29 ม.ค. เวลา 06:45 • ความคิดเห็น

.“คัลแลน - พี่จอง” ความธรรมดาที่แสนพิเศษ

ไม่ต้องด่า ไม่ต้องก่อดราม่า ไม่ต้องสร้างซีนประดิษฐ์
แต่กลับสามารถเข้าไปอยู่ในใจคนดูได้อย่างไม่มีข้อแม้
ภาพจำของการเป็น Youtuber เป็น Influencer ในไทยถ้าไม่ใช่สายสาระความรู้ไปเลย ก็จะเป็นสายบันเทิง สายท่องเที่ยว ซึ่งสายท่องเที่ยวนับว่าได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเหมือนได้ดูคนอื่นท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ เป็นตัวแทนของผู้คนจำนวนมากที่ได้ไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตในที่ที่ไม่เคยได้มีโอกาสไป และถ่ายทอดเรื่องราวออกมาเป็นผ่านคลิปวีดีโอสู่สายตาผู้ชมบนแพล็ตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ของตัวเอง
ในช่วงที่ผ่านมามี Youtuber ในประเทศไทยเกิดขึ้นมากมายทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ แต่ตอนนี้คงไม่มีใครที่โด่งดังเป็นพลุแตกอย่างรวดเร็วเท่ากับ “คัลแลน - พี่จอง” สอง Youtuber สายท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้จากช่อง “Cullen Hateberry” ที่ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดผู้ติดตามของช่องพุ่งทะลุ 1.9 ล้านคน จากตอนแรกที่มีผู้ติดตามเพียงหลักแสนมาเกือบปี และยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่องไม่หยุด ขณะที่ยอดวิวในแต่ละคลิปที่ปล่อยมาก็ทะลุล้านวิวอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมง
ไม่เพียงเท่านั้น ในโลกของความเป็นจริงทั้งสองคนและเพื่อนๆ ที่เคยทำคลิปด้วยกันก็กลายเป็นบุคคลสาธารณะที่มีผู้คนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม มีแบรด์สินค้าระดับโลกจับจองตัวไปเป็นพรีเซนเตอร์
จนล่าสุดเกิดปรากฎการณ์ สยามสแควร์แตกเมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อทั้งคู่ไปปรากฎตัวในฐานะพรีเซนเตอร์ท่านหนึ่งของแบรนด์เครื่องสำอางที่เคยเข้าเป็นผู้สนับสนุนในคลิปของพวกเขาตั้งแต่ที่ยังไม่ได้โด่งดังขนาดนี้ และบรรยากาศในวันนั้นมีผู้คนนับพันๆ คนไปรอต้อนรับประหนึ่งว่าเขาคือ ซุปเปอร์สตาร์คนหนึ่งไปเป็นที่เรียบร้อย
ถ้ามองในมุมของการใช้มาตรฐาน Beauty Privilege แล้วทั้งสองคนก็ถือว่าเป็นชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีที่เป็นลักษณะนิยมของคนไทย และด้วยการเป็นเป็นชาวเกาหลีใต้ ที่วัฒนธรรมบันเทิงและภาพลักษณ์แบบชาวโสมขาวเป็นที่ถูกจริตของคนไทยแล้ว ก็ย่อมไม่แปลกใจที่ผู้คนจะลองเปิดใจดู และยิ่งการดำเนินเรื่องราวในคลิปที่ทั้งสองคนใช้ภาษาไทยสื่อสารตลอดเวลาแบบผิดบ้างถูกบ้าง กลายเป็นความน่ารักน่าเอ็นดูของผู้ชมที่เห็นถึงความพยายามของชาวต่างชาติในการใช้ภาษาท้องถิ่น
ถ้าเพียงแค่มาตรฐานค่านิยมความงามและความน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะก็ต้องยอมรับว่า Youtuber หลายคนทั้งไทยและเทศก็มีรูปลักษณ์ภายนอกที่น่าดึงดูดผู้ชมไม่แตกต่างกัน หล่อ สวย เก่ง ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แต่สิ่งที่ทำให้คัลแลนด์กับพี่จองโดดเด่นทะลุทะลวงคนอื่นๆ ขึ้นมาก็คือ “ความธรรมดาๆ ที่แสนพิเศษ แต่เป็นธรรมชาติ” ของทั้งสองคนนั่นเอง
ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ในสังคมโซเชียลมีเดีย การที่ใครสักคนจะโด่งดังได้นั้น ไม่ได้เกิดจากการทำคอนเทนต์เก่ง โปรดักชันสวย หรือเนื้อหาดีเพียงเท่านั้น แต่คนดังโลกออนไลน์จำนวนไม่น้อยเกิดขึ้นมาจนเป็นที่รู้จักจากการเกิดประเด็นดราม่า จนกลายเป็นข่าวในระดับที่สังคมให้ความสนใจว่า คนๆ นี้คือใคร ซึ่งดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเกิดจากความบังเอิญ หรือความตั้งใจพยายามสร้างดราม่า เพื่อให้เกิดซีนในคลิปเป็นเนื้อหาคอนเทนต์ขึ้นมาก็เป็นได้
