ระบบ AI Document processing จะกำหนดให้ field ที่ธุรกิจต้องการจะดึงข้อมูลไว้ให้ล่วงหน้า จากการที่เทรนโมเดล AI ให้อ่านเอกสารมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ระบบสามารถรู้ได้แบบอัตโนมัติว่าในเอกสาร Invoice นั้นมี field ใดบ้างที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ (ในขณะเดียวกันธุรกิจเองก็สามารถ Customize field ที่ต้องการจะดึงได้ด้วยเช่นกัน) เช่น ชื่อผู้ขาย วันที่ออก Invoice และจำนวนเงินรวม ซึ่งจะทำให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้ดึงออกมานั้นอยู่ในฟอร์แมตตรงตามที่ธุรกิจต้องการ
3. การดึงข้อมูลจากเอกสาร
ในขั้นตอนของการดึงข้อมูลนั้น ระบบ AI Document processing จะทำการระบุ และดึงข้อมูลที่ต้องการจากเอกสาร โดยระบบ AI ประมวลผลเอกสารจะยิ่งทำงานได้อย่างรวดเร็ว และชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นในการใช้งานแต่ละครั้งจากที่ระบบได้เรียนรู้จากข้อมูลที่ดึงออกมาในแต่ละครั้ง
และการที่มีคนเข้ามาช่วยตรวจสอบข้อมูลให้ในบางครั้ง ด้วยความสามารถของระบบ AI Document processing นั้นทำให้เป็นเรื่องง่ายที่สามารถประมวลผล และดึงข้อมูลได้ทั้งจากเอกสารที่มีรูปแบบแน่นอนตายตัว และเอกสารที่ไม่ได้มีรูปแบบที่แน่นอนตายตัว ซึ่งสำหรับเอกสารที่มีรูปแบบที่แน่นอน
ธุรกิจชั้นนำแห่งหนึ่งที่ได้นำ aiScript บริการ AI Document processing ไปใช้งานจริงนั้นได้กล่าวไว้ว่า “หลังจากนำ aiScript มาใช้งานนั้นช่วยให้ธุรกิจสามารถประหยัดเวลาการทำงานจากเดิมได้ถึง 8 เท่า” จะเห็นได้ว่าการนำระบบ AI Document processing มาใช้งานแทนการทำงานแบบแมนนวลแบบเดิมนั้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
โดยเปลี่ยนให้พนักงานมีเพียงหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลที่ AI ดึงออกมาได้ในขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น ทำให้พนักงานเองมีเวลาที่จะโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ และความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น
4. เชื่อมต่อกับระบบการทำงานในปัจจุบันได้
หากข้อมูลที่ดึงออกมาได้ไม่สามารถส่งต่อไปยังโปรแกรมที่ธุรกิจใช้อยู่ได้แบบอัตโนมัติ แน่นอนว่าย่อมทำให้การทำงานนั้นไม่สะดวก และอาจจะเพิ่มภาระให้กับคนทำงานได้ ซึ่ง aiScript ระบบ AI Document processing ที่ทาง AIGEN ได้พัฒนาขึ้นนั้นได้ออกแบบมาให้ธุรกิจสามารถนำไปเชื่อมต่อกับโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่ธุรกิจใช้อยู่ได้ผ่านทางการเชื่อมต่อ API เพื่อทำให้ขั้นตอนการทำงานทำได้อย่างไหลลื่น