“ฉิบหายแน่”

บทสรุปสุดท้าย (20/2)
นายทรูแมน เป็นชาวอเมริกัน เชื้อสายอังกฤษ ปน สก๊อต-ไอริช
ปนเยอรมัน และ ฝรั่งเศส …ผสมผเสกันยุ่งไปหมด …
ครอบครัวเขาไม่ใช่ชนชั้นอีลิต แบบพวก CFR
แต่เป็นชาวบ้านธรรมดา ที่ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์
แถมค่อนข้างอัตคัดเงินทอง ทำให้ครอบครัวไม่สามารถส่งเสีย
ให้นายทรูแมนได้ไปเรียนหนังสือในสถานการศึกษาระดับหรูหราได้
นายทรูแมนก็เลยไปสมัครสอบเข้าเรียนการทหาร
ที่สถาบัน West Point อันลือชื่อของบ้านปากเหม็น
เพราะรัฐไม่เก็บค่าเล่าเรียน
แต่นายทรูแมน สอบไม่ผ่าน เข้าเรียนไม่ได้
เพราะเขามีสายตาสั้นมาก
แต่นายทรูแมนไม่ยอมแพ้ …คราวนี้เขาไปยื่นใบสมัคร
เพื่อเข้าอยู่หน่วยรักษาดินแดน ของรัฐมิสซูรี (Missouri)
ใน ปี คศ 1905… และอยู่ต่อมาจนถึงปี คศ 1911
จากข้อมูลประวัติของเขา…บอกว่าในตอนสมัครเข้าหน่วยรักษาดินแดน
ครั้งแรกนั้น …เขาก็สอบไม่ผ่านเกี่ยวกับการทดสอบเรื่องสายตาเช่นกัน
แต่นายทรูแมน ก็ไปสมัครอีกรอบ…และคราวนี้เขาใช้วิธีท่องจำ
การทดสอบเกี่ยวกับสายตา ที่เขาจำได้จากการสอบคราวก่อน…
และคราวหลังนี้ เขาก็เลยสอบผ่าน…
นายทรูแมน คงเป็นประเภทห่างไกลจากคำว่า “ซื่อบื้อ”
เมื่อบ้านปากเหม็นได้เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี คศ 1917
นายทรูแมน ก็ไปสมัครเป็นทหาร และเมื่อสงครามจบสิ้นลง
เขายังคงชื่อไว้เป็นทหารกองหนุน…
และก็ไปทำมาค้าขายเล็กๆน้อยๆด้วย …ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ
นายทรูแมน ก็เลยเบนเข็มไปเล่นการเมืองระดับท้องถิ่น
ซึ่งมีทีท่าว่าจะไปได้ดีพอสมควร …
เพราะได้ผู้หนุนหลัง เป็นระดับเจ้าพ่อทางการเมืองท้องถิ่น
ชื่อ Tom Pendergast …ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็นนักเลงใหญ่
หรือเจ้าพ่อและมือไม่สะอาด (ตามปรกติของพวกเจ้าพ่อ)
หลังจากนั้น นายทรูแมน ก็วนเวียนอยู่กับการเป็นนักการเมือง
ระดับท้องถิ่น ในตำแหน่งต่างๆ และของรัฐต่างๆ …
ทำให้เขารู้จักและมีเพื่อนในวงการเมืองไม่น้อย
ในที่สุด เขาก็ไปลงสมัคร …และได้รับการเลือกตั้ง…
ได้เป็นถึงท่านวุฒิสมาชิกของรัฐมิสซูรี่ ในปี คศ 1934
โดยเป็นที่รู้จักของชาวบ้านในชื่อ “ท่านวุฒิฯของเจ้าพ่อ Pendergast”
คงจะคล้ายๆเป็น …ท่านวุฒิฯ โควต้าของพวกเจ้าพ่อถุง…
มันเป็นการประทับตรา ที่นายทรูแมนใช้เวลานานมาก
กว่าจะลบตราประทับนั้นให้จางลงไป(บ้าง)
หลังจากได้เป็นท่านวุฒิสมาชิก …นายทรูแมนก็ประกาศชัด
ว่าเขาไม่ชอบพวกนักการเงินขี้โกงแถบวอลสตรีท
และเชื่อว่าพวกนี้กำลังขยายอิทธิพล …
เพื่อจะเข้ามามีอำนาจในวงการเมืองของบ้านปากเหม็น
แบบนี้ เขาก็คงไม่ใช่เป็นขวัญใจ ของพวก CFR
ที่กำลังคิดจะทำการบ้านใหญ่ ร่วมกับพวกนายทุนใหญ่
และพวกนักการเมืองใหญ่ของบ้านปากเหม็น
นายทรูแมน ยังได้เป็นวุฒิสมาชิกต่ออีกหลายสมัย …
และเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่มตั้งเค้า
เขาก็ประกาศจุดยืนของเขา ว่า เขาไม่ชอบ…
ทั้งพวกนาซีเยอรมัน และ พวกคอมมิวนิสต์รัสเซีย
ในฐานะวุฒิสมาชิก ที่ค่อนข้างเอาจริงและมีความเป็นผู้นำสูง
ทำให้นายทรูแมนได้เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ของรัฐสภาหลายคณะ
ในปี คศ 1944… นายทรูแมน ตรวจสอบพบว่า มีโครงการหนึ่ง…
ที่มีค่าใช่จ่ายสูงอย่างมากและ มีการปกปิดอย่างซับซ้อนผิดปรกติ
ชื่อ โครงการ “ Manhattan Project”
เขาจึงพยายามขุดค้นอย่างเอาจริง …
แต่ นาย Henry L Stimson…ซึ่งเป็น รมต กลาโหมขณะนั้น
และเป็นสมาชิกคนสำคัญ ของ CFR ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง…
และเป็นผู้ร่วมทำงาน ในโครงการ War & Peace ด้วย
ได้พยายาม บีบมือ (หรือบีบอย่างอื่น !)
“เกลี้ยกล่อม” ให้นายทรูแมนล้มเลิกการตรวจสอบโครงการดังกล่าว
Manhattan Project …คือ โครงการลับ …
ในการสร้างอะตอมมิคบอมบ์ของบ้านปากเหม็น
สำหรับเตรียมใช้กับญี่ปุ่น…ซึ่งมีแต่ “คนวงในสุดๆๆ” เท่านั้น
ที่จะได้รับรู้ หรือรู้ถึงโครงการนี้
และในตอนนั้น นักการเมืองร่วมทั้งชาวบ้านปากเหม็นทั่วไป
ดูเหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่อโครงการนี้เลยด้วยซ้ำ
ในช่วงนั้นใกล้จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
และ FDR ก็เตรียมตัว ที่จะลงแข่งอีกรอบ
ในเดือนพฤศจิกายน คศ 1944…
โดยเขาประกาศ ว่าเขาจะเอา นาย Henry Wallace
ซึ่งเป็นรองปธนของเขาในตอนนั้น …มาร่วมลงแข่งด้วยกันเหมือนเดิม
แล้วอยู่ๆ ก็มีขบวนการ เราไม่เอา Wallaceๆๆๆๆ โผล่ขึ้นมา
จากข้ออ้าง ว่า นาย Wallace เอียงซ้ายมากไป และสนับสนุนกลุ่มกรรมกรมากไป
เป็นที่ขัดใจของกลุ่มนายทุน ที่สนับสนุน FDR มาตั้งแต่ต้น
หลังจากนั้น ก็มีเสียงเรียกร้อง ให้ FDR หันมาเลือก “นายทรูแมน”
ให้มาเข้าคู่ลงแข่งเพื่อเป็น รอง ปธนในการเลือกตั้ง… แทนนาย Wallace
ตอนแรกๆ นายทรูแทนปฏิเสธไม่เอาด้วย เพราะเขาก็แทบไม่รู้จัก
กับ FDR… มันคนละสังคม คนละระดับกันเลยด้วยซ้ำ
และการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ก็เกิดขึ้น
และก็เป็นเรื่องแปลกแต่จริง …ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น
ก็ปรากฏว่า …ทีม FDR บวก ทรูแมน …
ชนะการเลือกตั้งอย่างฉลุย… ด้วยคะแนน 432 ต่อ 99