หรือแม้แต่การพยายามใช้ความสนิทสนมกับผู้ชมด้วยการพูดจาด้วยถ้อยคำ กิริยา ที่ดูหยาบคาย หรือส่อไปทางเพศ ซึ่งแน่นอนเรื่องราวเหล่านี้มันเข้าถึงกลุ่มคนได้ง่ายอยู่แล้ว เพราะมันเป็นอุปนิสัยพื้นฐานของคนทั่วไป ดังนั้นการเอาตัวเองไปเป็นพวกเขาโดยการลดกำแพงความห่างไกลระหว่างผู้ชม ผู้ติดตามกับเจ้าของช่อง ซึ่งมันก็เป็นคาแรคเตอร์ของช่องนั้นๆ ไม่มีถูกหรือผิด แต่กลุ่มเป้าหมายผู้ติดตามก็จะเป็นแค่คนที่ชื่นชอบคอนเทนต์ลักษณะนี้ แต่ไม่สามารถ “Mass” ได้
กลับมาที่ช่อง Cullen Hateberry สิ่งที่ผู้ชมส่วนใหญ่เห็นตรงกันคือ การที่ทั้งสองคนมองสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าแม้ว่ามันจะสร้างอุปสรรค สร้างปัญหา หรือทำให้การถ่ายทำไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนักให้เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นได้ และแทนที่จะต้องหัวเสียกับมันเพียงเพราะความไม่ได้ดั่งใจ กลับมองเป็นความธรรมดาที่ผ่านมาและผ่านไปด้วยทัศนคติคิดบวก ไม่เอาอารมณ์ไปใส่กับสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การแสร้งทำแล้วจะทำได้ตลอดเวลาด้วย เพราะการถ่ายคลิปในลักษณะ vlog แบบนี้เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าที่พบเจอให้เป็นไปตามบทที่เขียนไว้ ถ้าพื้นฐานจิตใจของคนๆ นั้นไม่มีหรือถูกปลูกฝังทัศนคติที่ดีจากเนื้อแท้ที่เกิดจากการอบรมณ์​เลี้ยงดู หรือจากพื้นฐานครอบครัวที่อุ้มชูชุบเลี้ยงสั่งสอนมา ก็จะไม่สามารถรักษาอารมณ์ได้ให้เป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีได้ตลอดเวลาอย่างแน่นอน
การใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของทั้งคู่ไม่ว่าจะต่อคน สัตว์ สิ่งของ ต้นไม้ ใบหญ้า และทุกสิ่งรอบตัวที่ผู้คนมักมองข้าม อันที่จริงมันเหมือนเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิต วัฒนธรรม และภาษาไทยของคัลแลนด์กับพี่จอง เพราะยิ่งการที่สงสัยอะไร การกล้าถาม กล้าชวนคุย
1
มันคือการฝึกฝนการเอาตัวรอดอย่างหนึ่งเช่นกัน ภาพที่ออกมามันสื่อให้เห็นถึงความพยายามของชาวต่างชาติที่ต้องการจะเข้าใจสิ่งต่างๆ ที่อยู่ตรงหน้าที่ไม่ใช้โลกที่พวกเขาเติบโตมา ไม่ใช่ภาษาที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ความน่ารักน่าเอ็นดูจากความไม่รู้จึงเกิดขึ้น และทำให้คนดูลุ้นไปกับเขาทั้งสองคนในการผ่านสถานการณ์ต่างๆ ไปให้ได้
สุดท้ายการไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์ ผิดพลาดบ้าง ไม่ต้องเพอร์เฟค ไม่ต้องวางแผนเยอะ แค่ให้บรรยากาศและช่วงเวลา ณ ตอนนั้นพาไป เพราะคนเราเมื่อเสพติดความสมบูรณ์แบบมากๆ จากที่มันเคยพิเศษมันจะกลายเป็นสิ่งที่แสนธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษอีกต่อไป แต่สำหรับทั้งสองคนนั้น ทุกอย่างเริ่มมาจากความธรรมดา การเดินทางที่แสนธรรมดา สถานที่ธรรมดา การใช้ชีวิตที่ธรรมดา และมีความสุขกับเรื่องธรรมดา
แต่กลับเป็นว่ามันสามารถสร้างความพิเศษได้ด้วยตัวมันเองจากเสน่ห์ของทั้งสองคน อย่างบ้านสถานที่ บางที่พัก ร้านอาหารบางร้าน คนในประเทศยังไม่รู้ว่ามี หรือยังไม่เคยไปด้วยซ้ำด้วยข้อแม้บางอย่าง แต่ทั้งคู่เป็นเหมือนกับตัวแทนเพื่อนนักเดินทางที่ดั้นด้นไปจนถึง และกลับมาจุดประกายให้คนที่ไม่เคยไป ได้ลองออกไปใช้ชีวิตสักครั้ง แบบที่ไม่ต้องวางแผนให้ยุ่งยาก แต่ปล่อยตัวปล่อยใจให้มันเดินทางไปพร้อมจังหวะของชีวิตที่ราบเรียบบ้างก็เป็นเรื่องดี
อย่างไรก็ตาม เส้นทางการเป็นคนดังของทั้งคัลแลน พี่จอง และผองเพื่อนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่มันคือจุดเริ่มต้นจากการเป็นตัวของตัวเองที่มีความน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ใช่เกิดจากการสร้างดราม่า หรือมีกระแสขึ้นมาเพราะความหยาบคาย
ซึ่งเป็นมิติที่น่าสนใจและเป็นกรณีศึกษาให้คนที่เป็น Youtuber หรือ Influencer หรือพยายามสร้างตัวตนของตัวเองบนโลกออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยความ Toxic เพื่อให้ตัวเองดังและเป็นที่สนใจของโลก แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมในสังคมในด้านผู้ให้ความสุขกับผู้คนได้เช่นกัน และทุกคนก็รับความน่ารักของพวกเขาเข้าไปอยู่ในหัวใจแบบไร้มลพิษ
โฆษณา