[BrandCase] รู้จัก Bangkok Mall โปรเจกต์ใหญ่ 50,000 ล้าน เครือเดอะมอลล์ ต่อจาก EMSPHERE ธันวาคม ปีที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเพิ่งตื่นเต้นกับโปรเจกต์ใหญ่กลางเมืองของกลุ่มเดอะมอลล์ ใจกลางย่านพร้อมพงษ์ อย่าง The EMSPHERE

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

20 ม.ค. เวลา 02:30 • ธุรกิจ

รู้จัก Bangkok Mall โปรเจกต์ใหญ่ 50,000 ล้าน เครือเดอะมอลล์ ต่อจาก EMSPHERE

ธันวาคม ปีที่ผ่านมา หลายคนน่าจะเพิ่งตื่นเต้นกับโปรเจกต์ใหญ่กลางเมืองของกลุ่มเดอะมอลล์ ใจกลางย่านพร้อมพงษ์ อย่าง The EMSPHERE

แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตอนนี้ยังมีอีกโปรเจกต์ยักษ์ที่กลุ่มเดอะมอลล์กำลังทำอยู่

โปรเจกต์ที่ว่า คือโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่ ชื่อ “Bangkok Mall”

ที่เมื่อสร้างเสร็จ จะมีขนาดใหญ่กว่าศูนย์การค้าสยามพารากอนถึง 2 เท่า

และ Bangkok Mall จะกลายเป็นศูนย์การค้า ที่ใหญ่ที่สุดในไทยแห่งใหม่..

Bangkok Mall น่าสนใจตรงไหนบ้าง ?

BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

Bangkok Mall ที่กำลังก่อสร้าง ตั้งอยู่บริเวณแยกบางนา หรือถนนบางนา-ตราด ตัดกับถนนสุขุมวิท

โดยตำแหน่งของศูนย์การค้า จะตั้งอยู่ตรงข้ามกับไบเทคบางนา และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท สถานีอุดมสุข

ซึ่ง The Mall Group ตั้งใจจะปลุกปั้น Bangkok Mall ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสระดับเวิลด์คลาส

บนพื้นที่กว่า 100 ไร่

มีพื้นที่ใช้สอยทั้งโครงการโดยประมาณ “1,200,000 ตารางเมตร”

โดยภายในโครงการ หลัก ๆ จะประกอบไปด้วยพื้นที่ศูนย์การค้า

คอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสำนักงาน และสถานที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น

- พื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้าสำหรับช็อปปิง ขนาด 80,000 ตารางเมตร

- พื้นที่สวนสนุกและสวนน้ำ ขนาด 30,000 ตารางเมตร

- พื้นที่จัดแสดงคอนเสิร์ต Bangkok Arena Hall ความจุประมาณ 16,000 ที่นั่ง

ซึ่งถ้าสร้างเสร็จ ก็จะเป็น Hall จัดแสดงคอนเสิร์ต ที่สามารถจุคนได้มากที่สุดในประเทศไทย

และคาดว่าภายใน Bangkok Mall จะมีสถานีขนส่งผู้โดยสารสายตะวันออก ของ บขส. ด้วย

เมื่อ Bangkok Mall สร้างเสร็จ ก็จะกลายเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย

โดยจะเป็นรองเพียง One Bangkok ของ TCC Group..

ซึ่งถ้าให้ลองไล่เรียง ตั้งแต่ศูนย์การค้าแห่งแรกที่ The Mall Group ได้ปลุกปั้นเมื่อประมาณ 40 กว่าปีก่อน มาจนถึงโครงการมิกซ์ยูสที่กำลังก่อสร้างอย่าง Bangkok Mall

The Mall Group สามารถขยายสาขาทำศูนย์การค้าใหม่ ๆ จนครองใจคนในพื้นที่ได้หลายแห่ง

โดยไม่ต้อง IPO หรือนำบริษัทเข้าตลาด เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เลย

ถ้าให้ย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มต้น..

The Mall Group ได้เปิดห้างสรรพสินค้าแห่งแรกคือ “เดอะมอลล์ราชดำริ”

เริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2524 หรือเมื่อ 43 ปีก่อน

โดยห้างตั้งอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ ติดกับศูนย์การค้าเกษรพลาซ่า

หลังจากเปิดสาขาแรกได้ 2 ปี The Mall Group ก็ได้ไปปักหมุด

สร้างเดอะมอลล์สาขาที่ 2 นั่นคือ “เดอะมอลล์รามคำแหง” ในปี 2526

ส่วน เดอะมอลล์ราชดำริ ที่ได้เปิดให้บริการไปสักพัก ก็ต้องปิดตัวลงเมื่อปี 2531

เนื่องจากมีคนมาเดินน้อย และสู้ห้างคู่แข่งใกล้ ๆ ที่เปิดให้บริการในเวลานั้นไม่ไหว

ในขณะที่ เดอะมอลล์รามคำแหง ที่ตั้งอยู่นอกเมือง กลับได้รับการตอบรับจากคนในพื้นที่เป็นอย่างดี

