Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
24 ม.ค. 2024 เวลา 08:15 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สำรวจปัจจัยพื้นฐาน 5 หุ้น เหมาะลงทุนแบบ DCA รอตลาดฟื้นตัว
ตั้งแต่เปิดต้นปี 2567 ดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ยังเคลื่อนไหวไม่ได้ไกลมากนัก โดยปัจจุบันก็ลดลงมาต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด แต่ถึงอย่างไรก็ดีนักลงทุนหลายคนก็อาจจะมองหาโอกาสการลงทุนในหุ้นที่น่าสนใจ ซึ่งทางเราก็ได้รวบรวมมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันในวันนี้
โดยข้อมูลจากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่า มูลค่าของตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันถูกใกล้เคียงกับช่วง COVID-19 หรือ มี P/E อยู่ที่ 14 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 1.3 เท่า ซึ่งแม้ว่าตลาดจะยังมีความเสี่ยงที่เกิดดาวน์ไซด์ค่อนข้างจำกัด
แต่อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังรอพัฒนาการหลายอย่าง ทั้งนโยบายการกระตุ้นของภาครัฐและมาตรการที่สอดคล้องกันระหว่างผู้กำหนดนโยบาย รวมถึงงบไตรมาส 4/66 จึงแนะนำให้เน้น DCA ในหุ้น CPALL, ITC, KKP, SPRC, และ LH
สำหรับปัจจัยพื้นฐานหุ้นรายตัวเริ่มกันที่ CPALL บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด คาดกำไรปี 2567 อยู่ที่1.9 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 15.3% ได้แรงหนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายต่อใบเสร็จที่สูงขึ้นรวมถึงการขยายสาขา, อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นของ CPAXT
ดังนั้น จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 74 บาท โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงถูกกดดันจากความกังวลผลการดำเนินงานของ CPAXT ฟื้นตัวช้า แต่คาดผลประกอบการไตรมาส 4/66 ฟื้นตัวแข็งแกร่งบวกกับผลการดำเนินงานของธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้กำไรไตรมาส 4/66 ของ CPALL โตเด่น และในแง่มูลค่าหุ้นยังไม่แพง
ถัดมาที่ ITC บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด ได้คาดกําไรปี 2567 จะกลับมาเติบโต 26.5% เป็น 2.88 พันล้านบาท จากแนวโน้มปริมาณคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น, การเจาะตลาดและขยายฐานลูกค้าใหม่, การเพิ่มสัดส่วนขายในกลุ่ม PREMIUM รวมถึงเพิ่มกําลังการผลิตจากโรงงานใหม่
ทั้งนี้ คงแนะนํา Outperform ราคาเป้าหมายที่ 23 บาท จากการฟื้นตัวของกําไรไตรมาส 4/66 และกลับมาเติบโตรอบใหม่ในปี 2567 แต่ด้วยราคาหุ้นเหลือที่เหลืออัพไซด์เพียง 10% จึงแนะนําหาจังหวะลงทุนเมื่อราคาอ่อนตัว จะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม
ต่อมา KKP บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดกำไรสุทธิปี 2567 จะอยู่ที่ 7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นปีก่อนหน้า 28% จากฐานต่ำในปีก่อน ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 จะลดลงจากช่วงเดียวกันด้วยผลขาดทุนรถยึดที่คาดว่าจะทรงตัวสูงต่อ แต่จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าด้วยฐานต่ำ
อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 52 บาท เนื่องจากมีความเสี่ยงจากขาดทุนรถยึดที่มีโอกาสมากกว่าคาดจากการเร่งขายรถมือสองในจำนวนที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้ม NPLs ที่จะสูงขึ้นมากกว่าคาด
ด้าน SPRC บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าในปี 2567 บริษัทจะพลิกเป็นกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท เนื่องจากกลับมาใช้งาน SPM ซึ่งจะทำให้ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และกำไรของธุรกิจเชื้อเพลิง ซึ่งประเมินแบบอนุรักษ์นิยมไว้ที่ 600 ล้านบาทในปี 2567
ดังนั้น จึงให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท ด้วยปัจจัยพื้นฐานของการพลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่ง จากอัตราการกลั่นน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น, ค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเพราะไม่มีการปิดซ่อมบำรุง, ผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันน่าจะลดลง และกำไรจากธุรกิจเชื้อเพลิง
สุดท้าย LH บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด ประมาณการกําไรปี 67 ที่ 7.3 พันล้านบาท (ยังไม่รวมขายสินทรัพย์) เติบโตจากปีก่อน 21.8% ตามยอดโอนที่เพิ่มขึ้นและรายได้ค่าเช่าที่เติบโตขึ้น รวมไปถึงรับรู้ส่วนแบ่งกําไรบริษัทร่วมทุนอีก 3.55 พันล้านบาท
พร้อมกันนี้ คงแนะนํา “Outperform” ราคาเป้าหมาย 10 บาท จากแรงหนุนของการขายโรงแรมเข้า REIT จะหนุนกําไรสุทธิไตรมาส 4/66 เติบโตทั้งช่วงเดียวกันและไตรมาสก่อน นําไปสู่ปันผลช่วงครึ่งปีหลังปี 66 ที่หุ้นละ 0.35 บาท หรือ 4.4% และเกือบ 7% ต่อปี
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย