. ทฤษฎีการลงโทษ.. กับผลอาชญากรรมมีมากมายครับ..
นักวิชาการก็เยอะ.. งานวิจัยก็แยะ..ประชาชนเลยสับสนว่าทำไมมันแย้งกัน..
ผมเองก็มีคำถามคาใจเหมือนกันนะครับ ว่า..
“ตกลงแล้ว.. ในไข่.. มีสารอาหารที่มีประโยชน์..ทำให้เราแข็งแรง.. แก่ช้า ตายช้า.. หรือว่า
มันมีไขมันไม่ดี.. ทำให้เราเจ็บป่วย.. เป็นโรคหลอดเลือด.. ทำให้แก่ง่าย ตายไว..
..แล้วตกลง เราควรกินไข่วันละกี่ฟองดีครับ..”
ใครช่วยตอบที.. 555
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย