29 ม.ค. เวลา 10:04 • สิ่งแวดล้อม

จีนจัดหนัก!! ทุบสถิติเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์กว่า 216,900 เมกกะวัตต์ในปีที่ผ่านมา

โดยเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาทางการจีนได้ออกมาเปิดเผยว่าในปี 2023 นั้นกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 55.2% ทำให้วันนี้จีนมีกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์รวมทะลุ 609,500 เมกกะวัตต์ โดยแค่ปีเดียวที่ผ่านมาจีนติดตั้งโซล่าเซลล์เพิ่มไปได้มากกว่าที่อเมริกามีอยู่ทั้งประเทศเสียอีก!!
5
ซึ่งไม่ใช่แค่กำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด กำลังการผลิตไฟฟ้าจากลมก็เพิ่มขึ้นอีก 75,900 เมกกะวัตต์เพิ่มขึ้น 20.7% จากปี 2022 ทำให้แค่ปีเดียวจีนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมและแสงแดดไปเกือบ 3 แสนเมกกะวัตต์เลยทีเดียว!! ดันให้จีนมีกำลังการผลิตด้วยพลังลมและแสงแดดทะลุ 1 ล้านเมกกะวัตต์ไปเป็นที่เรียบร้อย
1
ซึ่งจากรายงานของ International Energy Agency(IEA) ระบุว่าในปีที่ผ่านมามีการติดตั้งกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนเพิ่มรวมกว่า 510,000 เมกกะวัตต์ทั่วโลก โดยจีนชาติเดียวนั้นถือครองสัดส่วนที่ 58% ของพลังงานแสงอาทิตย์และ 60% ของพลังงานลมที่มีการติดตั้งไปในปีที่ผ่านมา
3
มาเต็มทั้งสายลมและแสงแดด รักษ์โลกสุด ๆ เลยครับพี่จีน
นั่นทำให้จีนกำลังจะกลายมาเป็นหัวหอกในการสู้โลกร้อนเต็มตัวด้วยอัตราการใช้พลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนรวมไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์หรือลมที่ 1.2 ล้านเมกกะวัตต์ภายในปี 2030 ของจีนนั้นดูจะเร็วกว่าแผนที่วางไว้ร่วม ๆ 5 ปีเลยทีเดียว
1
โดยจากรายงานของรอยเตอร์ได้ระบุว่าอัตราการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื่อเพลิงฟอสซิลเดิมที่มีอยู่เริ่มลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังการผลิตติดตั้งจากพลังงานหมุนเวียนที่เข้าไปในระบบอย่างมหาศาลนั้นเริ่มมากกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันกำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำของจีนในปีที่ผ่านมานั้นกลับลดลง 5.6% อันอาจเป็นเพราะผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลต่อต้นทุนน้ำในการผลิตไฟฟ้า
เขื่อนสามผาของจีน ที่ว่ากันว่าทำให้โลกหมุนรอบตัวเองช้าลง
โดยการทุบสถิติครั้งนี้เรียกได้ว่าทุบกระจุยเพราะ 216,900 เมกกะวัตต์นี้มากกว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งเพิ่มทั่วโลกในปีที่ผ่านมา(ก็จัดไป 58% เลยทีเดียว) และทุบสถิติการติดตั้งในปีที่แล้วของจีนที่ 87,400 เมกกะวัตต์แบบไม่เห็นฝุ่น
1
แม้ว่าจะเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียนเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง แต่จากรายงานของ Bloomberg ยังระบุว่าจีนนั้นยังต้องเจอกับความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเพราะปัจจุบันจีนยังคงมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอยู่กว่า 59% แม้ว่าจีนจะยืนยันว่าจะเริ่มลดลงในปี 2025
รวมถึงยังมีข้อถกเถียงถึงความจำเป็นในการมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านจากการใช้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นพลังงานหมุนเวียน ทั้งนี้แม้ว่ากำลังการผลิตด้วยสายลมและแสงแดดจะโตทะลุเป้าแต่เมื่อถึงเวลากลางคืนกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศจีนจะหายไปกว่า 6 แสนเมกกะวัตต์เลยทีเดียว และจะยิ่งมากขึ้นในอนาคต
1
แม้จะอัดพลังงานแสงอาทิตย์และลมมาขนาดนี้แต่จีนก็ยังไม่หลุดบ่วงโรงไฟฟ้าถ่านหิน
นั่นคือความท้าทายในการบริหารจัดการความมั่นคงของระบบไฟฟ้าทั่วประเทศด้วยระบบกับเก็บพลังงานที่ต้องมีมากมายมหาศาลตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าแบตเตอรี่, Pump Hydro Energy Storage ฯลฯ
รวมถึงความท้าทายในเรื่องระบบส่งไฟฟ้าที่แหล่งผลิตพลังงานหมุนเวียนเหล่านี้อยู่ห่างไกลจากแหล่งผู้ใช้ไฟ ซึ่งจีนก็ได้มีความพยายามในการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าโดยใช้ระบบไฟกระแสตรงแรงดันสูง(HVDC) สำหรับระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงข้ามจากซีกตะวันตกของประเทศซึ่งเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่มายังฟากตะวันออกของประเทศ
หนึ่งในโครงการพัฒนาสายส่งระบบไฟกระแสตรงแรงดันสูง (HVDC) ด้วยระยะทางยาวร่วมสามพันกิโลเมตร
ทั้งนี้ในปี 2023 ที่ผ่านมาประเทศจีนยังมีการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลกว่า 58,000 เมกกะวัตต์ ทำให้ยังคงมีคำถามถึงแนวนโยบายด้านพลังงานของจีนว่าที่ยังคงมีการเพิ่มกำลังการผลิตแบบคู่ขนาน
2
การที่จีนสามารถอัดเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้มากขนาดนี้ส่วนหนึ่งก็มีสาเหตุมาจากราคาแผงโซล่าเซลล์ที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งประเทศทางตะวันตกนั้นกลับแทบไม่ได้รับผลประโยชน์จากราคาที่ลดลงนี้เพราะต้นทุนค่าขนส่งทำให้ราคาต้นทุนระบบโซล่าเซลล์ไม่ได้ลดลงสักเท่าไหร่นัก
2
แม้ว่าจีนจะเพิ่มกำลังการผลิตอย่างมหาศาลในปี 2023 แต่ Bloomberg ยังคงคาดการณ์ว่าจีนจะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนไม่หยุดในปี 2024 นี้โดยคาดว่าพลังงานแสงอาทิตย์จะเพิ่มขึ้น 7% และพลังงานลมจะเพิ่มขึ้นอีก 11% (แต่ส่วนตัวคิดว่าอาจจะมากกว่านี้)
โซล่าฟาร์มลอยน้ำ อีกหนึ่งแนวทางการเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์โดยไม่ต้องมีประเด็นเรื่องการแย่งใช้พื้นที่
ก่อนหน้านี้จีนถูกโจมตีว่าเป็นหนึ่งในชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก แต่จากรายงานล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่าจีนเอาจริงกับการมุ่งเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และอาจกำลังสร้างความได้เปรียบจากสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่ปัญหาโลกร้อนอาจนำมาสู่รูปแบบใหม่ของการกีดกันทางการค้าโดยอ้างเหตุผลต้นทุนด้านสิ่งแวดล้อม
2
พี่จีนนี่ทำอะไรสุดโต่งจริงครับ แต่สุดโต่งรอบนี้ฝรั่งมีสะดุ้งแน่นอนเพราะแทนที่จะได้เอาเรื่องพลังงานสะอาดมากีดกันสินค้าจากจีน ดีไม่ดีตัวเองจะโดนก่อนซะงั้น
5
โฆษณา