"ชิป" จากส่วนที่เล็กที่สุด สู่ผู้ขับเคลื่อนวงการเทค
ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีเดินหน้าเร็วจนตามไม่ทัน หนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับความต้องการอย่างล้นหลามก็หนีไม่พ้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า “ชิปประมวลผล” เนื่องจากชิปอันทรงพลังนี้เป็นวัสดุสำคัญที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกต้องมี และถ้าหากพูดถึงอุตสาหกรรมนี้แล้ว หลายคนก็คงจะเคยได้ได้ยินชื่อผู้ผลิตชื่อดังทั้งหลายอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Nvidia หรือ Intel ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่มากๆ ในตลาด
แต่…ทุกคนรู้ไหมว่า ทั้งสองผู้ผลิตรายใหญ่นี้ มี Supplier ที่ผลิตวัตถุดิบสำหรับทำชิป หรือที่เรียกว่า “เซมิคอนดักเตอร์” เป็นคนเดียวกัน นั่นคือ TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company นั่นเอง TSMC เป็นหนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติใต้หวันที่มีฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในโลก และนอกจาก Nvidia กับ Intel แล้ว TSMC ยังมีสัญญาเป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้กับ Apple และ Google อีกด้วย
และถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจอ่อนแอลง แต่รายได้ในไตรมาส 4/2566 ของ TSMC กลับสูงกว่าการคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ซะอีก ยิ่งแสดงให้เห็นว่าความต้องการของเซมิคอนดักเตอร์นั้นสูงมากจริงๆ
นอกจากนั้นยังมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในไต้หวัน ที่อาจจะมาเป็นตัวกำหนดชี้ชะตาของ “ประเทศไต้หวัน” ว่าจะเลือกสร้างความสัมพันธ์กับฝั่ง สหรัฐฯ หรือ จีน มากกว่ากัน ซึ่งพรรคที่ได้รับเสียงข้างมากในการเลือกตั้งวันที่ 13 ม.ค. 67 ที่ผ่านมาคือพรรค DPP ซึ่งเป็นพรรคเดิมจากสมัยที่แล้ว ที่มีความเป็น ประชาธิปไตย และชอบติดต่อค้าขายพัฒนาความสัมพันธ์กับโลกภายนอกมากกว่ากับประเทศจีน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา TSMC ได้ขยายฐานการผลิตและทำสัญญาร่วมกับหลายประเทศมากๆ ตั้งแต่ ญี่ปุ่น (Sony), เยอรมัน (Bosch) และได้สร้างฐานผลิตที่รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นการมีรัฐบาลที่จะเข้ามาสนับสนุนการค้าขายกับโลกภายนอกด้วยแล้ว ยิ่งเหมาะสมกับแนวทางทำธุรกิจของ TSMC เป็นอย่างมาก
ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ในสมัยที่แล้วได้มีการสนับสนุน TSMC ทั้งภายในประเทศโดยตรงและทางอ้อมโดยการผลักดันให้ TSMC ที่เป็นบริษัทไต้หวัน ได้มีส่วนร่วมในโครงการสนับสนุนธุรกิจชิป มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่จัดทำโดยสหรัฐฯ และ สหภาพยุโรป (EU) หรือที่เรียกว่า “Chip Act” ในปี 2023 นั่นเอง
เรียกได้ว่าค่อนข้างที่จะถูกที่ถูกเวลาและยังมีกลยุทธ์การทำธุรกิจที่ถูกจังหวะอีก TSMC จึงมีโอกาสได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงการเลือกตั้งไต้หวันครั้งนี้ไปอย่างมาก
ถ้าหากนักลงทุนคนไหนสนใจลงทุนในกลุ่มธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ บลจ.ดาโอ ขอแนะนำกองทุน DAOL-EVOSEMI (ความเสี่ยงระดับ 7: เสี่ยงสูง) กองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยีที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และเลือกลงทุนแบบกระจายการลงทุนในทุกประเทศยักษ์ใหญ่ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในหลายประเทศ
รู้จักกับกองทุน DAOL-EVOSEMI ให้มากขึ้น คลิกเลย https://daolinvestment.co.th/mutual-fund/equity-fund/daol-evosemi
.
💰 เปิดบัญชีออนไลน์ง่าย ๆ ได้แล้ว: https://oa.daolinvestment.co.th/index.html
💵 ซื้อผ่านตัวแทนการขาย: https://daolinvestment.co.th/investor-services/selling-agents
☎️ Contact center: 02-351-1800 กด 2
❗️ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
❗️เนื่องจากกองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศ และไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน โดยป้องกันความเสี่ยง ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงิน ลงทุนเริ่มแรกได้
❗️สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมพร้อมรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด (บลจ. ดาโอ) หรือตัวแทนการขายและรับซื้อหน่วยลงทุนคืนของ บลจ.ดาโอ
อ้างอิง
TSMC เผยกำไร-รายได้สูงกว่าคาดการณ์ใน Q4/66 แม้เศรษฐกิจชะลอตัว,18 ม.ค. 67
TSMC Seeks $15B In Subsidies, Wants To Negotiate Certain Terms Of US Chips Act Like Profit Sharing, 19 April 2023
TSMC in Germany: The successes and limits of the EU Chips Act, 10 Aug 2023
- 12
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