เนื่องจากตอนนั้น บริเวณถนนรามคำแหง ยังไม่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทั้ง ๆ ที่บริเวณนั้น เป็นแหล่งชุมชนที่คนเข้ามาอาศัยอยู่เยอะ

จึงทำให้หลังจากนั้น The Mall Group จึงเลือกใช้กลยุทธ์หลักในการขยายสาขา โดยการหาทำเลที่อยู่รอบนอกที่ยังไม่มีคู่แข่ง

และทำเลนั้น ต้องไม่ไกลจากย่านธุรกิจใจกลางเมืองมากนัก

โดย The Mall Group จะเน้นทำศูนย์การค้าให้มีขนาดใหญ่ ทันสมัย มีทุกอย่างครบวงจร

ตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตยันสวนน้ำ เพื่อรองรับกำลังซื้อของผู้คนที่พักอาศัย และทำงานในบริเวณนั้นได้ทั้งย่าน

โดยเริ่มจาก

- ปี 2532 เปิดศูนย์การค้า เดอะมอลล์ท่าพระ

- ปี 2534 เปิดศูนย์การค้า เดอะมอลล์งามวงศ์วาน

- ปี 2537 เปิดศูนย์การค้า เดอะมอลล์บางแค และเดอะมอลล์บางกะปิ

- ปี 2543 เปิดศูนย์การค้า เดอะมอลล์โคราช เป็นสาขาแรกในต่างจังหวัด

นอกจากศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ที่ได้เปิดตามทำเลรอบ ๆ กรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว

The Mall Group ก็ยังได้เปิดศูนย์การค้าหรู ที่เน้นขายสินค้าแบรนด์เนม และร้านอาหารไฮเอนด์

ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้ใช้ชื่อแบรนด์ เดอะมอลล์

ตัวอย่างเช่น

- ปี 2540 เปิดศูนย์การค้า The Emporium ที่บริเวณซอยพร้อมพงศ์ หรือซอยสุขุมวิท 39

ซึ่งเป็นศูนย์การค้าหรูแห่งแรกของประเทศไทย

- ปี 2549 ร่วมทุนกับกลุ่มสยามพิวรรธน์ เพื่อเปิดศูนย์การค้าสยามพารากอน

- ปี 2558 เปิดศูนย์การค้า EmQuartier

- และล่าสุดเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ก็ได้เปิดศูนย์การค้า The EMSPHERE ไป

โดยทั้งศูนย์การค้า The Emporium, The EmQuartier และ The EMSPHERE ถูกพัฒนาให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันเรียกว่า Em District รอบ ๆ สถานี BTS พร้อมพงษ์

ซึ่ง Em District มีพื้นที่ใช้สอยรวมกันกว่า 650,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้แล้ว ก็ต้องบอกว่าในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา The Mall Group ก็ได้ทุ่มงบประมาณเพื่อรีโนเวต ศูนย์การค้า

โดยเป็นการเปลี่ยนเดอะมอลล์ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลทั้งหมด 4 สาขา ที่เปิดมานานแล้ว ให้เป็นศูนย์การค้าภายใต้คอนเซปต์ใหม่ ชื่อ “เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์”

พร้อมกับทุบเดอะมอลล์รามคำแหงทิ้ง แล้วสร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งตอนนี้เดอะมอลล์รามคำแหง ก็ยังไม่มีกำหนดการแล้วเสร็จ

ส่วนเดอะมอลล์ทั้ง 4 สาขา ก็เพิ่งรีโนเวตเป็น เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ เสร็จเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมานี้เอง

ทีนี้มาถึงไฮไลต์สำคัญของเรื่องนี้ ก็คือ “Bangkok Mall”

ศูนย์การค้าลำดับต่อไปของ The Mall Group ที่กำลังอยู่ในแผนการก่อสร้าง นั่นก็คือ Bangkok Mall ซึ่งจะกลายเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่ใหญ่ที่สุดในย่านบางนา

โดยโครงการจะทยอยเปิดเฟสแรกในปี 2568 และเสร็จอย่างสมบูรณ์แบบปี 2570

ซึ่งที่น่าสนใจคือ ตั้งแต่ที่ The Mall Group ได้ตั้งสาขาแรก คือเดอะมอลล์ราชดำริเมื่อ 43 ปีก่อน

มาจนถึงปัจจุบันที่กำลังเร่งรัดก่อสร้าง โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่อย่าง Bangkok Mall ให้เสร็จ

The Mall Group ไม่ได้ IPO หรือระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เลย

เมื่อไม่ได้แหล่งเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์

ดังนั้น แหล่งเงินทุนที่ The Mall Group ใช้ขยายศูนย์การค้าใหม่ ๆ หรือปรับปรุงศูนย์การค้าเดิม จะมาจากกำไรสะสมของบริษัทเอง และการกู้ยืมธนาคารเสียเป็นส่วนใหญ่