และนายทรูแมน ก็ได้สาบานตน เป็นท่านรองประธานาธิบดี
ในวันที่ 20 มกราคม คศ 1945…
นายทรูแมน เป็นรองประธานาธิบดีคนแรกของบ้านปากเหม็น
ที่มีตำรวจลับ ทำนองสันติบาลแบบบ้านเรา …
(ในตอนนั้น บ้านปากเหม็นยังไม่ได้ก่อตั้ง องค์กร ซี…)
ได้รับมอบหมายให้ติดตามเขา…แบบประกบติด…
สงสัยเขาคงเป็นที่รักมาก น่าเป็นห่วงมาก
หรือมีใครอยากรู้ ทุกฝีก้าว ทุกกิจกรรม และทุกคำพูดของเขา
ระหว่างที่ ดำรงตำแหน่ง เป็น รอง ปธน …
นายทรูแมนแทบไม่ได้พบพูดคุย กับ FDR เลย
ดูเหมือน จะได้มีการคุยกัน 2 ต่อ 2 …
ในฐานะ ปธน กับรอง ปธน …เพียง 2 ครั้งเท่านั้น
นายทรูแมน อยู่ในตำแหน่ง รอง ปธน ได้เพียง 82 วัน …
เมื่อ ปธน FDR ถึงแก่กรรมอย่างกระทันหัน ในวันที่ 12 เมษายน คศ 1945
เมื่อนายทรูแมน รับตำแหน่งเป็น ปธน ต่อจาก FDR ตามกฏหมายนั้น
ที่ทำเนียบขาว มีเจ้าหน้าที่ประจำน้อยมากอย่างไม่น่าเชื่อ
(เข้าใจว่า FDR ใช้คนทำงานส่วนใหญ่ จากทีมทำงานกลุ่ม CFR)
แล้วนายทรูแมน ก็เลยเปลี่ยนคนทำงานเหล่านั้น
รวมทั้งที่ปรึกษาของทำเนียบขาว…
โดยเอาพรรคพวก “ของเขา” เข้ามาแทน
และต่อมาบุคคลเหล่านั้น ก็ถูกนินทา
ว่าเป็นพวกไร้ความสามารถ และเกือบทั้งสิ้น …
รวมทั้งตัวท่าน ปธน คนใหม่ ก็ชอบเล่นการพนัน
คือชอบเล่นไพ่โป๊กเกอร์อย่างมาก และ เล่นพนันกันอย่างเอาจริง
และ ยังชอบดื่มจัดอีกด้วย
ไม่นานนัก … คนทำงานและพวกที่ปรึกษาสายโป๊กเกอร์ ก็หายไป
และสาย CFR ก็กลับเข้ามา เต็มทำเนียบเหมือนเดิม
การมองการณ์ไกลของพวก CFR …ที่ “จัดการ” เปลี่ยนตัว
รอง ปธน … จาก นาย Wallace …มาเป็นทรูแมน นั้น …
น่าทึ่งและน่าสนใจอย่างยิ่ง
เหมือนหยิบเอาหุ่นเชิดมาผิดตัว ผิดรูปแบบ
เป็นหุ่นเชิด ที่เหมือนไม่ได้มีอะไรเหมือนพวกฉลาดล้ำ CFR
นายทรูแมนเป็นคนพูดน้อย แต่พูดตรง และชัดเจน
มีสีหน้าเรียบเฉย หรือยิ้มอยู่ในหน้าเสมอ
ซึ่งทำให้ดูไม่ออกและเดายากอย่างยิ่ง ว่าเขากำลังคิด หรือ รู้สึกอย่างไร
ขณะเดียวกันแววตาเขา กลับแสดงถึงความแน่วแน่…
มันเป็นรูปแบบ ของเซียนโปกเกอร์ระดับเทพเชียวนะนั่น
และคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น ของนายทรูแมน
คงสมใจพวก CFR …เพราะสามารถนำมาใช้ได้สมประโยชน์
ของบ้านปากเหม็นในจังหวะเวลาที่เหมาะสมได้อย่างเหลือเชื่อ
วันที่ 12 เมษายน คศ 1945…วันเดียวกับที่ ปธน FDR เสียชีวิตนั้น…
นายทรูแมน เพิ่งจะได้รับรู้ “เรื่องจริง”
และรายละเอียดที่สำคัญ เกี่ยวกับ Manhattan Project …
รวมทั้งอานุภาพอันสูงส่ง ของอาวุธที่ Manhattan Project
กำลังดำเนินการจัดสร้างนั้น… จากนาย Henry Stimson…
ผู้เป็นท่าน รมว กลาโหมของบ้านปากเหม็น …
