30 ม.ค. 2024 เวลา 06:49 • ครอบครัว & เด็ก

ก่อนจะหัดเม้าท์ เลาหัดเล่าก่อนเด้อ

นิทานเรื่องแรกที่เล่า อิอิ
14 Jun 2559
ณ. ฟาร์มแกะแห่งหนึ่ง ของประเทศนิวซีแลนด์
เสียงเห่าน่ารำคาญของเจ้าสุนัขหนุ่มน้อยตัวเล็ก ที่ถูกผูกไว้ขอบสนามหญ้า สร้างความน่ารำคาญไม่น้อยให้กับนักท่องเที่ยวที่กำลังสนุกไปกับ การบรรยายวิธีต้อนฝูงแกะเข้าและออกจากคอกแกะจำลองกลางสนามหญ้า เจ้าสุนัขน่ารำคาญตัวนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกยังไง ตาของมันจ้องเขม็งไปในสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ น่าจะเรียกว่าทุ่งหญ้าถึงจะถูก ปากก้อเห่าไม่หยุด ขาก้อวิ่งตะเกียกตะกายไปมา เพื่อให้หลุดจากเชือกเส้นใหญ่ที่พันธนาการมันอยู่
ถ้าสังเกตดูดีๆแล้ว มันไม่ได้ดิ้นรนแค่อยากจะหลุดจากเชือกเพียงอย่างเดียว ทิศทางที่มันพยายามพุ่งไปคือกลางสนามหญ้านั่นแหละ
หืมมม ทำไมนะ....
อารมณ์อยากรู้กระฉูดขึ้นมาทันทีแต่ด้วยเสียงเห่าแหลมบาดหูดังแบบไม่มีจังหวะ เห่ารัวๆเหมือนเสียงตะโกนบอกว่า ปล่อยชั้น ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะ เสียงน่ารำคาญนั้นทำให้หมดความสนใจที่จะเข้าใจมันเอาง่ายๆเหมือนกัน ทั้งๆที่.... หน้าตามันก้อดูน่ารักดี^^
ผู้บรรยายเล่าถึงวิธีต้อนฝูงแกะ เขาแต่งตัวแบบคาวบอย สวมหมวกปีกกว้างใบใหญ่ นั่งบนหลังม้าสีดำ ตะโกนบรรยายเสียงดัง ต่อสู้กับเสียงเห่าของเจ้าสุนัขน่ารำคาญนั่น ภาษาอังกฤษที่ปกติก้อฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่เมื่อฟังร่วมกับเสียงเห่านั่น ถ้าฟังออกก้อแปลกละ 😅
แว่บนึงของความคิดที่ชั่วร้าย ทำไมเขาไม่เอาเจ้าสุนัขน่ารำคาญไปผูกไว้ไกลๆหน่อย ขังไว้ในกรงก้อได้ จะได้ไม่ต้องหมดพลังตะเบงเสียงสู้กะมัน นี่ถ้ามีใบประเมิน จะให้ตกในเรื่องการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดีในการบรรยายเลยทีเดียว
เป็นเรื่องจริงที่ว่า การสื่อสารให้เข้าใจไม่ได้มีแค่การพูดหรือฟัง การมองและสังเกต ช่วยได้ดีทีเดียว ขณะที่หูทำงานไม่ได้เรื่องได้ราว ตาจึงเป็นที่พึ่งที่ดี