หรืออีกท่าหนึ่ง ที่ The Mall Group ชอบใช้ สำหรับปั้นศูนย์การค้าแห่งใหม่ นั่นก็คือ

การร่วมทุนกับพันธมิตรรายอื่น เพื่อสร้างศูนย์การค้าหรือโครงการมิกซ์ยูสแต่ละที่

ไม่ว่าจะเป็น

- ร่วมทุนกับกลุ่มสยามพิวรรธน์ เพื่อสร้างศูนย์การค้าสยามพารากอน

- ร่วมทุนกับตระกูลโสภณพนิช เพื่อสร้างศูนย์การค้า The Emporium

- ร่วมทุนกับกลุ่มภิรัชบุรี เพื่อสร้างมิกซ์ยูส The EmQuartier

โดยภิรัชบุรี จะรับผิดชอบสร้างและบริหารออฟฟิศ และ The Mall Group ก่อสร้างศูนย์การค้าทั้งหมด

- ร่วมทุนกับ JR West บริษัทเดินรถไฟ และบริหารอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคคันไซ ของประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างศูนย์การค้า The EMSPHERE

อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ของ The Mall Group วิธีนี้ ก็มีข้อจำกัด ซึ่งตลอดระยะเวลา 43 ปีที่ผ่านมา

The Mall Group สร้างศูนย์การค้าแห่งใหม่ ออกมาได้เพียง 10 แห่ง ตามที่ลิสต์ไว้ด้านบน

พูดง่าย ๆ คือ The Mall Group จะทิ้งระยะเวลานานหลายปี กว่าจะเปิดศูนย์การค้าได้สักแห่ง

โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เงินจากการกู้ยืมธนาคาร หรือการร่วมทุนกับพันธมิตรดัง ๆ เพื่อลงทุนก่อสร้างเท่านั้น

ซึ่งวิธีการเข้าถึงแหล่งเงินทุนก็จะต่างจาก เซ็นทรัลพัฒนา เจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัล

ที่มีช่องทางการระดมทุนหลากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็น

การ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ การออกหุ้นกู้

ไปจนถึงการตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT ขึ้นมา เพื่อนำไประดมทุนสร้างศูนย์การค้าใหม่ ๆ

จึงทำให้ เซ็นทรัลพัฒนา สามารถสร้างศูนย์การค้าใหม่ ๆ ได้เกือบ 40 แห่งทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 40 กว่าปี

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่าการทำศูนย์การค้าสักแห่ง

เจ้าของศูนย์การค้าไม่ได้ตัดสินใจ เพียงแค่ใช้มุมมองทางด้านการเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ซึ่งเจ้าของศูนย์การค้าดัง ๆ อย่างเซ็นทรัลพัฒนา หรือ The Mall Group

ก็จะใช้กลยุทธ์ในการขยายศูนย์การค้าใหม่ ๆ

รวมถึงการพาแบรนด์ศูนย์การค้าของตัวเอง ให้เข้าถึงลูกค้าด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป

อย่างเช่น เซ็นทรัลพัฒนา ที่ในตอนนี้ ก็จะเน้นขยายศูนย์การค้าเซ็นทรัลในต่างจังหวัดเป็นหลัก

หรือขยายสาขาไปในย่านที่มีกำลังซื้อสูงพอ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ ถนนราชพฤกษ์

ส่วน The Mall Group เวลาจะไปตั้งศูนย์การค้าที่ไหนสักแห่ง

คุณศุภลักษณ์ เจ้าของ The Mall Group เคยพูดในงานเปิดตัวศูนย์การค้า The EMSPHERE ไว้ว่า

เวลาจะตั้งศูนย์การค้าที่ไหนสักแห่ง The Mall Group จะต้องแข่งในสนามใหญ่ บนทำเลที่ดีจริง ๆ เพียงไม่กี่แห่ง และจะต้องเป็นผู้นำตลาดบนทำเลนี้เท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็น ย่านงามวงศ์วาน ย่านบางกะปิ หรือย่านถนนสุขุมวิท บริเวณ BTS พร้อมพงษ์

ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้ากลุ่ม Em District

โดยเราจะเห็นได้จากโครงการต่าง ๆ ของ The Mall Group

ที่ได้พิสูจน์ความสำเร็จ จนเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กในย่านนั้นไปแล้ว อย่างเดอะมอลล์งามวงศ์วาน, เดอะมอลล์บางกะปิ

หรือ The EMSPHERE หนึ่งในศูนย์การค้ากลุ่ม Em District ย่านพร้อมพงษ์ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ และกลุ่มคนรุ่นใหม่

และถ้าหากพูดถึงโปรเจกต์ถัดไปของ The Mall Group ที่น่าจับตามองก็คือ

Bangkok Mall ที่ตั้งอยู่บริเวณแยกบางนา ตรงข้ามกับไบเทค บางนา