ที่รู้เห็นและดูแลเกี่ยวกับโครงการนี้ มาตั้งแต่ต้น
ดูเหมือน การ “รับรู้” เรื่องดังกล่าว ไม่ได้ทำให้นายทรูแมนตื่นตระหนกแต่อย่างใด…เขากลับนั่งฟังอย่างหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์…
ความเป็นเซียนโป๊กเกอร์คงช่วยเขาได้แยะ
หลังจากนั้นเพียง 3 เดือน…วันที่ 16 กรกฎาคม คศ 1945…
นายทรูแมน …ปธนคนใหม่ทอดด้าม ของบ้านปากเหม็น
ก็ต้องเดินทางไปเบอร์ลิน เพื่อไปประชุม Potsdam Conference
ระหว่างผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของฝ่ายพันธมิตร ทั้ง 3…
คือ หลอดเชอร์ชิล สตาลิน และตัวเขาเอง
ซึ่ง นายทรูแมน ไม่เคยรู้จัก ทั้ง 2 คนมาก่อนเลย
เหมือนเขาต้องออกโรง แสดงฉากที่สำคัญของโลกเป็นครั้งแรก
โดยไม่ได้มีการซักซ้อมมาก่อน…
แต่ก็ไม่ได้ทำให้สีหน้า หรือ อาการของนายทรูแมน
ผิดแผกไปแต่อย่างใด
และในวันนั้นเอง เขาได้รับรายงาน the Trinity Test …
หรือ การรายงาน…เป็นครั้งแรก …ว่า การทดลอง อะตอมมิคบอมบ์
ครั้งสำคัญของบ้านปากเหม็น…ประสบความสำเร็จอย่างสูง …
และเขาได้บอกเป็นนัยๆ ด้วยหน้านิ่งๆ กับสตาลิน
ว่าเราจะใช้อาวุธนี้กับญี่ปุ่น !!!
นี่เป็นครั้งแรก ที่บ้านปากเหม็นบอกเรื่องอาวุธนี้
กับสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการ…
แต่ดูเหมือนสหภาพโซเวียต ก็รู้เรื่องอาวุธมหาประลัยนี้มานานแล้ว
จากหน่วยข่าวกรองของฝ่ายตนเอง
แต่มันก็ทำให้ สตาลิน มีความรู้สึกดีขึ้น…
ว่าบ้านปากเหม็น ไม่ได้มองเขาแบบ “เป็นคนนอก”
และการประชุมที่ Potsdam จึงมีมติให้ฝ่ายพันธมิตร
แจ้งให้ฝ่ายญี่ปุ่นยอมแพ้อย่างโดยดี ในเดือนสิงหาคม คศ 1945…
แต่ญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะยอมแพ้…
และ ปธน ทรูแมน จึงสั่งให้กองทัพของบ้านปากเหม็น
ทิ้งระเบิดมหาประลัยนั้น ใส่ Hiroshima
ในวันที่ 6 สิงหาคม คศ 1945 และ ทิ้งใส่ Nagasaki 3 วันต่อมา …
หลังจากนั้น สหภาพโซเวียต ก็ได้ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น
ในวันที่ 6 สิงหาคม คศ 1945 …พร้อมยกพลบุกแมนจูเรียของจีน
ที่ญี่ปุ่นครอบครองอยู่ …เอาคืนให้แก่จีน
และในที่สุด … จักรพรรดิ Hirohito ของญี่ปุ่น …
ก็ประกาศยอมแพ้ ในวันที่ 15 สิงหาคม คศ 1945
หลังจากนั้นในวันที่ 2 กันยายน คศ 1945 …
ญี่ปุ่นก็ทำสัญญายอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
ทุกอย่างเดินหน้า ตามแผน War & Peace ของ CFR
อย่างไม่มีผิดเพี้ยน
สวัสดีครับ
จาก คนเล่านิทาน
22 มกราคม 2567
เชิญแชร์กันตามสบาย ถ้าไม่ใช่เพื่อการค้า และโปรดให้เครดิตด้วย
ภาพประกอบจากกูเกิล
โฆษณา