2 ก.พ. เวลา 01:05 • การตลาด

TikTok สร้างโอกาสให้ครีเอเตอร์ไทย ผ่าน TikTok For All พร้อมเผยเทรนด์คอนเทนต์มาแรงในปี 2024

ถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มมาแรงที่สุดในยุคนี้ คงจะหนีไม่พ้น TIkTok แหล่งรวม Short VDO ที่แจ้งเกิดครีเอเตอร์หน้าใหม่มากมาย และเพื่อตอกย้ำกระแสที่กำลังมาแบบนี้ทาง TIkTok จึงขอชูแนวคิด “TikTok For All” แพลตฟอร์มที่สร้างโอกาสและ positive impact ให้กับคนไทยและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) อย่างยั่งยืน
โดยในประเทศไทย มีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านคนที่สร้างรายได้จาก TikTok และมีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน (โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก TikTok ในปี 2564 อุตสาหกรรมครีเอทีฟของประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของ GDP ของประเทศ โดยในปี 2565 จำนวนบุคลากรที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นถึง 963,549 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมครีเอทีฟที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต
ชนิดา คล้ายพันธ์, Head of Public Policy – Thailand กล่าวว่า “TikTok ยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน โดยเราขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านแนวคิด TikTok for Smart Economy, Smart People, and Smart Environment แนวคิดนี้ช่วยให้ทุกคนสามารถแบ่งปันเรื่องราวผ่านความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้สร้าง positive impact ผ่านแคมเปญที่หลากหลายของเราที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความยั่งยืน"
และเพื่อสนับสนุนการทำคอนเทนต์ให้กับเหล่าครีเอเตอร์ ทาง TIkTok ได้เปิดเผยเทรนด์คอนเทนต์ที่กำลังมาแรงในปี 2024 นี้ โดยแอดสรุปมาให้ทั้งหมด 4 ข้อดังนี้
1. เน้นความตลก และสนุกสนาน
2. คอนเทนต์เรียล ๆ ที่สร้างแรงบันดาลใจ
3. โอกาสของเหล่าครีเอเตอร์หน้าใหม่
4. หมวดหมู่สุดฮอตที่ควรโฟกัส
- Entertainment Trends
- International & Local Travel
- Creative Food Trends
- Beauty Redefined
- Perspective of Thai Fashion
- Educational & Books
- Variety of Sports
- Broader gaming community
TikTok มอบทักษะและความรู้ด้านดิจิทัลเพื่อยกระดับความรู้และทักษะให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทย รวมถึงหลักสูตรออนไลน์ความรู้ด้านดิจิทัลสำหรับเยาวชนไทย โดยความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (BMA)
นอกจากนี้ TikTok ยังจัดโปรแกรมอบรมทักษะดิจิทัลสำหรับธุรกิจท้องถิ่น โดยความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น (OTOP) จำนวน 532 แห่งทั่วประเทศในเฟสแรก โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนอีกกว่า 1,000 แห่งในปีนี้ ทั้งนี้ TikTok ยังคงสร้างโอกาสอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนให้เกิด positive impact ผ่านแคมเปญต่างๆ เพื่อคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทยทุกคน
พิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา, Head of Operations – Thailand กล่าวว่า “TikTok ตั้งเป้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยโดยให้การสนับสนุนคนไทยผ่านอีโคซิสเต็มบนแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์ ความมุ่งมั่นของเราคือการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้ของเรา รวมถึงการค้นหา และเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย
แพลตฟอร์มของเรายังสร้างโอกาสและมุ่งมั่นในการปลดล็อคความเป็นไปได้ให้กับครีเอเตอร์ของเราในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผลงานเพื่อรักษาและยกระดับความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา”
TikTok ได้พัฒนาไปมากกว่าการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงชีวิต (life-changing moments) ของครีเอเตอร์
ในปี 2567 TikTok พร้อมขยายการสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ไปที่พาร์ทเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ด้วยกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น เวิร์คช็อปพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และยังคงสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่อไปโดยขยายความร่วมมือระดับเวิลด์คลาสกับครีเอเตอร์ระดับโลก ช่วยให้ครีเอทีฟคอมมูนิตี้ที่หลากหลายสามารถแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ไปพร้อมๆ กับเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง
กรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์, Head of FMCG, E-Commerce - Thailand กล่าวว่า “TikTok Shop คือ อีโคซิสเต็มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากการค้นพบไปสู่การตัดสินใจได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เราสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ infinity loop โดยทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นตั้งแต่การค้นพบไปจนถึงการพิจารณา การซื้อ และการรีวิว แล้วกลับไปสู่การค้นพบอีกครั้ง
ปัจจุบันเราสนับสนุนผู้ขายจำนวนมากกว่า 2.4 ล้านราย โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ เรายังคงส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ขายและผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศเติบโต”
ในปี 2567 TikTok มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนแก่ผู้ขายและธุรกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพให้พวกเขาเติบโตและคว้าโอกาสทางธุรกิจได้ โดย TikTok ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซผ่านการควบรวมคอนเทนต์ความบันเทิงและคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประสบการณ์ช็อปปิ้งอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ
ชลธิชา งามกมลเลิศ, Head of Client Partnership, TikTok กล่าวว่า “ในฐานะของแพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่สร้าง impact TikTok ได้พัฒนาไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มแบบไดนามิกที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารเรื่องราวของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้าง positive impact
ในปี 2567 TikTok ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG), คอมเมิร์ซ, อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), ยานยนต์, การเงิน, และแอปพลิเคชั่น ด้วยการผสมผสานคอนเทนต์แบบไดนามิก และกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ โดยเรายังคงมุ่งมั่นในการเร่งสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจในทุกขนาด”
พลังของ TikTok ได้ขยายไปที่ customer journey โดยมีผลต่อกระบวนการตัดสินใจและยังมีบทบาทสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมผู้บริโภค จากผลการศึกษาของ TikTok พบว่าการดูคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยมากกว่า 70% ของผู้บริโภคพึ่งพาวิดีโอบน TikTok
ยิ่งไปกว่านั้น TikTok ยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับคอมมูนิตี้ด้วยการส่งเสริมโอกาสในการเติบโตสำหรับธุรกิจทุกขนาดผ่านเทรนด์ Shoppertainment และทรานส์ฟอร์มประสบการณ์การช้อปปิ้งด้วยการผสานความบันเทิงและคอมเมิร์ซอย่างลงตัว ต่อจากนี้ TikTok จะยังคงส่งเสริมให้แบรนด์ต่างๆ สร้าง Impact ให้กับธุรกิจในทุกขนาดอย่างต่อเนื่อง และขยายการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ
โฆษณา