3 ก.พ. 2024 เวลา 12:00 • ธุรกิจ

สรุปโมเดลรายได้ เถ้าแก่น้อย ขายในไทยแค่ 34% ที่เหลือเป็น ยอดขายต่างประเทศ

รู้ไหมว่าวันนี้ รายได้ทุก ๆ 100 บาท ของเถ้าแก่น้อย มาจากต่างประเทศ 66 บาท
และเป็นรายได้จากในประเทศแค่ 34 บาท
แล้วกลยุทธ์ที่ทำให้ เถ้าแก่น้อย โตในต่างประเทศได้มาก เป็นอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หรือ TKN นั้น ก่อตั้งขึ้นในปี 2547
เพื่อทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสาหร่ายแปรรูป ภายใต้ตราสินค้า "เถ้าแก่น้อย"
โดยผู้ก่อตั้งคือ คุณอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ หรือคุณต๊อบ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท
1
ปัจจุบัน TKN มีโรงงานผลิตสินค้าจำนวน 2 โรงงาน ได้แก่ โรงงานที่จังหวัดปทุมธานี และโรงงาน
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
และมีสำนักงานขายในสหรัฐอเมริกา
ต้องบอกว่า 1 ปีหลังจากก่อตั้งธุรกิจ
TKN ก็เริ่มมีการส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ โดยประเทศแรก คือ สิงคโปร์
1
ปัจจุบัน สินค้าหลักของเถ้าแก่น้อย ประกอบไปด้วย 2 กลุ่ม คือ
- กลุ่มสาหร่ายแปรรูป เช่น สาหร่ายทอด สาหร่ายย่าง สาหร่ายเท็มปุระ สาหร่ายทอดอบ
- กลุ่มสินค้าอื่น ๆ เช่น สินค้าชานม Just Drink, รายได้จากร้านอาหารฮิโนยะ, รายได้จากร้าน Bomber Dog
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ที่ผ่านมา เถ้าแก่น้อยมุ่งเน้นการส่งเสริมการตลาด ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Go Global”
เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับตราสินค้าในหลาย ๆ ตลาดในต่างประเทศ เช่น จีน อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา และ มาเลเซีย
โดยกลยุทธ์นี้ สรุปเป็นข้อ ๆ ที่น่าสนใจได้ เช่น
- มุ่งเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาด ผ่านช่องทางออนไลน์
- โปรโมตสินค้าใหม่ รสชาติใหม่
อย่างในปีที่ผ่านมา ก็มีการออกสาหร่ายย่างแนวแผ่นหยัก รายแรกในตลาด ภายใต้ชื่อ เถ้าแก่น้อย Wave หรือ สาหร่ายอบ แผ่นยาวแนวใหม่ ภายใต้ชื่อ เถ้าแก่น้อย Long Sheet
- เป็นสปอนเซอร์กิจกรรมต่าง ๆ เช่น กีฬาฟุตบอล รวมไปถึงการจัดกิจกรรมการแข่งขันของเยาวชน เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้บริโภคชาวจีนให้มากขึ้น
1
ในกรณีของสหรัฐอเมริกา สินค้าเถ้าแก่น้อยได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกามากขึ้น
1
ทำให้ Costco ห้างค้าส่งรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ทำการขยายการขายสินค้าเถ้าแก่น้อย ในจำนวนสาขาที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
1
ซึ่งนอกจาก Costco แล้ว สินค้าของเถ้าแก่น้อยยังถูกนำไปวางขายในห้างค้าปลีกค้าส่งชั้นนำอย่าง Hema, Ole, Walmart, 7-Eleven, Wholefood
1
พอเป็นแบบนี้ จึงทำให้ 9 เดือนแรกของปี 2566 รายได้ทุก ๆ 100 บาท ที่บริษัทขายได้นั้น มาจากต่างประเทศถึง 66 บาท
ซึ่งถ้าแยกสัดส่วนรายได้ตามภูมิภาค
- จีน 25%
- ประเทศอื่น ๆ (สหรัฐอเมริกา, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และกลุ่มประเทศ CLMV) 41%
- ไทย 34%
1
ก็ทำให้สรุปได้ว่า ตลาดหลักของ เถ้าแก่น้อย เกือบ 2 ใน 3 ของรายได้ เป็นตลาดต่างประเทศไปแล้ว นั่นเอง..
References
-แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี/รายงานประจำปี 2565, บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง
1
โฆษณา