เห็นอิตาคาวบอยชี้โบ้ชี้เบ้ไปที่กลางทุ่ง ตาก้อเลยเหลือบมองตามไปที่ทุ่งกว้าง มองเห็นแกะฝูงใหญ่ที่กระจัดกระจายเต็มทุ่งหญ้า บ้างเล็มหญ้าอย่างเพลิดเพลิน บ้างก้อนอนอาบแดดเกลือกกลิ้งอย่างเกียจคร้านตามประสาแกะ พอตาคาวบอยเป่านกหวีดที่ไม่มีเสียงอันนึง ซึ่งตอนแรกก้องงว่าเป่าให้ใครฟังฟระ แต่พอเห็นเจ้าสุนัขต้อนแกะตัวหนึ่งที่ยืนอยู่กลางทุ่งขยับตัวเมื่ออิตาคาวบอยเป่านกหวีด ก้อเลยเข้าใจ อ้อ นกหวีดของหมา 555 ดีที่ไม่ได้ยิน
เจ้าสุนัขต้อนแกะตัวนั้น มองฝูงแกะที่กระจัดกระจายไร้ระเบียบ ซ้ายที ขวาที แล้วเริ่มเห่าเป็นจังหวะ สอดคล้องกับการขยับตัววิ่ง ซ้ายทีขวาที แกะถูกทำให้ตื่นด้วยเสียงเห่า และเริ่มวิ่ง น่าแปลกใจว่า ทุกจังหวะของการเห่าและขยับตัวของสุนัขต้อนแกะตัวนั้น มีผลทำให้แกะเริ่มเกาะกลุ่มและขยับตัวไปในทิศเดียวกันไปเรื่อยๆ ไม่กี่นาทีผ่านไป เราเริ่มเห็นทิศทางของแกะทั้งฝูงชัดเจนมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น มันทั้งฝูงกำลังตรงไปที่คอกแกะจำลองที่ห่างออกไปทางด้านซ้ายของทุ่งหญ้านั่นเอง
ระหว่างที่สุนัขต้อนแกะ ทำหน้าที่ของมันในทุ่งหญ้า ไม่มีเสียงบรรยายใดๆของคาวบอยอีก ภาพข้างหน้าบอกเราได้อย่างชัดเจนถึงความเก่งของเจ้าสุนัขต้อนแกะตัวนั้น
แกะตัวสุดท้ายเดินเข้าคอก ทั้งๆที่สุนัขต้อนแกะหยุดวิ่งไปพักใหญ่แล้ว เหลือแต่เสียงเห่าของมันที่ดูเหมือนเป็นคำสั่งให้แกะเดินเข้าคอกแต่โดยดี คาวบอยอีกคนปิดประตูคอก พร้อมกับเสียงตบมือกึกก้องของนักท่องเที่ยว จนไม่ได้ยินเสียงคุณคาวบอยบนหลังม้าบรรยายสรรพคุณสุนัขต้อนแกะ ที่เค้าเรียกกลับมาให้ยืนเด่นสง่าต่อหน้านักท่องเที่ยว ทั้งหลาย เพื่ออวยมันว่า มันเป็นสุนัขต้อนแกะฝีมือดี ที่ถูกฝึกมาเป็นเวลา..…… ปี
กี่ปีฟระ!!!! เสียงรอบข้างดังจนไม่ได้ยิน T.T
หลังจากคุณคาวบอยบนหลังม้า อวยเจ้าสุนัขต้อนแกะตัวเก่งเรียบร้อยแล้ว ก้อหันมาพนักหน้ากับผู้ช่วยใกล้ๆ ให้ไปปลดเชือกของเจ้าสุนัขหนุ่มน้อยที่กำลังดีดดิ้นอยู่ใกล้นั่น
ถ้าหูไม่แว่ว ช่วงระหว่างที่ตาเพลิดเพลินไปกับลีลาต้อนแกะกลางสนามของเจ้าสุนัขตัวเก่ง จะมีเสียงเจ้าสุนัขหนุ่มน้อยน่ารำคาญตัวนั้นดังตลอดเวลา ความลุกลี้ลุกลน ตะเกียกตะกาย ของมันเพิ่มขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนกหวีดหมานั่นแหละ
การที่มันเห็นสุนัขรุ่นพี่ของมันต้อนแกะในสนาม ตาของมัน เท้าของมัน ท่าทางของมัน ...... พลังความมุ่งมั่นของมันมหาศาลแผ่ออกมาให้ทุกคนรู้สึก .... ถ้าไม่ติดที่เชือกนั่น ป่านนี้.....
ความที่มัวแต่วิเคราะห์เจ้าสุนัขหนุ่มน้อยที่กำลังจะถูกปลดเชือก เลยไม่ทันสังเกตว่า แกะทั้งหมดถูกปล่อยออกมาจากคอกอีกครั้ง
ตามนิสัยของแกะ มันกระจัดกระจายทำกิจกรรมตามใจชอบเต็มทุ่งเหมือนเดิม เจ้าสุนัขหนุ่มน้อย พุ่งตรงไปยังฝูงแกะทันทีที่เชือกหลุดจากคอของมัน ภาพที่เห็นต่อจากนั้น ...........
เจ้าสุนัขหนุ่มน้อยวิ่งเป็นตัวตลกให้กับนักท่องเที่ยวได้ชม มันวิ่งไปเห่าไปไร้จังหวะ วิ่งไปที่ไหนก้อทำให้ฝูงแกะแตกเป็น2ส่วน แกะแตกตื่นวิ่งกระเจิดกะเจิงซ้ายขวา กระจายเต็มท้องทุ่ง คุณคาวบอย เค้าปล่อยมันวิ่งไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีทางที่มันจะทำให้ฝูงแกะทั้งหมดเข้าคอกได้
ด้วยเลือดนักสู้ ทำให้มันไม่หมดความพยายามในการวิ่งไล่ ทั้งวิ่ง ทั้งเห่า จนมันเริ่มจะหมดแรง มันช้าลงเรื่อยๆๆๆๆ.....
ไม่ใช่ละ.... ไม่ใช่...
มันไม่ใช่ภาพสุนัขที่ไล่ต้อนแกะอีกต่อไป.......
มันมีภาพซ้อนลางๆในความทรงจำลึกๆทับขึ้นมา.....
มันเป็นภาพของเด็กที่กำลังจบมาใหม่ๆซิงๆ
เด็กที่มีไฟของความอยากทำงาน พิสูจน์ความเก่งของตัวเอง
เด็กที่มุ่งมั่น ขยัน ทำงานหนัก เช้าจรดเย็น เย็นจรดค่ำ หายใจเข้าออกเป็นงาน วิ่งไล่ตามความสำเร็จ ด้วยพลังของความสด....แต่ลืมไปว่า พลังนั้น..มี....ขีดจำกัด เช่นกัน
ในที่สุด.... คุณคาวบอยเป่านกหวีดเรียกมันกลับมา เมื่อเห็นมันเริ่มหอบ และช้าลง มันลังเลที่จะฟังเสียงนกหวีดคำสั่ง ดูห่วงหน้าพวงหลัง วิ่งกลับไปกลับมา เหมือนห่วงงานที่ยังทำไม่เสร็จ คุณคาวบอยต้องเป่านกหวีดซ้ำและตวัดแส้ที่อยู่ในมือ มันถึงยอมวิ่งกลับมานั่งหอบต่อหน้านักท่องเที่ยว....
มันไม่เห่าวุ่นวายอีกต่อไป
มันนิ่งสงบเสงี่ยม และยอมให้ผูกเชือกโดยดี
ความที่ไม่ขัดขืน ทำให้เราฟังคุณคาวบอยสบายหูมากขึ้น
มันเป็นสุนัขหนุ่มน้อยที่มีสายเลือดสุนัขต้อนแกะจริงตามคาด และมันกำลังถูกฝึกให้เป็นสุนัขต้อนแกะที่เก่งเหมือนรุ่นพี่ของมัน .......และนี่เป็นหนึ่งในวิธีฝึก......
ภาพจำลอง
เราอำลา ฟาร์มแกะด้วยอารมณ์ต่างๆ ใครเป็นงัยไม่รู้ ..... แต่ชั้นเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งรอการฝึกฝนที่วันหนึ่งจะได้เป็นคนเก่ง รออยู่อย่างสงบ….ข้างๆโค้ชของเขา......
#อารมณ์บรรเจิดของโค้ชเก่า
Revised 30 Jan 2023
โฆษณา